สำนักข่าวไทย 24 พ.ค.- ผู้ประกอบการถนนข้าวสาร ชะลอขยายร้านกัญชาเพิ่ม รอความชัดเจนนำกัญชาเข้าสู่บัญชียาเสพติด วอนเดินหน้าต่อ อย่าแตะสำหรับร้านที่ลงทะเบียนถูกกฎหมาย เฉพาะข้าวสาร สร้างรายได้ กว่า 30 ล้านบาทต่อเดือน พร้อมสนับสนุนนโยบายสุราก้าวหน้า เพราะส่งเสริมสุราพื้นบ้านไทย เป็นซอฟต์พาวเวอร์ เหมือนโซจูเกาหลี
นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร กล่าวถึงแถลงการลงนามMOU ในการจัดตั้งรัฐบาล เมื่อวันที่ 22 พ.ค.66 ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการนำกัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติดให้โทษ ผ่านบัญญัติของกระทรวงสาธารณสุข โดยมีกฎหมายควบคุมและรองรับการใช้ประโยชน์จากกัญชา เชื่อว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการร้านกัญชาทั่วประเทศที่มีกว่า 400 ร้านค้า รอดูความชัดเจนว่า กฎหมายจะออกมาในรูปแบบไหน มองว่าการมีกติกาเป็นสิ่งที่ดี และเห็นด้วยกับการใช้ประโยชน์จากกัญชาในทางการแพทย์ แต่ว่าเรื่องของการเปิดร้านกัญชาอย่างถูกต้อง อยากให้มีการเดินหน้าต่อเพราะเราก้าวผ่านไปแล้ว แต่ว่าจะมีการออกกฎหมายควบคุมอย่างไรบ้าง เช่น จะจัดเป็นโซนนิ่งในการขายหรือไม่ เพราะต้องยอมรับว่าวันนี้ผู้ปลูกค่อนข้างเยอะ จำเป็นต้องมีที่ระบาย ร้านที่มีการจดทะเบียนขออนุญาตจากกรมการแพทย์อย่างถูกต้อง ไม่อยากให้ไปแตะ แต่ควบคุมวิธีการขายได้ แต่ว่าร้านที่เร่ขาย ที่ต้องยอมรับว่า ตอนนี้ก็มีอยู่ต้องควบคุมให้ถูกต้อง
ยอมรับว่าผู้ประกอบการร้านกัญชาที่ถนนข้าวสาร ค่อนข้าง กังวล เพราะความไม่แน่นอนคือสิ่งที่ผู้ประกอบการกังวล หลังจากนี้ต้องรอดู ซึ่งไม่อยากให้กระทบกับผู้ที่เปิดธุรกิจแบบถูกต้อง โดยเฉพาะที่ข้าวสาร มีกว่า 40 ร้านกัญชาที่จดทะเบียนถูกต้อง และสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาทต่อเดือน เฉพาะธุรกิจกัญชา จากรายได้รวมๆ ของถนนข้าวสาร 600 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งต้องยอมรับว่าหลักๆ ของถนนข้าวสารคือนักท่องเที่ยวและราคาในการขายค่อนข้างแพง วอนอย่าคิดว่าข้าวสารคือแหล่งมั่วสุม เพราะส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว อย่างนักท่องเที่ยวยุโรป รู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้วไม่ได้มาเสพเพื่อมึนเมาแต่มาเพื่อความบันเทิง อยากให้ส่งเสริมในแง่ของการท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวต่างขาติอยากมาเปิดประสบการณ์ ทำอย่างไรที่จะสร้างรายได้ ควบคู่กับการควบคุมให้มีประสิทธิภาพ แน่นอนว่าตอนนี้ทุกคนรอดูความชัดเจน จะขยายร้านก็ไม่กล้าขยาย แทนที่ธุรกิจจะเดินต่อเนื่องแต่กลับต้องชะงัก เพราะความไม่แน่นอน ทุกคนรอความแน่นอนจากรัฐบาลชุดใหม่
ขณะที่นโยบายสุราก้าวหน้า นายสง่า กล่าวว่า เห็นด้วยอย่างมากกับเรื่องนี้ เพราะจะช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ได้ กฎหมายที่ล้าหลังต้องยกเลิกได้แล้ว กฎหมายมีไว้เพื่อส่งเสริมไม่ใช่มีไว้บีบ ไม่ให้ผู้ประกอบการโต วันนี้มีสุราต่างจังหวัดจำนวนมากสามารถทำให้เป็นรายได้ของประเทศ เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศและส่งออกได้ ซึ่งกฎหมาย กบว. ที่ห้ามโฆษณาต้องกลับไปทบทวน ต้องเปลี่ยนมุมมอง เพราะหลายๆประเทศหันมาทำเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ไทอินเข้าไปในหนัง ซีรีส์ อย่างเกาหลี ไทอินโซจูในซีรีส์จนโด่งดัง อย่างในหนังไทย ถูกห้าม หากมีการสนับสนุน เรื่องการโฆษณาให้ถูกต้องจะช่วยสร้างรายได้ให้ประเทศและสร้างเศรษฐกิจชุมชนอย่างมาก ต้องยอมรับว่านักท่องเที่ยวรู้จักแบรนด์ไทยเจ้าใหญ่ๆ เพราะโฆษณา อยากมาชิมเบียร์ไทย รวมทั้งอยากให้แก้กฎหมายเรื่องการจำกัดเวลาในการขายแอลกอฮอล์ ห้ามขายช่วงเวลา 14.00-17.00 น. กระทบกับการให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างมาก อะไรที่ล้าหลังต้องเปลี่ยน ต้องรีบแก้ไข เรื่องนี้ตนผลักดันมานาน แทนที่จะช่วยสร้างรายได้ แต่กลับต้องหยุดชะงัก และอย่าบอกว่าผู้ประกอบการแอบขายหากทำทุกอย่างให้มันถูกต้อง จะสร้างเม็ดเงินอีกจำนวนมาก .-สำนักข่าวไทย