กทม.วางมาตรการเข้มด้านความปลอดภัยโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ในพื้นที่

กรุงเทพฯ 14 ก.ค. – ผู้ว่าฯ กทม. ประชุมวางมาตรการเข้มด้านความปลอดภัยการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่ถนนสาธารณะของ กทม.


(14 ก.ค.66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมมาตรการความปลอดภัยการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่ถนนสาธารณะของกรุงเทมหานคร โดยมีนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักการโยธา ผู้แทนและผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างของสำนักการโยธา ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 110AB ชั้น 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เขตคลองเตย

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญผู้รับเหมาที่ทำโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของสำนักการโยธา ซึ่งมีทั้งโครงการก่อสร้างถนน สะพานข้ามแยก ทางลอด ทางยกระดับ โรงพยาบาล อาคารสำนักงานเขต สถานีดับเพลิง มีทั้งหมด 42 ราย แต่ว่ามา 38 ราย ที่สำคัญเราเองมองว่า ผู้รับเหมาเปรียบเหมือนเป็นเพื่อนร่วมงานสำคัญในการสร้างความเจริญให้กับกรุงเทพมหานคร ที่ผ่านมาผู้รับเหมาเองก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่ามีเหตุการณ์ทางยกระดับเกิดขึ้นที่ลาดกระบัง ก็เลยไม่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ซึ่งไม่ได้มองว่าเป็นบริษัทไหน แต่มองว่าเป็นงานของกรุงเทพมหานคร เพราะฉะนั้นเราต้องร่วมมือร่วมใจกัน ในการสร้างความไว้วางใจให้กับประชาชน เราก็เหมือนร่วมทีมเดียวกัน ต้องช่วยเหลือกัน ในขั้นแรกเลยให้ทุกทีมกลับไปทบทวนมาตรการความปลอดภัยโครงการทั้งหมดของตัวเอง ทั้งในส่วนของสำนักการโยธา ผู้ควบคุมงาน ผู้รับเหมา ให้ทบทวนมาตรการทั้งหมด เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีช่องว่าง ไม่มีจุดโหว่ต่างๆ


ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่า ที่เราเน้นมากที่สุดในเรื่องแรก คือ เรื่องความปลอดภัย ทั้งในแง่ของความปลอดภัยในการก่อสร้าง ความปลอดภัยของผู้สัญจรไปมา เช่น ฝาท่อระบายน้ำที่เปิด คูน้ำที่ไม่มีตัวกั้น ไฟฟ้าส่องสว่างตอนกลางคืน ต้องไปทบทวนทั้งระบบ เรื่องที่ 2 คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม การควบคุมฝุ่น PM 2.5 เรื่องของตกหล่นที่ตกจากรถ โดยใช้ Traffy Fondue เป็นตัวช่วยในการหาข้อบกพร่อง ในส่วนของประชาชนก็จะช่วยเป็นหูเป็นตาให้เรา ที่แจ้งเข้ามาเป็นเรื่องความสะอาดเรียบร้อย เรื่องฝุ่น PM 2.5 เรื่องสิ่งของตกหล่น เรื่องที่ 3 การจัดการจราจร ซึ่งก็เป็นปัญหาสำคัญ ที่ผ่านมาผู้รับเหมาไปเน้นในเรื่องพื้นที่การก่อสร้าง แต่ไม่คืนพื้นที่ให้ กลับไปเอาสิ่งของมากองไว้ เอารถมาจอดในพื้นที่สาธารณะ แบบนี้คงไม่ได้ ต้องไปหาที่อื่น แล้วคืนพื้นที่ทางเท้าให้แก่ประชาชนโดยเร็วที่สุด

