“ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” ย้ำ ผอ.เขตต้องรับผิดชอบ หากผู้ใต้บังคับบัญชาทุจริต

กรุงเทพฯ 1 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ กทม. ย้ำชัดเจน หากผู้ใต้บังคับบัญชาในเขตทุจริต ผู้อำนวยการเขตจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ส่วนสถานการณ์ฝนปีนี้ การระบายน้ำจะดีขึ้น


(1 มิ.ย.66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 6/2566 ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ว่า วันนี้เป็นการประชุมหัวหน้าหน่วยงาน หลังจากเข้ามาบริหารราชการครบ 1 ปี เนื่องจากเรามีนโยบายที่ชัดเจนมาตั้งแต่เริ่มต้น ทุกคนจึงสามารถผลักดันนโยบายได้ ทำให้การดำเนินงานต่างๆ มีความคืบหน้าไปหลากหลายด้าน โดยจะมีการแถลงข่าวในวันที่ 13 มิ.ย.66

สำหรับระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาที่มีมาต่อเนื่อง โดยได้นำเรื่องต่างๆ ที่ค้างคาอยู่มาผลักดัน ซึ่งทำไปได้เยอะ ส่วนในปีต่อไปก็จะเป็นมาตรการเชิงรุกมากขึ้น ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการเขตลงพื้นที่ เพื่อเข้าถึงปัญหาและเร่งแก้ไข โดยไม่ต้องรอให้ประชาชนแจ้งเหตุเข้ามา


ในส่วนของเรื่องที่ต้องดำเนินการต่อ คือ เรื่องความโปร่งใส ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่หยุดไม่ได้ ทุกคนยังคงเป็นข้อกังวลอยู่ กรุงเทพมหานครมีบุคลากรจำนวนมาก มีคนดีและคนไม่ดีอยู่ด้วยกัน แต่เชื่อว่ามีคนดีอยู่เยอะกว่า ขณะเดียวกัน มีคนไม่ดีด้วย ก็ได้มีคณะทำงานมาแก้ปัญหาตรงนี้อย่างจริงจัง เพื่อทำให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า คนที่ทุจริตคอร์รัปชันไม่เอาไว้ แต่เชื่อว่ายังมีข้อบกพร่องและต้องปรับปรุงต่อ โดยเฉพาะในเรื่องการรีดไถต่างๆ ยังมีข้อมูลรายงานมาว่า มีเหตุเจ้าหน้าที่เรียกรับเงินเกี่ยวกับการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร จึงต้องเร่งดำเนินการ ได้สั่งการให้รองปลัดฯ เฉลิมพล ไปดูว่าเป็นอย่างไร หาหลักฐานได้ไหม ซึ่งได้มีการเตือนให้ทุกเขตระมัดระวังเรื่องนี้ แต่ถ้าไม่มีหลักฐานชัดเจนก็ดำเนินการตามกฎหมายยาก ที่ผ่านมาได้มีการร่วมมือกับ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. ล่อซื้อไปหลายเคส เพราะเราทำเองไม่ได้ มีการแจ้งทุจริต 100 กว่าเรื่อง ผ่าน Traffy Fondue 77 เรื่อง ถ้ามีเบาะแสก็มีการดำเนินการตลอด แต่ต้องมีข้อมูลหลักฐานเพื่อดำเนินการต่อ วันนี้ได้เน้นย้ำให้ผู้อำนวยการเขตติดตาม เพราะอยู่ในความรับผิดชอบที่ต้องดูแล จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา อย่างไรก็ตาม จากความเอาจริงเอาจังของผู้บริหาร เชื่อว่าสถานการณ์จะค่อยๆ ดีขึ้น

ปัจจุบันใบอนุญาตออนไลน์ยังทำได้ไม่ครอบคลุม โครงการใหญ่ๆ ยังต้องยื่นเรื่องตามปกติ อยู่ระหว่างขยายการดำเนินการ และคิดว่าคนก็ยังไม่คุ้นชิน แต่อนาคตจะคุ้นชินกันมากขึ้น รวมถึงมีการให้คณะกรรมการมาช่วยดู ไม่ใช่ตัดสินใจแค่คนเดียว ซึ่งก็จะทำให้เด็ดขาดมากขึ้น

นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า กรณีแรก อาจเป็นข้อบัญญัติบางอย่างหรือกฎกระทรวงการก่อสร้างหรือปรับปรุงอาคารไม่ค่อยสอดคล้องกับบริบทของปัจจุบัน ขณะนี้กำลังทบทวนและฟังเสวนาเรื่องพวกนี้ เพื่อทำให้กฎหมายสอดคล้องกับบริบทในกรุงเทพมหานคร ส่วนที่สอง เป็นการปรับให้มีการยื่นขออนุญาตออนไลน์ได้เพื่อความสะดวก เบื้องต้นตอนนี้อยู่ที่ไม่เกิน 300 ตารางเมตรก่อน อนาคตก็จะขยายไปอาคารประเภทอื่นด้วย แต่ต้องแยกออกจากกันระหว่างกระบวนการยื่นกับกระบวนการพิจารณา


ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวต่อไปว่า ต้องยอมรับความจริงว่าเรื่องทุจริตคอร์รัปชันยังมีอยู่ คนไม่กี่คนทำให้ภาพลักษณ์ขององค์กรเสีย แต่ถ้าไม่ยอมรับความจริงก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้ ต้องยอมรับและปรับปรุงกระบวนการต่างๆ ให้ดีขึ้น แนวทางดำเนินการเป็นไปด้วยดี มีการร่วมมือกับ ป.ป.ช. มาตลอด คิดว่าน่าจะเห็นผลต่อไป ต้องทำหลายอย่างให้ดีขึ้น เช่น ปรับปรุงกฎหมาย ลดการใช้วิจารณญาณของคนเดียว เป็นต้น

นอกจากนี้ยังได้มีการเน้นย้ำเรื่องต่างๆ ที่ประชาชนพบเจอ เช่น หาบเร่-แผงลอย ทางเท้า การขับขี่มอเตอร์ไซค์บนทางเท้า และน้ำท่วม เพื่อเร่งดำเนินการต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ซึ่งเป็นปัญหาที่คนกังวลตอนนี้ เพราะฝนเริ่มมาแล้ว จะเห็นได้ว่าช่วง 2 วันที่ผ่านมาที่เราได้ลงพื้นที่ไปดู ก็ถือว่าค่อนข้างน่าพอใจ น้ำลงได้เร็ว น้ำท่วมค้างไม่นาน

รองผู้ว่าฯ วิศณุ กล่าวถึงเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมว่า จากการถอดบทเรียนในปีที่ผ่านมา เราได้ข้อมูลจุดน้ำท่วมทั้งหมด 737 จุด เป็นจุดที่น้ำท่วมจากน้ำฝน 617 จุด โดยมีการแก้ไขถาวร 90 จุด แก้ไขเร่งด่วน 527 จุด (ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 224 จุด ล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำ 165 จุด เรียงกระสอบทราย 97 จุด ขุดลอกคลอง 17 จุด เสริมผิวจราจร 24 จุด) และเป็นจุดที่น้ำท่วมจากน้ำหนุน 120 จุด โดยมีการแก้ไขถาวร 29 จุด แก้ไขเร่งด่วน 91 จุด (เรียงกระสอบทราย 69 จุด ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 1 จุด สร้างรางระบายน้ำ 1 จุด JET MIX 18 จุด ปรับปรุงบ่อสูบน้ำ 1 จุด ปรับปรุงบ่อสูบน้ำ+JET MIX 1 จุด)

ในส่วนของการขุดลอกท่อระบายน้ำ กรุงเทพมหานครมีท่อระบายน้ำยาว 6,441 กม. แผนขุดลอกในปี 2565 ระยะทาง 3,356.9 กม. และลอกต่อเนื่องอีก 674.4 กม. แล้วเสร็จ 100% ส่วนแผนขุดลอกในปี 2566 ระยะทาง 3,758.4 กม. แล้วเสร็จ 2,597.6 กม. (69.11%) อยู่ระหว่างดำเนินการ 1,160.8 กม. (30.89%) จะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือน มิ.ย.66

สำหรับการขุดลอกและเปิดทางน้ำไหลคลอง 1,980 คลอง ระยะทาง 2,744,923 เมตร แบ่งออกเป็นเปิดทางน้ำไหล (เก็บผักตบชวา ขยะ ฯลฯ) โดยการดูแลรักษาประจำ 1,227,262 ม. เปิดทางน้ำไหลปีละ 1 ครั้ง 1,326,058 ม. และเปิดทางน้ำไหลปีละ 4 ครั้ง 191,603 ม. ซึ่งการเปิดทางน้ำไหลปีละ 1 ครั้ง และ 4 ครั้ง ขณะนี้แล้วเสร็จ 85% จะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือน มิ.ย.66 ด้านการขุดลอก มีแผนขุดลอก 182 คลอง 202,704 ม. แล้วเสร็จ 75% จะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือน มิ.ย.66 เพื่อรับน้ำฝนที่จะมา

ด้านการบำรุงรักษาสถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำ ประจำปี 2566 ได้มีการบำรุงรักษาประจำปี เช่น ตรวจเช็กระบบไฟฟ้า เครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ ระบบน้ำมันหล่อลื่น ทำความสะอาด ทาสี ฯลฯ ปัจจุบันดำเนินการได้ 409 แห่ง อยู่ระหว่างดำเนินการ 21 แห่ง ซึ่งต้องแล้วเสร็จภายในเดือนนี้

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวเสริมว่า เรื่องน้ำท่วมเป็นเรื่องที่ดำเนินการมาตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา โดยไม่ได้หยุด เราลุยเรื่องเส้นเลือดฝอย เช่น ท่อระบายน้ำ อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงมีการบำรุงรักษาดูแลเส้นเลือดใหญ่ เช่น อุโมงค์ระบายน้ำ ควบคู่กันไปด้วย เมื่อท่อระบายน้ำสามารถระบายได้ดี น้ำก็ไปถึงอุโมงค์ได้เร็วขึ้น ไม่ท่วมขังนาน ซึ่งทั้งหมดน่าจะเห็นผลในปีนี้ คือ มีการระบายน้ำที่รวดเร็วขึ้น

อีกเรื่องที่น่าสนใจที่เราเริ่มทำไปแล้ว คือ Open Data และแผนที่ความเสี่ยง หรือ Bangkok Risk Map โดยนำจุดเสี่ยงมาลงแผนที่ อาทิ จุดเสี่ยงน้ำท่วม ทำให้เห็นภาพว่าเราต้องโฟกัสตรงตำแหน่งไหนบ้าง

รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า วัตถุประสงค์ของ Risk Map คือ 1. กรุงเทพมหานครใช้ในการบริหารจัดการได้ตรงมากขึ้น โดยมีเหตุผลในการใช้งบประมาณในการปรับปรุง และ 2. เปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ด้วย เช่น เรื่อง Road Safety ซึ่งมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุ ประกอบกับภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถนำมาเทียบได้เมื่อมีเหตุเกิดขึ้น ทำให้ กทม.สามารถใช้ในการแก้ปัญหาเรื่องจุดเสี่ยง ในขณะเดียวกัน ประชาชนสามารถดูเรื่องการจราจรและจุดเสี่ยงได้ด้วย

สิ่งที่เรากำลังจะทำเพิ่มเติม ซึ่งสำนักงานเขตช่วยดำเนินการอยู่ คือ นำเข้าข้อมูลประปาหัวแดงอยู่ที่ไหน มีถังแดงอยู่ที่ไหนในชุมชน สถานีดับเพลิง สถานพยาบาล และพื้นที่ที่โรงเรียนหรือสถานที่ราชการที่เราใช้เป็นพื้นที่พักพิง ก็จะเริ่มเอาข้อมูลเข้า ตอนนี้ทางสำนักงานเขตจะคุ้นชินกับการนำเข้าข้อมูลอยู่ในแผนที่ที่เป็น Google Map ที่เขาใช้อยู่ แต่ต่อไปเราจะถอดข้อมูลเหล่านี้เข้าแผนที่กลางแผนที่เดียว หรือ One Map เพื่อให้เราสามารถเรียกดูข้อมูล ทั้งในแง่ของพื้นที่เสี่ยง ทรัพยากรและอุปกรณ์ที่เรามี สุดท้ายเราจะทำแผนที่ละเอียดขึ้น คือ ผังชุมชน โดยทำให้ง่ายๆ เพื่อให้ประชาชนใช้ได้ และกำลังจัดทำแผนเผชิญเหตุชุมชน เพื่อให้ชุมชนสามารถทราบทางเข้า-ออก ทราบความแคบของพื้นที่ จุดรวมพลจะอยู่ตรงไหน จุดนับคน และมีการระบุว่ามีกลุ่มเปราะบางอยู่ที่ไหน ทั้งนี้จะยังเห็นเป็นข้อมูลคร่าวๆ เพราะเราต้องใช้ในการบริหารจัดการ และต้องปกป้อง privacy ของภาคประชาชนด้วย

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวด้วยว่า ปีนี้จะขยายเรื่องนี้ไปทุกเขตให้ครบถ้วน ซึ่งเรามีอาสาสมัครเทคโนโลยีช่วยในการอัปเดตข้อมูลในชุมชน เพื่อให้อนาคตเราเข้าถึงการให้บริการแก่ประชาชนได้ดียิ่งขึ้น

