6 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ กทม. ประชุมผู้บริหาร กทม. ติดตามแก้ไขปัญหาการดำเนินงานด้านต่างๆ ประเด็นเรื่อง ส.ก. การย้ายข้าราชการมีกระบวนการต้องดูข้อมูลเชิงลึกประกอบ พร้อมเร่งแก้ปัญหาบุคลากรขาดแคลน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 13/2566 โดยผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ขอบคุณโพลเรื่องขยะ ในภาพรวมต้องขอบคุณทีมงาน ถ้าผลโพลไม่ดีขอรับไว้เองถ้าดีก็เป็นของทีมงาน ซึ่งถ้ารวม 2 ยอด คือ ดีมากกับค่อนข้างดีอยู่ที่ประมาณ 75% ลดลงจากตอน 6 เดือน ประมาณ 5% ส่วนที่ไม่พอใจเลยก็เพิ่มขึ้นคล้าย ๆ กัน อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องเอาไปปรับปรุง มีหลายเรื่องที่พอใจเพิ่ม พอใจมากลดลงก็อาจจะสลับไปสลับมา และมีบางเรื่องที่ประชาชนอาจจะยังเห็นว่าต้องปรับปรุง เช่น เรื่องปากท้อง เรื่องรถติด ซึ่งต้องมีการคุยกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ที่อาจต้องปรับปรุงคือประชาชนไม่มีข้อมูลเยอะขึ้น เช่น เรื่องน้ำท่วม จาก 6 เดือนที่แล้วไม่มีข้อมูล 1% เพิ่มเป็นมากกว่า 10% ทั้งที่ก็ทำเรื่องน้ำท่วมเยอะมาก ต้องพยายามสื่อสารให้ประชาชนมีข้อมูลมากขึ้น ได้ให้รองปลัดฯ และรองผู้ว่าฯ ทุกคนเอาข้อมูลไปศึกษารายละเอียดแล้วหาแนวทางในการปรับปรุงต่อไป
ส่วนเรื่องจดหมายจาก ส.ก. เกี่ยวกับการย้ายข้าราชการ ทางฝ่ายบริหารไม่มีปัญหาอะไร การรับข้อติชมหรือข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานมีมาตลอด แต่การเขียนจดหมายเป็นทางการน่าจะเป็นครั้งแรก จริง ๆ ประธานที่ปรึกษาฯ ไม่ได้มีอำนาจในการย้ายใคร การย้ายมีกระบวนการที่ชัดเจน การโยกย้ายเป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร ส.ก. ไม่มีอำนาจในการโยกย้าย ข้อมูลที่ได้รับถือเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจและหาข้อมูลเชิงลึกเพิ่มขึ้น ต้องไปดูว่าเป็นอย่างไรและฝ่ายบริหารก็ไม่มีอำนาจไปตรวจสอบ ส.ก. เป็นเรื่องที่ทางสภากรุงเทพมหานครจะดูกันเองว่าเป็นอย่างไร ทาง ส.ก.ให้ข้อมูลมาก็มีกระบวนการ มีระเบียบข้อกำหนดอยู่ นอกจากนี้เรื่องห้องทำงานของ ส.ก. ที่เขตนั้น ตามระเบียบไม่ได้มีกำหนดไว้แต่หากมีพื้นที่ ส.ก. อาจเข้าไปนั่งทำงานบ้าง แต่คงไม่ใช่ห้องส่วนตัว น่าจะอยู่ที่สถานการณ์ ผู้ว่าฯ เองก็ไม่มีห้องทำงานที่เขต
ส่วนเรื่องปากท้องมีนโยบายสวัสดิการของรัฐ เช่น ให้เบี้ยคนจน เป็นของรัฐบาล ต้องดูว่ารัฐบาลใหม่ให้หรือไม่ ส่วน กทม.ช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายทางอ้อม เช่น การศึกษา สาธารณสุข ต้องฟรีอย่างแท้จริง อีกเรื่องคือสถานที่ทำมาหากิน เช่น บางคนรายได้น้อยไม่มีที่ในการทำมาหากิน เป็นประเด็นที่จะเร่งทำในอนาคตคือพื้นที่ของทางราชการที่สามารถแบ่งปันให้ประชาชนไปทำการค้าได้ให้มีการจัดสรรบ้างเพื่อให้ประชาชนมีที่ทำมาหากิน เป็นการช่วยหาพื้นที่ในการทำมาหากิน ช่วยทั้งผู้ซื้อให้ได้ซื้อของในราคาไม่แพงผู้ค้าสามารถขายของได้