เรื่องที่ 4 เรื่องการระบายน้ำ มีสิ่งของที่กองไว้เข้าไปอุดตันอยู่ในท่อระบายน้ำ หรือาการตัดท่อที่ก่อสร้าง มีการอุดท่อไว้แล้วไม่ได้ต่อกลับคืน เวลาฝนตกจึงก่อให้เกิดปัญหาในการระบายน้ำ ก็ต้องไปทบทวนแก้ไขให้เรียบร้อย เรื่องที่ 5 การใช้รถบรรทุกพ่วงที่มีการแบกน้ำหนักเกิน หรือไม่ก็ปล่อยควันพิษ ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้มีการติดตั้งระบบตรวจสอบน้ำหนักอัตโนมัติ จะทำให้ทราบว่า รถบรรทุกที่ผ่านมามีน้ำหนักเท่าไหร่ รถบรรทุกที่น้ำหนักเกินจะส่งผลกระทบไปยังโครงสร้างของถนน ก่อให้เกิดความเสียหาย ซึ่งเรื่องนี้เป็นการนำร่อง ในอนาคตกระจายไปทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร เรื่องที่ 6 เรื่องการจ้างผู้รับเหมาช่วง ซึ่งตามหลักแล้วเราจะไม่อนุญาตให้จ้างผู้รับเหมาช่วง จริงๆ แล้วถ้าจะจ้างต้องขออนุญาตให้เป็นไปตามสัญญา ถ้าไปได้ผู้รับเหมาช่วงที่ไม่ดี คุณภาพก็ไม่ดีด้วย สุดท้ายถ้าเกิดเหตุ ผู้รับเหมาหลักก็ต้องรับผิดชอบ

เรื่องสุดท้าย เป็นเรื่องที่เราจะจัดทีมเพื่อตรวจสอบงานโครงการต่างๆ ทุกไซต์งาน ซึ่งจะเป็นผู้บริหารทั้งหมดให้ลงพื้นที่ตลอด ไม่ต้องบอกล่วงหน้าให้ไปตรวจ ให้มีทีมงานไปเช็กไปตรวจสอบว่ามีมาตรการต่างๆ ได้ทำไปตามสัญญาที่ตกลงไว้หรือเปล่า ถ้ามีการละเลยก็ต้องหยุดการก่อสร้าง ต้องเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ ถ้ามีเวลาก็ขอให้ลงพื้นที่ตลอด ขอความร่วมมือให้เป็นผู้รับผิดชอบสูงสุด เพื่อให้ดูแลอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่ากรมบัญชีกลางไม่มีการเตือนในเรื่องนี้ ต่อไปเราจะพยายามหาวิธีการข้อบัญญัติ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ประชาชนได้รับความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด


“ในอนาคต 3 เรื่องที่เราจะออกมาใช้เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้รับเหมาด้วย คือ เรื่องแรก อุบัติเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหายกับชีวิตประชาชน ผู้รับเหมารายไหนทำให้เกิดเหตุรุนแรงและเกิดความเสียหาย จะเป็นสาเหตุหนึ่งที่เราไม่อยากจ้าง เรื่องต่อมา การทำงานล่าช้า ก็เป็นเกณฑ์ที่เราไม่อยากจ้าง เพราะทำให้ประชาชนเดินทางยากขึ้น เรื่องสุดท้าย การก่อสร้างที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่น PM 2.5 รถบรรทุกปล่อยควันดำ รถบรรทุกน้ำหนักเกิน หรือทำสิ่งของตกหล่น ซึ่งเราจะบันทึกข้อมูลไว้ ในอนาคตจะมีมาตรการที่อยู่ในกรอบ แต่เราคงทำเกินกรอบกฎหมายไม่ได้ ซึ่งเราเป็นตัวแทนประชาชน จะต้องทำให้ประชาชนได้ผู้รับเหมาที่มีคุณภาพ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน สุดท้ายแล้วทุกคนที่มาในวันนี้ ถือว่าเราเป็นทีมเดียวกัน ก็ต้องร่วมมือกันทำงานให้กับประชาชน” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวในตอนท้าย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]