“ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” ย้ำ ผอ.เขตต้องรับผิดชอบ หากผู้ใต้บังคับบัญชาทุจริต

กรุงเทพฯ 1 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ กทม. ย้ำชัดเจน หากผู้ใต้บังคับบัญชาในเขตทุจริต ผู้อำนวยการเขตจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ส่วนสถานการณ์ฝนปีนี้ การระบายน้ำจะดีขึ้น


(1 มิ.ย.66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 6/2566 ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ว่า วันนี้เป็นการประชุมหัวหน้าหน่วยงาน หลังจากเข้ามาบริหารราชการครบ 1 ปี เนื่องจากเรามีนโยบายที่ชัดเจนมาตั้งแต่เริ่มต้น ทุกคนจึงสามารถผลักดันนโยบายได้ ทำให้การดำเนินงานต่างๆ มีความคืบหน้าไปหลากหลายด้าน โดยจะมีการแถลงข่าวในวันที่ 13 มิ.ย.66

สำหรับระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาที่มีมาต่อเนื่อง โดยได้นำเรื่องต่างๆ ที่ค้างคาอยู่มาผลักดัน ซึ่งทำไปได้เยอะ ส่วนในปีต่อไปก็จะเป็นมาตรการเชิงรุกมากขึ้น ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการเขตลงพื้นที่ เพื่อเข้าถึงปัญหาและเร่งแก้ไข โดยไม่ต้องรอให้ประชาชนแจ้งเหตุเข้ามา


ในส่วนของเรื่องที่ต้องดำเนินการต่อ คือ เรื่องความโปร่งใส ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่หยุดไม่ได้ ทุกคนยังคงเป็นข้อกังวลอยู่ กรุงเทพมหานครมีบุคลากรจำนวนมาก มีคนดีและคนไม่ดีอยู่ด้วยกัน แต่เชื่อว่ามีคนดีอยู่เยอะกว่า ขณะเดียวกัน มีคนไม่ดีด้วย ก็ได้มีคณะทำงานมาแก้ปัญหาตรงนี้อย่างจริงจัง เพื่อทำให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า คนที่ทุจริตคอร์รัปชันไม่เอาไว้ แต่เชื่อว่ายังมีข้อบกพร่องและต้องปรับปรุงต่อ โดยเฉพาะในเรื่องการรีดไถต่างๆ ยังมีข้อมูลรายงานมาว่า มีเหตุเจ้าหน้าที่เรียกรับเงินเกี่ยวกับการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร จึงต้องเร่งดำเนินการ ได้สั่งการให้รองปลัดฯ เฉลิมพล ไปดูว่าเป็นอย่างไร หาหลักฐานได้ไหม ซึ่งได้มีการเตือนให้ทุกเขตระมัดระวังเรื่องนี้ แต่ถ้าไม่มีหลักฐานชัดเจนก็ดำเนินการตามกฎหมายยาก ที่ผ่านมาได้มีการร่วมมือกับ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. ล่อซื้อไปหลายเคส เพราะเราทำเองไม่ได้ มีการแจ้งทุจริต 100 กว่าเรื่อง ผ่าน Traffy Fondue 77 เรื่อง ถ้ามีเบาะแสก็มีการดำเนินการตลอด แต่ต้องมีข้อมูลหลักฐานเพื่อดำเนินการต่อ วันนี้ได้เน้นย้ำให้ผู้อำนวยการเขตติดตาม เพราะอยู่ในความรับผิดชอบที่ต้องดูแล จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา อย่างไรก็ตาม จากความเอาจริงเอาจังของผู้บริหาร เชื่อว่าสถานการณ์จะค่อยๆ ดีขึ้น

ปัจจุบันใบอนุญาตออนไลน์ยังทำได้ไม่ครอบคลุม โครงการใหญ่ๆ ยังต้องยื่นเรื่องตามปกติ อยู่ระหว่างขยายการดำเนินการ และคิดว่าคนก็ยังไม่คุ้นชิน แต่อนาคตจะคุ้นชินกันมากขึ้น รวมถึงมีการให้คณะกรรมการมาช่วยดู ไม่ใช่ตัดสินใจแค่คนเดียว ซึ่งก็จะทำให้เด็ดขาดมากขึ้น

นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า กรณีแรก อาจเป็นข้อบัญญัติบางอย่างหรือกฎกระทรวงการก่อสร้างหรือปรับปรุงอาคารไม่ค่อยสอดคล้องกับบริบทของปัจจุบัน ขณะนี้กำลังทบทวนและฟังเสวนาเรื่องพวกนี้ เพื่อทำให้กฎหมายสอดคล้องกับบริบทในกรุงเทพมหานคร ส่วนที่สอง เป็นการปรับให้มีการยื่นขออนุญาตออนไลน์ได้เพื่อความสะดวก เบื้องต้นตอนนี้อยู่ที่ไม่เกิน 300 ตารางเมตรก่อน อนาคตก็จะขยายไปอาคารประเภทอื่นด้วย แต่ต้องแยกออกจากกันระหว่างกระบวนการยื่นกับกระบวนการพิจารณา


ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวต่อไปว่า ต้องยอมรับความจริงว่าเรื่องทุจริตคอร์รัปชันยังมีอยู่ คนไม่กี่คนทำให้ภาพลักษณ์ขององค์กรเสีย แต่ถ้าไม่ยอมรับความจริงก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้ ต้องยอมรับและปรับปรุงกระบวนการต่างๆ ให้ดีขึ้น แนวทางดำเนินการเป็นไปด้วยดี มีการร่วมมือกับ ป.ป.ช. มาตลอด คิดว่าน่าจะเห็นผลต่อไป ต้องทำหลายอย่างให้ดีขึ้น เช่น ปรับปรุงกฎหมาย ลดการใช้วิจารณญาณของคนเดียว เป็นต้น

นอกจากนี้ยังได้มีการเน้นย้ำเรื่องต่างๆ ที่ประชาชนพบเจอ เช่น หาบเร่-แผงลอย ทางเท้า การขับขี่มอเตอร์ไซค์บนทางเท้า และน้ำท่วม เพื่อเร่งดำเนินการต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ซึ่งเป็นปัญหาที่คนกังวลตอนนี้ เพราะฝนเริ่มมาแล้ว จะเห็นได้ว่าช่วง 2 วันที่ผ่านมาที่เราได้ลงพื้นที่ไปดู ก็ถือว่าค่อนข้างน่าพอใจ น้ำลงได้เร็ว น้ำท่วมค้างไม่นาน

รองผู้ว่าฯ วิศณุ กล่าวถึงเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมว่า จากการถอดบทเรียนในปีที่ผ่านมา เราได้ข้อมูลจุดน้ำท่วมทั้งหมด 737 จุด เป็นจุดที่น้ำท่วมจากน้ำฝน 617 จุด โดยมีการแก้ไขถาวร 90 จุด แก้ไขเร่งด่วน 527 จุด (ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 224 จุด ล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำ 165 จุด เรียงกระสอบทราย 97 จุด ขุดลอกคลอง 17 จุด เสริมผิวจราจร 24 จุด) และเป็นจุดที่น้ำท่วมจากน้ำหนุน 120 จุด โดยมีการแก้ไขถาวร 29 จุด แก้ไขเร่งด่วน 91 จุด (เรียงกระสอบทราย 69 จุด ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 1 จุด สร้างรางระบายน้ำ 1 จุด JET MIX 18 จุด ปรับปรุงบ่อสูบน้ำ 1 จุด ปรับปรุงบ่อสูบน้ำ+JET MIX 1 จุด)

ในส่วนของการขุดลอกท่อระบายน้ำ กรุงเทพมหานครมีท่อระบายน้ำยาว 6,441 กม. แผนขุดลอกในปี 2565 ระยะทาง 3,356.9 กม. และลอกต่อเนื่องอีก 674.4 กม. แล้วเสร็จ 100% ส่วนแผนขุดลอกในปี 2566 ระยะทาง 3,758.4 กม. แล้วเสร็จ 2,597.6 กม. (69.11%) อยู่ระหว่างดำเนินการ 1,160.8 กม. (30.89%) จะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือน มิ.ย.66

สำหรับการขุดลอกและเปิดทางน้ำไหลคลอง 1,980 คลอง ระยะทาง 2,744,923 เมตร แบ่งออกเป็นเปิดทางน้ำไหล (เก็บผักตบชวา ขยะ ฯลฯ) โดยการดูแลรักษาประจำ 1,227,262 ม. เปิดทางน้ำไหลปีละ 1 ครั้ง 1,326,058 ม. และเปิดทางน้ำไหลปีละ 4 ครั้ง 191,603 ม. ซึ่งการเปิดทางน้ำไหลปีละ 1 ครั้ง และ 4 ครั้ง ขณะนี้แล้วเสร็จ 85% จะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือน มิ.ย.66 ด้านการขุดลอก มีแผนขุดลอก 182 คลอง 202,704 ม. แล้วเสร็จ 75% จะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือน มิ.ย.66 เพื่อรับน้ำฝนที่จะมา

ด้านการบำรุงรักษาสถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำ ประจำปี 2566 ได้มีการบำรุงรักษาประจำปี เช่น ตรวจเช็กระบบไฟฟ้า เครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ ระบบน้ำมันหล่อลื่น ทำความสะอาด ทาสี ฯลฯ ปัจจุบันดำเนินการได้ 409 แห่ง อยู่ระหว่างดำเนินการ 21 แห่ง ซึ่งต้องแล้วเสร็จภายในเดือนนี้

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวเสริมว่า เรื่องน้ำท่วมเป็นเรื่องที่ดำเนินการมาตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา โดยไม่ได้หยุด เราลุยเรื่องเส้นเลือดฝอย เช่น ท่อระบายน้ำ อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงมีการบำรุงรักษาดูแลเส้นเลือดใหญ่ เช่น อุโมงค์ระบายน้ำ ควบคู่กันไปด้วย เมื่อท่อระบายน้ำสามารถระบายได้ดี น้ำก็ไปถึงอุโมงค์ได้เร็วขึ้น ไม่ท่วมขังนาน ซึ่งทั้งหมดน่าจะเห็นผลในปีนี้ คือ มีการระบายน้ำที่รวดเร็วขึ้น

อีกเรื่องที่น่าสนใจที่เราเริ่มทำไปแล้ว คือ Open Data และแผนที่ความเสี่ยง หรือ Bangkok Risk Map โดยนำจุดเสี่ยงมาลงแผนที่ อาทิ จุดเสี่ยงน้ำท่วม ทำให้เห็นภาพว่าเราต้องโฟกัสตรงตำแหน่งไหนบ้าง

รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า วัตถุประสงค์ของ Risk Map คือ 1. กรุงเทพมหานครใช้ในการบริหารจัดการได้ตรงมากขึ้น โดยมีเหตุผลในการใช้งบประมาณในการปรับปรุง และ 2. เปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ด้วย เช่น เรื่อง Road Safety ซึ่งมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุ ประกอบกับภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถนำมาเทียบได้เมื่อมีเหตุเกิดขึ้น ทำให้ กทม.สามารถใช้ในการแก้ปัญหาเรื่องจุดเสี่ยง ในขณะเดียวกัน ประชาชนสามารถดูเรื่องการจราจรและจุดเสี่ยงได้ด้วย

สิ่งที่เรากำลังจะทำเพิ่มเติม ซึ่งสำนักงานเขตช่วยดำเนินการอยู่ คือ นำเข้าข้อมูลประปาหัวแดงอยู่ที่ไหน มีถังแดงอยู่ที่ไหนในชุมชน สถานีดับเพลิง สถานพยาบาล และพื้นที่ที่โรงเรียนหรือสถานที่ราชการที่เราใช้เป็นพื้นที่พักพิง ก็จะเริ่มเอาข้อมูลเข้า ตอนนี้ทางสำนักงานเขตจะคุ้นชินกับการนำเข้าข้อมูลอยู่ในแผนที่ที่เป็น Google Map ที่เขาใช้อยู่ แต่ต่อไปเราจะถอดข้อมูลเหล่านี้เข้าแผนที่กลางแผนที่เดียว หรือ One Map เพื่อให้เราสามารถเรียกดูข้อมูล ทั้งในแง่ของพื้นที่เสี่ยง ทรัพยากรและอุปกรณ์ที่เรามี สุดท้ายเราจะทำแผนที่ละเอียดขึ้น คือ ผังชุมชน โดยทำให้ง่ายๆ เพื่อให้ประชาชนใช้ได้ และกำลังจัดทำแผนเผชิญเหตุชุมชน เพื่อให้ชุมชนสามารถทราบทางเข้า-ออก ทราบความแคบของพื้นที่ จุดรวมพลจะอยู่ตรงไหน จุดนับคน และมีการระบุว่ามีกลุ่มเปราะบางอยู่ที่ไหน ทั้งนี้จะยังเห็นเป็นข้อมูลคร่าวๆ เพราะเราต้องใช้ในการบริหารจัดการ และต้องปกป้อง privacy ของภาคประชาชนด้วย

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวด้วยว่า ปีนี้จะขยายเรื่องนี้ไปทุกเขตให้ครบถ้วน ซึ่งเรามีอาสาสมัครเทคโนโลยีช่วยในการอัปเดตข้อมูลในชุมชน เพื่อให้อนาคตเราเข้าถึงการให้บริการแก่ประชาชนได้ดียิ่งขึ้น

นโยบายปัจจุบัน เราทำโครงการเส้นเลือดฝอยเยอะมาก เพราะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ประชาชนจริงๆ โดยปรับปรุงเรื่องสาธารณสุข เรื่องการศึกษาต่างๆ ถามว่าทำไมเราไม่มี Mega Project เพราะเราต้องดูสถานะการเงินเราด้วย อย่าง BTS เราก็ยังไม่แน่นอนเรื่องสภาพหนี้ ปัจจุบันเรามีหนี้ BTS อยู่เกือบแสนล้านบาท โครงสร้างพื้นฐาน ค่าเดินรถในส่วนต่อขยาย ฯลฯ รวมแล้วมูลค่ามากกว่า 9 แสนล้านบาท เรามีงบผูกพันที่ได้มีการเซ็นสัญญาล่วงหน้าไปแล้วเกือบ 2 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม การทำโครงการ Mega Project จำเป็นแน่นอน แต่ต้องรอบคอบ เราต้องใช้เงินให้น้อย แต่ให้ได้ผลเยอะ ฉะนั้นช่วงนี้เราจะใช้กับโครงการเส้นเลือดฝอย ส่วน Mega Project ที่มีอยู่แล้ว เราทำอยู่ตลอด โดยพยายามใช้เงินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

“เบื้องต้นค่อนข้างพอใจ เชื่อว่าสิ่งที่เห็นเป็นการทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ เส้นเลือดใหญ่เส้นเลือดฝอยทำไปพร้อมกัน เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง โครงการที่ให้ไว้กับประชาชนก็เดินหน้าทุกโครงการ ไม่มีปัญหาอะไร” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ในพื้นที่ว่า ได้มีการหาแนวทางป้องกัน ซึ่งตอนนี้กำลังประสานกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตและการไฟฟ้านครหลวงที่จะจัดทีมร่วมกัน โดยมีเครือข่ายวิทยาลัยช่างเทคนิคมาร่วมในการออกสำรวจตามชุมชน เก็บข้อมูลเหตุไฟฟ้าลัดวงจร ลงพื้นที่ช่วยตรวจสายไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สภาพไม่ดี ให้มีการซ่อมแซมให้ดีก่อนใช้งาน

ส่วนเหตุเพลิงไหม้ที่โรงเรียนวัดดอกไม้ เมื่อเช้า เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร มีพื้นที่เสียหายประมาณ 5 ตารางเมตร ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งที่ผ่านมาได้กำชับให้มีการสำรวจความพร้อมก่อนเปิดเรียนแล้ว ก็จะมีการดำเนินการเชิงรุกเพิ่มเติมต่อไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]