ผู้ว่าฯ กทม.ขอรัฐบาลใหม่ทบทวนวิธีคำนวณเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” ขอรัฐบาลใหม่ทบทวนวิธีการคำนวณการเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใน กทม. พร้อมเร่งประสานความร่วมมือคืนทางเท้าตลอดเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู


(10 มิ.ย.66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกิจกรรม “ผู้ว่าฯ กทม. สัญจร เขตหลักสี่” เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการตามนโยบายติดตามผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน (Traffy Fondue) ปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานของสำนักงานเขต

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เปิดเผยหลังการประชุมว่า วันนี้เป็นการสัญจรครั้งที่ 29 เขตหลักสี่ เขตนี้นั้นกึ่งเขตชานเมืองและเขตชั้นใน มีพื้นที่ประมาณ 21 ตารางกิโลเมตร ประชากรประมาณ 100,000 คน ปัญหาใหญ่ของเขตหลักสี่ที่พบคือ เรื่องคมนาคม ปัจจุบันเขตหลักสี่มีถนนหลัก 4 เส้น ได้แก่ ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนกำแพงเพชร และถนนงามวงศ์วาน แต่ทั้ง 4 เส้นนี้มีเพียงถนนงามวงศ์วาน เพียงเส้นเดียวที่กรุงเทพมหานครดูแล ที่เหลือเป็นของกรมทางหลวง เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดปัญหา เช่น การก่อสร้าง กทม. เข้าไปกำกับดูแลได้ค่อนข้างยาก ขณะนี้จะเห็นว่าถนนที่มีการจราจรติดขัดหนักคือ ถนนแจ้งวัฒนะ ไปถึงรามอินทรา เนื่องจากมีการสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งทั้งถนน และรถไฟฟ้าสายสีชมพู อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมทางหลวง และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เมื่อมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าจึงเกิดการขุดประปา สายไฟ ทำให้ทางเดินเท้าใช้งานไม่ได้ มีประชาชนร้องเรียนเรื่องนี้เข้ามาเป็นจำนวนมาก ทาง กทม. ได้ยื่นปัญหาเรื่องนี้ให้กับพรรคก้าวไกลเมื่อครั้งที่ได้หารือกันที่ผ่านมา เพื่อเน้นการประสานงานระหว่างหน่วยงานกันมากขึ้น เพราะการจะแก้ไขปัญหาในพื้นที่เขตบางเรื่องก็อยู่นอกอำนาจของ กทม.


สำหรับเมื่อวานนี้ได้เชิญรองผู้ว่าฯ รฟม. และรองอธิบดีกรมทางหลวง ร่วมลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าในภาพรวมของการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู จุดที่ 1 Big C Supercenter แจ้งวัฒนะ (เยื้องศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ) และจุดที่ 2 บริเวณมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ถึงวงเวียนบางเขน เขตบางเขน เพื่อรับทราบถึงแผนการคืนสภาพผิวจราจร ทางเท้า การระบายน้ำ ตลอดเส้นทางการก่อสร้าง พร้อมรับฟังปัญหาที่กระทบต่อประชาชนและแนวทางแก้ไข เช่นเดียวกับข่าวเมื่อวานนี้กรณีถนนรามอินทรา เขตคันนายาว ทรุดลึก 1 เมตร ถนนดังกล่าวก็อยู่ในความดูแลของกรมทางหลวง บ่อที่ทรุดเป็นของการไฟฟ้านครหลวง ที่ได้มีการก่อสร้างบนถนนกรมทางหลวง ฉะนั้นในอนาคตต้องทำให้ความร่วมมือเข้มข้นและเข้มแข็งขึ้น โดยที่ กทม. จะเป็นเจ้าภาพในการแก้ปัญหา

