แนะดูแลสุขภาพด้วยศาสตร์แผนไทย จากอากาศเปลี่ยนแปลง

กทม. 29 ก.ค.-กรมการแพทย์แผนไทยฯ แนะประชาชนดูแลสุขภาพด้วยศาสตร์แผนไทย รับมือปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ ชูสมุนไพร ตำรับยาไทย เมนูอาหาร น้ำสมุนไพร ที่เหมาะจะรับประทานเพื่อรักษาโรค ส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง และปรับสมดุลร่างกาย

นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ปรากฎการณ์ เอลนีโญ กำลังเป็นปัญหาสำคัญที่ประชาชนต้องตระหนัก และ ตื่นตัว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นทั่วโลกอันจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ เศรษฐกิจ แต่เรื่องที่ใกล้ตัวที่สุดคือสุขอนามัยของประชาชนในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก สำหรับประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัญหาสำคัญที่มีการคาดการณ์จากสถานการณ์ดังกล่าว คือปริมาณน้ำฝนในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลง ในขณะที่อุณหภูมิของอากาศจะสูงกว่าปกติ เมื่อเป็นเช่นนี้อาจต้องเผชิญปัญหาภาวะน้ำท่วม และภาวะภัยแล้ง อากาศร้อน ปัญหาที่ตามมาคือปัญหาด้านสุขภาพของประชาชน อาจเป็นสาเหตุหลักให้ร่างกายเสียสมดุลเกิดอาการเจ็บป่วยได้ง่าย จึงต้องมีการเฝ้าระวังและดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง อยู่เสมอ


กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก อยากแนะนำให้ประชาชน เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อให้ห่างไกลโรค โดยเฉพาะช่วงที่อากาศแปรปรวน มีฝนตกหนัก น้ำท่วม ควรให้ความสำคัญกับโรคที่มักจะเจ็บป่วยได้ง่าย เช่น ไข้หวัด ไอ จาม ท้องอืด ท้องเฟ้อ การแก้ไข้ปัญหาเหล่านี้จะต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม โดยการปรับความสมดุลของร่างกาย เน้นการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน ได้แก่ สมุนไพรรสเผ็ดร้อน เช่น ขิง ข่า กระเทียม หอมแกง ตะไคร้ โหระพา แมงลัก พริกไทย ฯลฯ เมนูอาหารที่แนะนำ ได้แก่ ต้มยำ ต้มโคล้ง แกงป่า แกงไตปลา และผัดเผ็ดต่างๆ ส่วนเครื่องดื่มหรือชาสมุนไพรที่แนะนำ ได้แก่ น้ำขิง น้ำตะไคร้ น้ำมะตูม น้ำกระชาย เป็นต้น จะช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรงได้

นายแพทย์ขวัญชัย กล่าวต่อไปว่า ในช่วงที่อากาศร้อนอุณหภูมิสูง ปัญหาหลักที่ต้องระมัดระวัง ได้แก่ โรคลมแดด ผิวหนังไหม้ วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด แนะนำให้พกยาหอมหรือยาดมสมุนไพร เพื่อบรรเทาอาการเป็นลม อ่อนเพลีย วิงเวียน หน้ามืดตาลาย ช่วยบำรุงหัวใจ และรับประทานอาหารและเครื่องดื่มสมุนไพรที่มีรสเย็น ขม จืด เพื่อลดความร้อนในร่างกาย เช่น มะระ บวบ ตำลึง ฟักเขียว สำหรับเมนูที่แนะนำ ได้แก่ แกงจืดมะระยัดไส้ ต้มจืดฟักเขียว ผัดสายบัว/ผักบุ้ง/ผักกระเฉด แกงขี้เหล็ก ยำบัวบก และ อาหารประเภทแกงจืด ดื่มน้ำสมุนไพรคลายร้อน เช่น น้ำใบเตย น้ำบัวบก น้ำแตงโม น้ำเก๊กฮวย และน้ำตรีผลา เป็นต้น ส่วนผู้ที่มีผิวหนังไหม้ สามารถใช้ว่านหางจระเข้ โดยนำเฉพาะวุ้นใสจากว่านหางจระเข้ ล้างให้สะอาดไม่มียางเหลืองติดมาทาหรือแปะบริเวณผิวหนังจะช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และลดอาการผิวไหม้จากแสงแดดได้


ในกรณีผู้ป่วยที่มีอาการภูมิแพ้ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทยจะสังเกตจาก 1) อาการระคายคอมีเสมหะ ควรรับประทานยาแก้ไอ ขับเสมหะ เช่น ตรีผลา ยาแก้ไอมะขามป้อม ยาประสะมะแว้ง ประสะกานพลู อัมฤควาที 2) อาการหายใจตื้น หายใจขัด แสบคอ แสบอก ไอ จาม คัน/คัดจมูก มีน้ำมูกมาก หวัดแพ้อากาศ ควรรับประทานยาปราบชมพูทวีป บรรเทาอาการหวัดระยะแรก และอาการที่เกิดจากภูมิแพ้อากาศ การสุมยา เป็นการใช้ความร้อนชื้นจากไอน้ำเป็นตัวพาน้ำมันหอมระเหยจากยาสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการช่วยขยายทางเดินหายใจ และเพิ่มการไหลเวียนของเลือด โดยสามารถสุมได้ครั้งละ 15 นาที วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หรือจนกว่าอาการจะดีขึ้น และ การอบไอน้ำสมุนไพร กระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือด ช่วยให้หลอดลมขยายทำหายใจสะดวกมากขึ้น สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เช่นกัน

นายแพทย์ขวัญชัย กล่าวในตอนท้ายว่า ในช่วงที่มีอากาศแปรปวนร่างกายจะเกิดการเจ็บป่วยได้ง่ายดังนั้น ควรดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง อยากแนะนำให้ประชาชนออกกำลังกายด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เช่น ฤาษีดัดตน มณีเวช โยคะ ชี่กง ฯลฯ ครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3-5 วัน และ ควรดื่มน้ำสะอาดวันละ 6-8 แก้ว นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ท่านก็จะห่างไกลโรค หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทย หรือ การใช้ยาสมุนไพรในการรักษาโรค สามารถติดต่อที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หมายเลขโทรศัพท์ 0 2149 5678 หรือช่องทางออนไลน์ที่ FACEBOOK กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก www.facebook.com/dtam.moph และ line @DTAM หรือติดต่อสถานพยาบาลของรัฐที่ให้บริการการแพทย์แผนไทย ใกล้บ้านท่าน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร