“ชัชชาติ” แถลงผลงานครบ 1 ปี “ทำงาน ทำงาน ทำงาน พลิกชีวิตคนกรุงฯ”

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย.- “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” แถลงผลงานครบ 1 ปี “ทำงาน ทำงาน ทำงาน พลิกชีวิตคนกรุงฯ” ชี้แจงผลงานความร่วมมือจากภาคีแบบไร้รอยต่อ “9 ด้าน 9 ดี 216 นโยบาย” เริ่มแล้ว 211 นโยบาย เชื่อปัญหาน้ำท่วมดีขึ้น ส่วนปัญหาจราจร นำเทคโนโลยีมาช่วย น่าจะเริ่มเห็นผลปีหน้า


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการแถลงข่าว “365 วัน ทำงาน ทำงาน ทำงาน กรุงเทพฯ” ชี้แจงผลการดำเนินงานในรอบ 1 ปี ภายใต้นโยบาย 9 ด้าน 9 ดี 216 นโยบาย รวมถึงทิศทางการการพัฒนากรุงเทพมหานครในระยะต่อไป โดยกล่าวว่า “365 วันที่ผ่านมา เป็น 365 วันที่สนุกและยังคงมีพลังเหลือเฟือในการทำงานต่อ ทั้งหมดที่เห็นไม่ใช่ผลงานของชัชชาติคนเดียว แต่เป็นผลงานของทีมทุกคนที่ร่วมมือกัน”

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวถึงเรื่องที่ยากที่สุดในการทำงานว่า คือเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน เรื่องความโปร่งใสเป็นหัวใจหลัก หากไม่มี ประชาชนก็จะไม่ไว้ใจ แต่แนวโน้มของเรื่องนี้ดีขึ้น ที่ผ่านมาพบว่าข้าราชการและลูกจ้าง กทม.ส่วนใหญ่เป็นคนดี แต่ประชาชนอาจไม่ยอมรับเรื่องความโปร่งใส ในส่วนของเรื่องร้องเรียนผ่านระบบ Traffy Fondue ที่มีมากถึง 300,000 เรื่อง ไม่ได้แสดงว่าเราอ่อนแอ แต่แสดงว่าประชาชนเริ่มไว้ใจเรา เชื่อว่าเราเอาจริงเอาจัง ซึ่งเห็นว่าเรื่องของ “ความไว้ใจ” มีค่ามากกว่างบประมาณ อย่างเช่น โครงการที่มีคนกังวลมาก เรื่องของการนำเงิน 200,000 บาทเข้าสู่ชุมชน กทม.ก็ทำให้โปร่งใสตั้งแต่เริ่มต้น โดยเอาประชาชนมาเป็นแนวร่วม อบรมให้ความรู้เจ้าหน้าที่และชาวชุมชน เพื่อให้ความรู้และป้องกัน ซึ่งดีกว่าการไปจับผิดทีหลัง และทำให้ผู้ปฏิบัติงานมีความมั่นใจในการทำงานมากขึ้น


ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นน้ำท่วมในกรุงเทพฯ นั้น เชื่อว่าจะดีขึ้นแน่นอน โดยใน กทม.มีจุดเสี่ยงกว่า 700 แห่ง เมื่อระบุในแผนที่ดิจิทัลและเร่งแก้ในแต่ละจุดจะเห็นว่าแก้ไปได้มากกว่าครึ่ง ในขณะเดียวกัน ก็ทำเส้นเลือดใหญ่ คือ อุโมงค์เพิ่ม และเหตุฝนตกหลายครั้งที่ผ่านมาเห็นได้ชัดเจนว่าน้ำระบายได้ดีขึ้น แต่ผลกระทบจาก Climate Change ซึ่งทำให้เกิดฝนตกหนักในบางจุดเป็นสิ่งที่ยังกังวล เพราะต้องใช้เวลาในการระบายน้ำมากขึ้น แต่เชื่อว่าเทคโนโลยีจะช่วยให้เราทำงานได้เร็วขึ้น

ที่ผ่านมา 1 ปี เราก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว หัวใจสำคัญไม่ใช่การประชาสัมพันธ์ผลงาน แต่อยากให้ประชาชนรู้สึกเองว่าชีวิตดีขึ้นจากงานที่ กทม.ทำ เรื่อง Mega Project เรื่องหนึ่งที่ กทม.ทำ คือ เอาเทคโนโลยีมาควบคุมเรื่องการจราจร น่าจะเริ่มเห็นผลในปีหน้า ซึ่งเห็นว่าปัญหาจราจรที่สำคัญคือการควบคุมไฟจราจร และพบว่ายังไม่มีการทำงานแบบ Area Base หากสามารถเชื่อมโยงข้อมูล และนำเทคโนโลยีมาช่วยในการตัดสินใจ เปิดไฟจราจรให้สอดคล้องกับสภาพจริงจะทำให้ปัญหาดีขึ้น ซึ่งต้องประสานกับตำรวจเพื่อทำให้เกิดขึ้นจริง โดยกำหนดพื้นที่เป็น Zoning เริ่มจากถนนพหลโยธิน

สำหรับประเด็นเรื่องของรถไฟฟ้าสายสีเขียว หาก กทม.ต้องใช้หนี้ จะส่งผลต่องบประมาณ กทม.หรือไม่ นั้น ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า หากมองในอนาคต หลังปี 72 จะมีรายได้ คงต้องดูอีกที หากต้องจ่ายหนี้อาจต้องทยอยจ่าย แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือรัฐบาลช่วยจ่ายให้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถบริหารได้ แต่ต้องรอบคอบมากขึ้น


โดยในการแถลงกล่าวถึง 5 เรื่องหลัก ที่ทำต่อเนื่อง คือ 1.การให้ความสำคัญกับเส้นเลือดฝอย โดยไม่ได้ละเลยเส้นเลือดใหญ่ที่เข้มแข็ง 2.การเปลี่ยน Mind set ข้าราชการ เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง หันหน้าหาประชาชน 3.ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวเปลี่ยน เช่น Open Data การให้ใบอนุญาตออนไลน์ การให้บริการ Telemedicine ซึ่งเห็นผลชัดเจน อนาคตต่อไปจะไม่หวนกลับไปในรูปแบบเดิมแล้ว 4.เรื่องของความโปร่งใส การเปลี่ยน Mind set ผู้บริหารในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายที่เป็นธรรม ไม่เก็บส่วย 5.สร้างภาคีเครือข่าย เพราะปีแรกเราไม่มีงบประมาณอะไรเลย มีเพียงความร่วมมือจากชุมชน หอการค้า หน่วยงานภาครัฐ เอกชน

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวต่อไปว่า สู่การเป็น 9 ด้าน 9 ดี ใหม่ ได้แก่ เดินทางดี ปลอดภัยดี โปร่งใสดี (ใหม่) สิ่งแวดล้อมดี สุขภาพดี เรียนดี เศรษฐกิจดี สังคมดี (ใหม่) และบริหารจัดการดี รวม 226 นโยบาย โดยเริ่มดำเนินการไปแล้ว 211 นโยบาย ส่วน 11 นโยบายที่ยังไม่ได้ดำเนินการ เป็นนโยบายที่ต้องมีการประสานงานร่วมกันกับหน่วยงานอื่น

สำหรับทุกนโยบายจะมีการนำขึ้นเว็บไซต์ http://openpolicy.bangkok.go.th เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ามาดูได้ว่ามีความคืบหน้าอย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ส่องความเสียหายน้ำท่วมหล่มสัก ชาวบ้านหวั่นท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 21 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จะลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง บ้านเรือนร้านค้าหลายร้อยหลังเจอน้ำท่วมซ้ำเป็นรอบที่ 2 ในช่วง 3 สัปดาห์ ทำให้ชาวบ้านกังวลหล่มสักจะกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก.-สำนักข่าวไทย