ปัญหาต่อมาคือ น้ำท่วมในพื้นที่ ในเขตหลักสี่ คลองระบายน้ำหลักคือ คลองเปรมประชากร ซึ่งคลองเปรมประชากรเรามีโครงการสร้างเขื่อนและย้ายชุมชนที่อยู่ริมคลอง ปัจจุบันมีประชาชนที่ยังไม่ได้ย้ายประมาณ 1,600 หลังคาเรือน เนื่องจากประชาชนบางส่วนยังไม่เห็นด้วยในหลักการ จึงทำให้การสร้างเขื่อนเกิดความล่าช้า และทำให้การขุดลอกคลองเปรมประชากรเป็นไปได้ยาก เพราะมีบ้านเรือนประชาชนรุกล้ำอยู่ หากเข้าไปทำการขุดลอกคูคลองอาจจะทำให้บ้านทรุดตัวได้ ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลต่อเนื่องไปยังการระบายน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ กทม. ต้องเร่งดำเนินการ

โดยภาพรวมภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของ กทม. การเก็บภาษีอาจจะได้เพิ่มขึ้นจากภาษีโรงเรือน แต่การเพิ่มขึ้นนั้น ที่มาของรายได้อาจจะแตกต่างกัน เช่น แต่ก่อนผู้ประกอบการธุรกิจจ่ายภาษีโรงเรือนเยอะ แต่ปัจจุบันกลายเป็นคนที่มีที่ดินจึงจ่ายภาษีมากกว่า


จากการประเมินปี 2565 และ 2566 กระทรวงการคลังได้มีการปรับเกณฑ์ตัวเลขที่น่าสนใจ คือเจ้าของที่ดินที่ กทม. เก็บภาษีมากที่สุดในเขตหลักสี่ คือ ศูนย์ราชการ ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ เนื่องจากได้มีการพัฒนาดำเนินการในเชิงพาณิชย์ ทำให้ กทม. ต้องเก็บภาษี ในปี 2565 ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์เป็นศูนย์ราชการที่ต้องเสียภาษีตามปกติ กระทรวงการคลังได้มีการประเมินภาษีว่าธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ต้องเสียภาษีให้แก่ กทม. 56 ล้านบาท แต่ปี 2566 เหลือเพียง 25 ล้านบาท ขณะที่ที่ดินแปลงอื่นที่มีขนาดเล็ก ราคาประเมินเสียภาษีกลับเพิ่มขึ้น ที่ดินขนาดใหญ่กลับเสียภาษีน้อยลง ทั้งที่อยู่พื้นที่ใกล้เคียงกัน นี่เป็นสิ่งที่ต้องฝากรัฐบาลใหม่ให้ช่วยทบทวนวิธีการคำนวณการเสียภาษีเป็นอย่างไร เนื่องจากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เป็นภาษีที่สำคัญของท้องถิ่น สำหรับการเก็บภาษีของเขตหลักสี่ปีนี้คาดว่าจะเก็บได้ประมาณ 290 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับภาษีโรงเรือน

สำหรับภาพรวมเขตหลักสี่เป็นเขตที่มีการขยายตัวมากขึ้น ประชาชนอยู่ในพื้นที่มากขึ้น แผนการพัฒนาสวน 15 นาที ก็ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งพื้นที่เขตควรจะมี 8 สวน ขณะนี้แล้วเสร็จ 1 สวน กำลังดำเนินการอีก 3 สวน และจะขยายเพิ่มต่อไปในอนาคต เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและพื้นที่ออกกำลังกายให้กับประชาชนมากขึ้น การปลูกต้นไม้เขตหลักสี่ ปลูกไปกว่า 10,000 ต้น แต่ยังคงต้องเน้นการปลูกไม้ยืนต้นเพิ่มขึ้น

ส่วนการเตรียมความพร้อมการนับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 6 หน่วยเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 11 มิ.ย. 66

เรื่องนี้ไม่ได้มีความกังวลใด พร้อมดำเนินการตามแนวทางที่ กกต. กำหนด อาจไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในเชิงปฏิบัติการ แต่ในมิติว่าเกิดเหตุนี้ได้อย่างไร คงต้องมีการสรุปอีกครั้ง ที่ผ่านมาเราทำได้ค่อนข้างดี เช่น กล้อง CCTV ยังคงมีการเก็บข้อมูลอยู่กรณีที่ต้องมีการนับคะแนนใหม่ จะเห็นว่าหัวใจหลักของการเลือกตั้งคือการสร้างความไว้วางใจให้กับประชาชน หากประชาชนยอมรับผลการเลือกตั้งก็จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง และทำให้การจัดตั้งรัฐบาลมีความมั่นใจมากขึ้น

สำหรับช่วงบ่าย ผู้ว่าฯ ชัชชาติ และคณะผู้บริหาร เยี่ยมชมสวนเกษตรดาดฟ้า และร่วมกิจกรรมสาธิตย้ายต้นกล้าผักลงแปลงปลูก เก็บเกี่ยวผลผลิตในแปลงสาธิต การทำน้ำหมักชีวภาพจากเปลือกผลไม้ หลังจากนั้นลงพื้นที่ 5 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 ตรวจเยี่ยมชมรมผู้สูงอายุเคหะชุมชนทุ่งสองห้อง ศูนย์สาธารณสุข 53 สวนสาธารณะทุ่งสองห้อง และชุมชนโดยรอบ

จุดที่ 2 ตรวจเยี่ยมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ซอยแจ้งวัฒนะ 14 และตรวจเยี่ยมบ้านหนังสือเมืองทองนิเวศน์ 1 จุดที่ 3 ติดตามการตัดราวสะพานด้านหลังสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ชุมชนตลาดหลักสี่ จุดที่ 4 ติดตามความคืบหน้าการดำเนินกิจกรรมคัดแยกขยะ โครงการ ข.ไข่ ข.ขวด ชุมชนพัชราภา และจุดที่ 5 ตรวจสอบการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เขตหลักสี่ บริเวณซอยพหลโยธิน 49/1 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

EOD ลุยค้นหาจรวด หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง

13 ส.ค. – EOD ลุยค้นหา-เก็บกู้จรวดในพื้นที่บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง ขณะที่คณะ ICRC ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผลกระทบเหตุปะทะ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ยางพาราของชาวบ้านและอีกหลายจุด ในเขต ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบหลุมต้องสงสัยอยู่ในที่ดินของตัวเอง จากการตรวจสอบพบสะเก็ดระเบิด และอีกหลายจุดพบเป็นหลุมคล้ายหลุมจรวด BM21 ที่ตกลงมา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และต้องใช้ความระมัดระวัง ขณะที่ชาวบ้านที่เพิ่งเข้ามาอยู่บ้าน ยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ โดยเฉพาะหลังมีทหารเหยียบทุ่นระเบิดเป็นรายที่ 5 EOD เร่งตรวจสอบ–กู้ระเบิดกระสุนปืนใหญ่ชายแดน ส่วนที่ศรีสะเกษเจ้าหน้าที่ EOD สนธิกำลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบกระสุนปืนใหญ่ตกในเขต ต.เสาธงชัย และ ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน เบื้องต้นพบ 7 จุด บริเวณสวนยางพาราและใกล้เขตชุมชน โดยส่วนใหญ่เป็นลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด 100 มิลลิเมตร เจ้าหน้าที่ได้ทำการขุดตรวจพิสูจน์ พบว่าหลายลูกระเบิดไปแล้ว เหลือเพียงเศษซาก และยังพบอีก 1 จุดในพื้น […]

อึ้งพระอยู่กับสีกา เปิดบนรถเจอกองทิชชูใช้แล้ว

สกลนคร 13 ส.ค. – วงการผ้าเหลืองฉาวอีก ตำรวจตรวจรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง พบพระกับสีกาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 คุยไปคุยมา สุดท้ายไปจบที่ลาสิกขา หลังตำรวจ สภ.ขมิ้น จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบรถเก๋งต้องสงสัยสีดำ จอดผิดปกติบริเวณ ริมคลอง บ.พาน ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อเข้าไปตรวจสอบ ตำรวจต้องอึ้ง เมื่อเจอพระอยู่กับสีกา 2 ต่อ 2 ในรถ ต่อมาทราบว่า คือ พระชัยณรงค์ อายุ 53 ปี สังกัด วัดแห่งหนึ่ง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จึงเชิญตัวไปยังวัดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีลาสิกขา และนำตัวมาตรวจปัสสาวะ ผลไม่พบสารเสพติด แต่รถที่พระเเละสีกาดังกล่าวอยู่ด้วยกัน พบเป็นรถที่ถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ คืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.ขมิ้น พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณสถานที่เก็บของกลาง กระจกด้านข้างและด้านหลังติดฟิล์มดำสนิท แต่ด้านหน้าฟิล์มใสมองเห็นถึงภายใน ที่เบาะนั่งข้างคนขับ ยังพบกองจีวรของทิดชัยณรงค์ […]

สถานการณ์ชายแดนสุ่มเสี่ยงปะทะรอบ 2

สุรินทร์ 13 ส.ค. – กระแสข่าวจากหลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่าระยะ 2 วันนี้ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเพิ่มความตึงเครียด สุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะรอบ 2 ฝ่ายปกครอง จ.สุรินทร์ จึงแจ้งเตือนไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ลูกบ้านเตรียมพร้อมรองรับเหตุฉุกเฉิน ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือน พบว่า หลายครอบครัวเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ 1-2 วัน หลังอพยพหนีภัยการสู้รบในห้วงวันที่ 24 – 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับข่าวไม่สู้ดีนัก เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แจ้งให้เตรียมความพร้อม เก็บสัมภาระไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงการปะทะ รอบ 2 ซึ่งอาจรุนแรงมากกว่ารอบแรก ทำให้ชาวบ้านหลายคนต่างตื่นตระหนก ต้องการอพยพไปอยู่นอกพื้นที่ แต่เมื่อผู้นำหมู่บ้านทำความเข้าใจ ก็คลายความกังวลลงบ้าง โดยสื่อสารข้อความจากนายอำเภอพนมดงรักว่า รอให้มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้นก่อน จึงให้อพยพ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อฟัง เพราะส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ไหน เพราะยังไม่มีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือนตลอดห้าวัน เพราะเป็นห่วงวัวที่เลี้ยงไว้ จึงอาศัยอยู่ในกระต๊อบพร้อมญาติรวมสี่คน และประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะปลอดภัย เพราะวิถีกระสุนไปตกไกลกว่า จึงได้ยินเสียงปะทะอย่างชัดเจน […]

คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำ ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัว

มุกดาหาร 13 ส.ค.- คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา หลังศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 26 ปี คดีน้องชมพู่ จากกรณีศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาเพิ่มโทษให้จำคุก “ลุงพล” 26 ปี ฐานเจตนาฆ่าเด็ก พรากผู้เยาว์ และอำพรางศพ ขณะที่ “ป้าแต๋น” พิพากษายืนยกฟ้อง ในคดีฆาตกรรม น้องชมพู่ ทั้งนี้ภายหลัง ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ “ลุงพล” ได้ยื่นขอประกันตัว โดยศาลจังหวัดมุกดาหาร เสนอไปยังศาลฎีกา ล่าสุด ช่วงเย็นที่ผ่านมา ศาลฎีกายังไม่มีคำตอบลงมาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ทำให้ “ลุงพล” ถูกคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา ย้อนไปคดีนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ หายไปจากบ้านพักภาย ในหมู่บ้านกกกอก ทำให้ชาวบ้านมากกว่า 200 ชีวิต รวมถึง ตัวลุงพล ช่วยกันออกตามหา […]