• ถอดบทเรียนเลือกตั้ง ส.ส. เตรียมเสนอ กกต. เป็นแนวทางจัดเลือกตั้งครั้งต่อไป
เรื่องการถอดบทเรียนเลือกตั้ง ส.ส. ที่เห็นคืองบประมาณอาจมาช้า ซึ่งอันนี้คงคุยกันได้ ส่วนอีกเรื่องคือการเลือกตั้งล่วงหน้าที่จัดตามเต็นท์ มีข้อแนะนำว่าถ้าเป็นไปได้อนาคตหาพื้นที่ใหญ่ ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าที่มีระบบปรับอากาศ มีที่จอดรถ ระบบขนส่งมวลชนเข้าถึง ประชาชนน่าจะได้ประโยชน์มากขึ้น อย่างจัดที่ห้างตรงสยามสแควร์ หรือพารากอน สามารถเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้า และมีที่จอดรถยนต์ ส่วนที่รามคำแหงเป็นหน่วยแบบเต็นท์ มีคนเป็นลม เดินทางเข้าถึงยาก ที่จอดรถไม่มี ก็อาจต้องมีการปรับปรุง และจะเสริมเรื่องการติดตั้งกล้อง CCTV ออนไลน์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และหากเป็นไปได้ในอนาคตมีออแกไนซ์มาจัดเลือกตั้งล่วงหน้าได้จะดี เนื่องจากต้องใช้โต๊ะนักเรียน ทำให้นักเรียนต้องหยุดเรียน เป็นรายละเอียดที่จะเสนอทาง กกต. ต่อไป
• จับปรับผู้ทำผิดเกี่ยวกับกัญชาและอุปกรณ์ sex toy
ส่วนสถานการณ์กัญชาในพื้นที่ตอนนี้ดีขึ้น ที่ผ่านมาเทศกิจได้ใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องจับปรับผู้ที่ทำผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายกัญชาเคลื่อนที่ประมาณ 50 กว่าราย ส่วนร้านต่าง ๆ ได้มีการประสานความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข และกรมแพทย์แผนไทยในการดำเนินการ ได้พยายามทำในกรอบที่สามารถทำได้ นอกจากกัญชาก็จะมีการขายพวกอุปกรณ์ sex toy ซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมายและดูไม่ดีต่อภาพลักษณ์ของเมือง เทศกิจก็ได้ลงพื้นที่ดำเนินการ เช่น บริเวณสุขุมวิท ทองหล่อ ได้มีการจับไปแล้วกว่า 10 ราย
ในส่วนของเรื่องการบริหารงานบุคลากรที่ขาดแคลนซึ่งเป็นกำลังสำคัญของ กทม. 2 หน่วยงาน คือ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนั้น ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวมานานแล้ว ขณะนี้ได้เพิ่มอัตรากำลังคนที่ขาดแคลน ซึ่งปัญหาแบ่งเป็น 2 ส่วน คืออัตรากำลังขาดแคลนและการสื่อสารกันที่คลาดเคลื่อน ขณะนี้ได้เร่งปรับการดำเนินการและปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากการเปิดสอบในตำแหน่งดังกล่าวแล้ว ไม่มีคนมาสมัครสอบ หรือสอบแล้วไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ซึ่ง กทม. ก็จะเร่งดำเนินการสรรหาบุคลากรให้เพียงพอในอัตราที่ขาดแคลนให้เร็วที่สุด. -สำนักข่าวไทย