กทม. 1 ก.ค. – ประชาชนแห่ทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง พร้อมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกการเดินรถไฟฟ้าโมโนเรล ก่อนเปิดเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการ 3 ก.ค.นี้ เก็บค่าโดยสาร 15 – 45 บาท
บรรยากาศที่สถานีลาดพร้าว รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งเหลืออีกเพียง 2 วันก่อนจะเก็บค่าโดยสาร อย่างเป็นทางการในวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 หลังจากเปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายนที่ให้ประชาชนทั่วไปได้ทดลองใช้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ฟรี รวม 23 สถานี ตั้งแต่สถานีลาดพร้าวจนถึงสถานีสำโรง วันนี้ยังคงมีผู้มาใช้บริการอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่ถือโอกาสก่อนที่จะมีการเก็บค่าโดยสาร เดินทางเที่ยวฝั่งตะวันออก เช่นเดียวกับ 2 สามีภรรยา ผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่ระบุว่ามานั่งรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยรอบแรกเป็นการสำรวจเส้นทาง ส่วนรอบนี้ตั้งใจเดินทางไปที่ไบเทคบางนา และส่วนตัวมองว่าการจัดบริการเดินรถสายสีเหลืองมีความสะดวกสบายและเหมาะกับการเดินทางฝั่งตะวันออก ของกรุงเทพ และวิถีชีวิตของครอบครัวตนเองที่ปกตินิยมใช้บริการทั้งห้างสรรพสินค้ารวมถึงไปสถานที่ต่างๆ ในย่านบางกะปิ ทั้งนี้เห็นว่าหากแม้ในวันที่ 3 กรกฎาคม จะมีการเก็บค่าบริการสูงสุดปลายทางที่ 45 บาท ก็ยังคงจะใช้บริการต่อไป เพราะสะดวกดีกว่าใช้รถยนต์ แต่อยากให้ในอนาคตทาง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จัดแพ็กเกจบริการ สำหรับผู้สูงอายุ เช่นเดียวกับการให้บริการของรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อให้กลุ่มคนวัยนี้ได้ออกเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก
ขณะเดียวกันแม่-ลูก ใช้เวลาวันหยุด เที่ยวชมการเดินรถของรถขบวนรถไฟฟ้าสายสีเหลือง โดยขึ้นจากสถานีลาดพร้าวมุ่งหน้าไปยังสถานีเชื่อมต่อขยาย เพื่อขึ้นรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ โดยน้องพล เล่าว่ารู้สึกดีใจที่ได้ขึ้นขบวนรถไฟฟ้าโมโนเรลคันแรกของไทย เพราะเป็นรถไฟฟ้าแบบรางเดี่ยวมีความแตกต่างกับรถไฟฟ้าขบวนอื่นๆ ในประเทศไทย และได้เห็นหลายสถานีตั้งใจจะเดินทางไปกับแม่ เพื่อขึ้นรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ แม้ในอนาคตหากเก็บค่าบริการ ก็อยากจะเดินทางมาอีก เพราะสะดวก โดยปกติต้องไปเรียนพิเศษทางเส้นนี้อยู่แล้ว
ด้านสามีภรรยา ระบุว่า มีความตั้งใจเดินทางมาชมการเดินรถของขบวนรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งเป็นรถโมโนเรลคันแรกของไทย โดยบ้านพักอยู่ย่านราชเทวี ขึ้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ไปที่สำโรงและนั่งขบวนรถไฟฟ้าสายสีเหลืองกลับเข้ามาในเมืองอีกครั้ง โดยเห็นว่าการบริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเหลืองผ่านย่านชุมชนต่างๆ หลายจุด จึงนำกล้องถ่ายรูปมาเก็บภาพเป็นที่ระลึก ถึงการเดินรถไฟฟ้าโมโนเรล สายแรกของไทย ทั้งบรรยากาศในสถานีรวมถึงสถานที่ต่างๆ ภายนอกที่ขบวนรถผ่าน ทั้งนี้มองว่าการให้บริการมีความสะดวกดีกว่าการใช้รถยนต์ในการเดินทางประหยัดเวลาอย่างน้อยประมาณแค่ 30 นาทีก็ถึงที่หมาย ขณะเดียวกันเมื่อเทียบอัตราค่าบริการที่ปลายทาง 10 สถานีถึงจะเก็บรวม 45 บาทก็เห็นว่าคุ้มค่า เพราะขบวนรถวิ่งผ่านย่านชุมชน เชื่อว่าช่วยอำนวยความสะดวกได้มาก
สำหรับรูปแบบการเก็บอัตราค่าโดยสาร เดินทาง 2 สถานี อยู่ที่ 18 ถึง 21 บาท, เดินทาง 3 สถานีอยู่ที่ 22 ถึง 24 บาท, เดินทาง 4 สถานีอยู่ที่ 24 ถึง 28 บาท, เดินทาง 5 สถานีอยู่ที่ 27 ถึง 32 บาท, เดินทาง 6 สถานี อยู่ที่ 30 ถึง 36 บาท, เดินทาง 7 สถานี 33 ถึง 40 บาท, เดินทาง 8 สถานี 38 ถึง 40 บาท, เดินทาง9 สถานี 42 ถึง 45 บาท และเดินทาง 10 สถานีขึ้นไป 45 บาท .-สำนักข่าวไทย .-สำนักข่าวไทย