นโยบายปัจจุบัน เราทำโครงการเส้นเลือดฝอยเยอะมาก เพราะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ประชาชนจริงๆ โดยปรับปรุงเรื่องสาธารณสุข เรื่องการศึกษาต่างๆ ถามว่าทำไมเราไม่มี Mega Project เพราะเราต้องดูสถานะการเงินเราด้วย อย่าง BTS เราก็ยังไม่แน่นอนเรื่องสภาพหนี้ ปัจจุบันเรามีหนี้ BTS อยู่เกือบแสนล้านบาท โครงสร้างพื้นฐาน ค่าเดินรถในส่วนต่อขยาย ฯลฯ รวมแล้วมูลค่ามากกว่า 9 แสนล้านบาท เรามีงบผูกพันที่ได้มีการเซ็นสัญญาล่วงหน้าไปแล้วเกือบ 2 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม การทำโครงการ Mega Project จำเป็นแน่นอน แต่ต้องรอบคอบ เราต้องใช้เงินให้น้อย แต่ให้ได้ผลเยอะ ฉะนั้นช่วงนี้เราจะใช้กับโครงการเส้นเลือดฝอย ส่วน Mega Project ที่มีอยู่แล้ว เราทำอยู่ตลอด โดยพยายามใช้เงินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

“เบื้องต้นค่อนข้างพอใจ เชื่อว่าสิ่งที่เห็นเป็นการทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ เส้นเลือดใหญ่เส้นเลือดฝอยทำไปพร้อมกัน เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง โครงการที่ให้ไว้กับประชาชนก็เดินหน้าทุกโครงการ ไม่มีปัญหาอะไร” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ในพื้นที่ว่า ได้มีการหาแนวทางป้องกัน ซึ่งตอนนี้กำลังประสานกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตและการไฟฟ้านครหลวงที่จะจัดทีมร่วมกัน โดยมีเครือข่ายวิทยาลัยช่างเทคนิคมาร่วมในการออกสำรวจตามชุมชน เก็บข้อมูลเหตุไฟฟ้าลัดวงจร ลงพื้นที่ช่วยตรวจสายไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สภาพไม่ดี ให้มีการซ่อมแซมให้ดีก่อนใช้งาน

ส่วนเหตุเพลิงไหม้ที่โรงเรียนวัดดอกไม้ เมื่อเช้า เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร มีพื้นที่เสียหายประมาณ 5 ตารางเมตร ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งที่ผ่านมาได้กำชับให้มีการสำรวจความพร้อมก่อนเปิดเรียนแล้ว ก็จะมีการดำเนินการเชิงรุกเพิ่มเติมต่อไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป่วนปัตตานี! ลอบบึ้มชุด รปภ.งานกีฬา อบต.น้ำดำ เจ็บ 4 นาย

21 ก.ค.- ป่วนงานกีฬา อบต.น้ำดำ ปัตตานี คนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่อาสาฯ ขณะรักษาความปลอดภัย บาดเจ็บ 4 นาย วันที่ 21 ก.ค.68 เมื่อเวลา 16.50 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณสามแยกคอกควาย บ้านบือแนยามู หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เบื้องต้นแรงระเบิด ทำให้ อส.ชคต.น้ำดำ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 4 นาย อาการหูอื้อ ถูกนำส่งโรงพยาบาลทุงยางแดง จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว กำลังรักษาความปลอดภัยสนามกีฬา งานกีฬา อบต.น้ำดำ ระหว่างทางได้เกิดระเบิดขึ้นทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนประเด็นและสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดียทักษิณคิดเพื่อไทยทำ

21 ก.ค.- “แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดีย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” ถามเป็นของเขาได้อย่างไร เหมือนตอนปล่อยคลิปเสียงแล้วมาบอกไม่ได้ปล่อย ด้าน “สรวงศ์” ขอสื่อไทยเลิกเป็นกระบอกเสียงกัมพูชา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังร่วมงานแถลงข่าวทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2569 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยนางสาวแพทองธาร ตอบสั้นๆ กรณีที่มีรายงานข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไปร่วมงานเลี้ยงดินเนอร์พรรคร่วมในวันพรุ่งนี้ว่า “ไม่ทราบเลยค่ะ ” ส่วนวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.)ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะมีอะไรพูดเป็นพิเศษกับผู้เข้าร่วมงานหรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า “ให้รอฟัง” เมื่อถามถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาระบุว่ามีส่วนร่วมในการคิดนโยบาย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” นางสาวแพทองธาร นิ่งคิดก่อนที่จะหันไปถามนายสรวงศ์ ว่า “เป็นของเขาได้อย่างไร” ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่าเขาเคลมว่าเป็นแบบนั้น นางสาวแพทองธาร ยิ้ม นิ่งคิดก่อนที่นายสรวงศ์จะบอกว่า “สื่อไทยต้องเลิกเป็นกระบอกเสียงให้กัมพูชา” นางสาวแพทองธารจึงพูดต่อว่า “ก็เหมือนที่เขาบอกว่าปล่อยคลิป แล้วก็บอกว่าไม่ได้ปล่อย ใช่ไหม เหมือนกันนั่นแหละ” -สำนักข่าวไทย

มติ มส. เคาะแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง

21 ก.ค.- ที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง กรณีการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุที่ผิดพระธรรมวินัย พร้อมกำหนดกรอบเวลาวินิจฉัยรู้ผลภายใน 10 วัน หากมีหลักฐานชัด และขั้นตอนการสละสมณเพศของพระที่กระทำผิด ย้ำการปรับครั้งนี้ เพื่อความรวดเร็วในการจัดการ เพิ่มบทบาทสำนักพุทธฯ แสวงหาข้อมูลและร่วมมือกับหน่วยงานอื่น รศ.ดร.ชัชพล ไชยพร ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการพระพุทธศาสนา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม ร่วมแถลงข่าวเปิดเผย ภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมวันนี้ โดย รศ.ดร.ชัชพล ระบุว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติม กฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง เพื่อใช้ในการเร่งรัดการปฏิบัติต่อพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดต่อพระธรรมวินัย หนึ่ง เกี่ยวกับการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุตามพระธรรมวินัย กฎนี้เดิมตราขึ้นปีตั้งแต่ปี 2521 โดยจะมีการเพิ่มเติมที่ให้อำนาจข้าราชการมีส่วนนำเสนอประเด็นได้โดยไม่ต้องรอคณะสงฆ์อย่างเดียว โดยอำนาจวินิจฉัยยังเป็นคณะสงฆ์ ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆ จะมีส่วนในการสนับสนุนข้อมูล พยานหลักฐาน ช่วยเร่งรัดกระชับกระบวนการให้จัดการได้ไวขึ้น โดยร่างกฎมหาเถรมาคมเรื่องลงนิคหกรรม ที่จะบังคับใช้เพิ่มเติมใหม่ จะมีการเพิ่มเติมหมวด โดยเฉพาะวิธีการปฏิบัติเมื่อปรากฏหลักฐานพระสงฆ์กระทำผิดชัดแจ้ง เช่น แบ่งเป็นในการพิจารณาพระภิกษุที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดพระธรรมวินัย เนื่องจากเสพเมถุน หรือต้องอาบัติปาราชิกอื่นๆ […]

“บิ๊กเต่า” เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกาเป็นเหตุให้สึก

บก.ปปป. 21 ก.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกา 2 ราย เป็นเหตุให้สึก ส่วนการทุจริตก่อสร้างพุทธอุทยาน และ มจร. อยู่ระหว่างตรวจสอบให้ชัด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียน “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า หลังเกิดกรณีของ “กอล์ฟ” ได้ตรวจสอบเอาผิดพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมถึงชั้นเทพ ส่วนกรณีวัดที่จังหวัดนครสวรรค์ มีสมณศักดิ์สูงกว่าคือชั้นธรรม ซึ่งเรื่องอาญาในการทุจริต โดยมีข้อมูลเชื่อมโยงกันเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี วันนี้จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน แม้พระจะสึกไปแล้วยังต้องได้รับการตรวจสอบจากตำรวจด้วยว่าจะเข้าข้อหาอาญาทุจริตหรือไม่ จากการตรวจสอบมีเส้นเงินที่ตรวจสอบพบเกี่ยวกับกอล์ฟ หลายเส้นเงิน ทาง ผบช.ก. จึงสั่งให้ตรวจสอบทุกวัด ทุกรูป แม้จะตรวจสอบไม่พบจากคลิปวิดีโอหรือแชตไลน์ ก็ให้ทำการตรวจสอบคู่ขนานกันไปด้วย ส่วนกรณีการตรวจสอบก่อสร้างของพุทธอุทยาน และโครงการในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า […]