ทลายโรงงานเครือข่ายทุนจีนผลิตและขายสมุนไพรปลอม

กทม. 26 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง(CIB) ร่วม อย. บุกโรงงาน ทลายเครือข่ายทุนจีนผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอม ลวงขายนักท่องเที่ยวจีน

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก. ปคบ. โดยการสั่งการของ พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ, พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว, พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รอง ผบก.ปคบ., ว่าที่ พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.4 บก.ปคบ., นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, ภก. วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติ กรณีทลายเครือข่ายผู้ผลิต และจำหน่าย ผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอม ตรวจค้น 4 จุด ตรวจยึดของกลาง 112 รายการ รวมกว่า 90,000 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 4,000,000 บาท


สืบเนื่องจากปัจจุบันกระแสการรักสุขภาพส่งผลให้ความนิยมผลิตภัณฑ์สมุนไพรสูงขึ้นในประชาชนทั่วไป และกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะในกลุ่มชาวจีน โดยผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่จำหน่ายในท้องตลาดมีความหลากหลายและสามารถหาซื้อได้ง่าย จนอาจเป็นช่องว่างให้ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายนำผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานกระจายสู่ตลาด เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค จึงมีการเฝ้าระวังกลุ่มผลิตภัณฑ์สมุนไพรดังกล่าวเรื่อยมา ต่อมาได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคผ่าน เพจเฟสบุ๊ค “ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค” ว่าได้ซื้อผลิตภัณฑ์สมุนไพร เช่น ยาหม่องผสมเสลดพังพอน ตราสมุนไพรไทยสยาม, ยาหม่องสมุนไพรไทยสยาม ตราเสือสยาม 5 เศียร และยานวดผ่อนคลาย คร๊อกโคไดล์ เฮิร์บ บาล์ม ตราสมุนไพรไทยสยาม จากพื้นที่เขตห้วยขวาง และพบว่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์คนละแบบแต่มีเลขทะเบียนยาเดียวกัน จึงสงสัยว่าเป็นผลิตภัณฑ์ปลอม หากใช้แล้วเกรงว่าจะได้รับอันตรายต่อร่างกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ดังกล่าวพบว่า มีการแอบอ้างนำเลขทะเบียนตำรับยาของผลิตภัณฑ์อื่นมาใช้ ซึ่งถือว่าเป็นการปลอมผลิตภัณฑ์ จึงได้สืบสวนจนทราบถึงแหล่งผลิต โกดังเก็บสินค้า และแหล่งจัดจำหน่าย จนนำมาสู่การตรวจค้นในครั้งนี้

ต่อมาในวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) นำหมายค้นเข้าทำการตรวจค้น สถานที่ผลิต โกดังเก็บสินค้า และสถานที่จำหน่าย ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และ จ.ปทุมธานี จำนวน 4 จุด ยึดผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอม 38 รายการ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรอื่นที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ.2562 จำนวน 42 รายการ เครื่องจักร รวมถึงอุปกรณ์ส่วนควบที่ใช้ในการผลิตสมุนไพรปลอม และพยานหลักฐานอื่น 32 รายการ รวมทั้งสิ้น 112 รายการ มูลค่าความเสียหายกว่า 4,000,000 บาท


โดยในวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ได้ดำเนินคดีกับ บริษัทสมุนไพรไทยสยาม จำกัด ในฐานะนิติบุคคล และกรรมการ ทั้ง 3 ราย ในฐานะส่วนตัว ในความผิดตาม พ.ร.บ. ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562 ฐาน “ร่วมกันผลิตและขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอม, ร่วมกันผลิตและขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันผลิตและขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ” โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 รายให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา

จากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่า เครือข่ายการผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอมดังกล่าว มีกลุ่มทุนชาวจีนร่วมลงทุน โดยจ้างให้คนไทยเป็นผู้ผลิตเพื่อขายให้นักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งจะใช้เลขทะเบียนตำรับยาของผลิตภัณฑ์อื่น มาใช้กับผลิตภัณฑ์ที่ทำปลอมขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคที่ซื้อหลงเชื่อว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของแท้ โดยจะผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรขึ้นให้มีคุณลักษณะตามที่นิยมในท้องตลาด โดยผสมส่วนผสมต่าง ๆ เข้าด้วยกัน จากนั้นบรรจุลงในบรรจุภัณฑ์โดยใช้กำลังคน ซึ่งไม่ได้มาตรฐาน และไม่ผ่านการรับรองจาก อย. จากนั้นส่งสินค้าไปยังร้านค้าที่เจ้าของเป็นคนจีน ในพื้นที่เขตห้วยขวาง และแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยจะมีมัคคุเทศก์มารับสินค้าไปหลอกลวงขายให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีนต่ออีกทอดหนึ่ง ซึ่งผลิตภัณฑ์สมุนไพรดังกล่าวจะไม่มีการวางจำหน่ายร้านค้าทั่วไป เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากหน่วยงานราชการ และการตรวจพบจากผู้รับอนุญาตเลขทะเบียนยาที่แท้จริง โดยจะขายส่งราคาชิ้นละ 20-30 บาท และมีการขายทำกำไรต่อในราคาหลักร้อย ถึงหลักพันบาท โดยเริ่มผลิตและจำหน่ายมาแล้วประมาณ 1 ปี

การกระทำของผู้ต้องหาดังกล่าวเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ.2562


  1. ฐาน “ร่วมกันผลิตและขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอม”ตามมาตรา 58(1) ระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  2. ฐาน “ร่วมกันผลิตและขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามมาตรา 17 วรรคหนึ่ง ระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  3. ฐาน “ร่วมกันผลิตและขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ” ตามมาตรา 58(4) ระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้ อย. ขอขอบคุณตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ที่สืบสวน ขยายผล จนสามารถตรวจยึด ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ที่ผิดกฎหมายได้จำนวนมากจากการจับกุมพบผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอม ลักลอบผลิต ปลอมโดยใช้เลขทะเบียนตำรับอื่นมาแสดงที่ฉลาก การผลิตไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งอาจใช้ไม่ได้ผลในการรักษา อย. และ ปคบ.จะร่วมมือกันขยายผลจับกุมเครือข่ายผู้กระทำผิดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

จึงขอย้ำเตือนพี่น้องประชาชนว่า ผลิตภัณฑ์สมุนไพร อาหาร ยา เครื่องสำอาง จะต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อนจำหน่าย โดยสามารถดูเลขทะเบียนหรือเครื่องหมาย อย. ได้ที่ฉลากสินค้า ควรซื้อจากร้านค้าที่มีหลักแหล่งแน่นอน กรณีซื้อออนไลน์ให้ซื้อจาก ร้านค้าออนไลน์ที่มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เรียบร้อยแล้ว สำหรับยาไม่สามารถซื้อขายทางออนไลน์ได้ ต้องซื้อจากร้านยา หรือได้รับการตรวจวินิจฉัยและจ่ายโดยแพทย์จากสถานพยาบาลของรัฐหรือเอกชนเท่านั้น
ทั้งนี้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้รับอนุญาตจาก อย.ได้ที่ www.fda.moph.go.th และ Line@FDAThai หากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยหรือไม่ได้รับอนุญาต สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน อย.1556 หรือผ่าน Email: 1556@fda.moph.go.th Line@FDAThai, Facebook: FDAThai หรือ ตู้ปณ.1556 ปณฝ.กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

พบสารก่อมะเร็ง จากเหตุไฟไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ฉลองกรุง

กรุงเทพฯ 13 พ.ค. – พบสารพิษบางตัวเป็นสารก่อมะเร็ง จากเหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ย่านฉลองกรุง 55 แนะผู้สูดดมไปตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กแจ๊ส” เผยไม่สนใจ-ไม่ให้ค่า ชี้มีหลาย “J”

13 พ.ค. – หลัง “สส.ฟลุ๊ค มนัสนันท์” จากพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความเดือดทางเฟซบุ๊ก “กูไม่กลัวมึง ไอ้ J” ล่าสุด “บิ๊กแจ๊ส” ออกมายืนยันไม่สนใจ พร้อมระบุลูกชายตนสอนมาดี รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่ ไม่ก้าวร้าว ความคืบหน้าประเด็นร้อนการเมืองท้องถิ่น จ.ปทุมธานี หลังเพิ่งผ่านการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี 2568 เมื่อวันที่อาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่คล้อยหลังเพียง 1 วัน สส.พรรคใหญ่ในพื้นที่ปทุมธานี คือ นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ หรือ ฟลุ๊ค สส.ปทุมธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทย ลูกชายนายกฤษดา หลีนวรัตน์ เคลื่อนไหวทางเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยบางโพสต์มีความเกี่ยวข้องกับการจะฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และบางโพสต์ได้ท้าทายว่าไม่กลัวบุคคลอักษรเจ (J) วันนี้ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เปิดใจกับทีมข่าวสำนักข่าวไทย ระบุว่า อย่าไปให้ค่า ตัวเจ (J ) […]

แจ้งข้อหาซ่องโจร “สจ.กอล์ฟ” และพวก เพิ่มอีก 1 ข้อหา

สงขลา 13 พ.ค. – ตำรวจแจ้งข้อหา “ซ่องโจร” เพิ่มอีก 1 ข้อหา แก๊ง “สจ.กอล์ฟ” คดีรุมทำร้ายตำรวจหน้าหน่วยเลือกตั้งตำบลพะวง จ.สงขลา เตรียมนำตัวส่งศาลวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) ญาติขอค้านประกันตัว หวั่นอิทธิพล คดีนายสิรดนัย หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา สั่งการให้ลูกน้องไปรุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ตำรวจ ตชด. ประจำหน่วยเลือกตั้งเทศบาลตำบลพะวง อ.เมือง จ.สงขลา เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังไม่พอใจถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนน ก่อนตำรวจรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ และวานนี้ (12 พ.ค.) นายสมยศ หรือ โกถึก สส.เขต 3 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพ่อ นำ สจ.กอล์ฟ เข้ามอบตัว ส่วนลูกน้องอีก 6 คน ถูกจับกุมตัวได้หมดแล้วเช่นกัน […]

“ปชน.” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้นพรรค-ตัดสิทธิทุกอย่าง

รัฐสภา 13 พ.ค.- “เท้ง” ประกาศดอง “งูเห่า” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้น ปชน.ตามต้องการ ส่งตีความหนังสือเข้าข่ายลาออก พ้น สส.หรือไม่ พร้อมตัดสิทธิทุกอย่างในโควตาพรรค นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน และนายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน ร่วมกันแถลงตอบโต้นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ พรรคประชาชน เขต 6 จังหวัดชลบุรี ทำหนังสือ ขอยุติบทบาทภายในพรรคและขอให้พรรคประชาชนขับออก นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าได้รับฟังเหตุผล ที่น.ส.กฤษฎิ์แถลงต่อข้อกล่าวหาว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้รับการผลักดันนโยบายจึงต้องการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ และอ้างว่าไม่เคยได้รับงบประมาณจากพรรคในการทำกิจกรรมนั้น ยืนยันว่าพรรคได้สนับสนุนการทำงานในพื้นที่มาโดยตลอด ฝ่ายนโยบายพรรคเคยอนุมัติงบในส่วนกลางเพื่อให้ไปทำกิจกรรมรับฟังความเห็นต่อการพัฒนานโยบายของพื้นที่ศรีราชาตามที่ได้ร้องขอเข้ามา ซึ่งสส. คนอื่นก็ทำงานได้อย่างราบรื่นและได้รับการสนับสนุน และที่บอกว่าการทำงานในคณะกรรมการธิการคมนาคม ไม่ได้รับการสนับสนุนนั้นนับตั้งแต่เริ่มเปิดสภา เราจะให้สส.ทุกคนได้เสนอมาว่าอยากได้ทำงานในกรรมาธิการฯในคณะใด แต่เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะได้รับการเป็นกรรมาธิการในอันดับหนึ่งที่เลือก แต่น.ส.กฤษฎิ์ก็ได้ตามที่ต้องการและยังได้เป็นรองประธาน อนุกรรมาธิการ ฯ เรื่องงานก่อสร้างท่าเรือ และยังมีมติให้ศึกษาดูงานเพื่อรับฟังปัญหาทางต่าง ๆ จากประชาชนที่อยู่ในเขตท่าเรือแหลมฉบัง ส่วนเรื่องการไม่ได้รับความเคารพเรื่องสภานะทางเพศนั้น นายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่า […]