ไรเดอร์ร้องถูกชายอ้างเป็นตำรวจ ขี่รถประกบ-ข่มขู่

กทม. 21 ก.ย. – ไรเดอร์หนุ่ม สุดงง ถูกชายอ้างเป็นตำรวจสายสืบขี่รถตามประกบ ข่มขู่ดำเนินคดีเป็นไรเดอร์เถื่อน ขณะ สน.หนองแขม ยันไม่ใช่ตำรวจในสังกัด “ต๊ะ” ไรเดอร์วัย 27 ปี โพสต์คลิปบนเฟซบุ๊ก และนำมาร้องสื่อ โดยบอกว่า ชายคนนี้อ้างตัวเป็นตำรวจ ขี่รถมาประกบ และจอดขวางขณะกำลังขี่รถมาถึงปากซอยเพชรเกษม 81/5 เพื่อไปรับงานส่งลูกค้า ส่วนตอนคนที่อ้างเป็นตำรวจ เดินลงจากรถจักรยานยนต์ ก็อ้างว่าที่เรียกตรวจ เพราะเห็นว่าเป็นไรเดอร์ แต่ไม่มีกล่องใส่อาหารอยู่ท้ายรถ ซึ่งชายคนนี้ตามตัวมีครบทั้งวิทยุสื่อสาร ไฟฉาย และเสื้อที่ปักว่า “สืบ” มีอย่างเดียวที่ไม่เหมือนคือนิสัยที่ไม่เหมือนตำรวจ ทำให้ “ต๊ะ” ตัดสินใจถ่ายคลิปไว้ป้องกันตัวเอง เพราะเหตุเกิดขึ้นช่วงเที่ยงคืน หลังเกิดการโต้เถียงกัน สุดท้ายชายคนที่แอบอ้างเป็นตำรวจก็ไล่ “ต๊ะ” บอกจะไปไหนก็ไป เดี๋ยวโดนร้องเรียนเอง “ต๊ะ” จึงขี่รถกลับบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เพราะที่จะไปรับลูกค้าก็ไปไม่ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อขี่รถออกมา ชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจยังขี่รถตามมา “ด่า” จนถึงปากซอยทางเข้าบ้าน แล้วก็ขี่รถฉีกออกไปมุ่งหน้าไปทางอ้อมใหญ่ ทำให้ “ต๊ะ” ค่อนข้างมั่นใจว่า ชายคนนี้ไม่ใช่ตำรวจ […]

“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์

ศรีสะเกษ 21 ก.ย.-“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ประเทศ มั่นใจชนะแน่ ไม่ต้องรบกวนให้ท่านช่วย ด้าน “จ๋า ธนนนท์” ภรรยา ขอสานฝันวัยเด็ก อยากเป็นนางงามขึ้นรถแห่ช่วยหาเสียง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ภายหลังจากเสร็จสิ้นการปราศรัยช่วยหาเสียงให้ นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล หรือครูอีฟ ผู้สมัคร สส.ภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ได้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอำเภอภูสิงห์ อาทิ เทพารักษ์ ศาลหลักเมืองประจำอำเภอ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ขอพรอะไรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นายอนุทิน เผยว่า ได้ขอพรให้ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข เข้มแข็ง มีแต่ชัยชนะ ประชาชนอยู่ดีกินดี จริงๆ ก็ขอแค่นี้ เมื่อถามว่าได้ขอพรให้ชนะเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ นายอนุทิน เผยด้วยความมั่นใจว่า ภูมิใจไทยชนะ ไม่รบกวนท่าน ไม่รบกวนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขอให้ประเทศไทยเข้มแข็ง ขอให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขแค่นี้ ต่อมานายอนุทิน ได้เดินหาเสียงที่ตลาดภูสิงห์ ช่วยนางสาวจินณ์ตวรรณ […]

ทบ.ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC

กทม. 21 ก.ย.-กองทัพบก ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC พร้อมเรียกร้องกัมพูชาหยุดบิดเบือนความจริง และให้ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเขตไทยย้ายออกนอกพื้นที่ กรณีสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการชายแดนกัมพูชา แถลงการณ์เมื่อ 21 ก.ย. 68 ว่า “พบการเผยแพร่ข้อมูลผ่านบัญชี Facebook Page ชื่อ “Royal Thai Army: Update” เมื่อ 19 กันยายน 2568 โดยใช้แผนผังที่แสดงลักษณะภูมิศาสตร์และตำแหน่งหลักเขตแดน ซึ่งเป็นบันทึกการประชุมลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 (พ.ศ. 2560) และภาคผนวกของบันทึกการประชุมลงวันที่ 28 ธันวาคม 2016 (พ.ศ. 2559) ของคณะกรรมการรังวัดร่วมกัมพูชา–ไทย ซึ่งเป็นผลจากการสำรวจหาตำแหน่งที่แท้จริงของหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข 43 ในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน โดยมีการบิดเบือนให้เข้าใจผิดไปว่า คณะผู้บริหารของสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการพรมแดน (ฯพณฯ ลาย เซียงลี) ได้ลงนามยอมรับเส้นเขตแดนอย่างเป็นทางการในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน ซึ่งอยู่ระหว่างหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข […]