เตือนโควิดเป็นขาขึ้น-ยังไม่ผ่อนมาตรการป้องกันโรค

กรุงเทพฯ 15 พ.ค. – กรมควบคุมโรค เตือนสถานการณ์โควิด-19 เป็นขาขึ้น ยังไม่ผ่อนมาตรการป้องกันโรค เร่งฉีดวัคซีนคู่ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 เพื่อลดป่วยหนักและเสียชีวิต


วันนี้ (15 พฤษภาคม 2566) นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ภายหลังเทศกาลสงกรานต์ สัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 2,356 ราย เฉลี่ย 336 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 39% เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะที่ผู้ป่วยอาการหนัก แพทย์วินิจฉัยปอดอักเสบ และผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ เพิ่มขึ้นประมาณ 45% ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า โดยมากกว่าครึ่ง (55%) เป็นกลุ่ม 608 ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ที่เหลือเป็นผู้ที่มีระดับภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 ลดลงมาก ได้แก่ ผู้ที่ฉีดวัคซีนเข็มล่าสุด หรือติดเชื้อแล้วนานเกิน 6 เดือน ขอแนะนำประชาชนเข้ารับวัคซีนโควิด-19 พร้อมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่โดยเร็ว เพื่อลดความเสี่ยงต่อการป่วยหนักจากทั้ง 2 โรค และเน้นย้ำหากป่วยด้วยอาการทางเดินหายใจ ให้ตรวจ ATK รวมทั้งหลีกเลี่ยงใกล้ชิดกลุ่ม 608 เมื่อตรวจพบผลบวก 2 ขีด ให้สวมหน้ากาก และสังเกตอาการ หากมีอาการมากให้ไปพบแพทย์


สำหรับผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ให้ไปรับบริการฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป หรือ LAAB ได้ที่โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลภาครัฐสังกัดอื่น ทั้งนี้ ประเทศไทยยังมียา เวชภัณฑ์สำรอง และเตียง เพียงพอต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2566 องค์การอนามัยโลกประกาศสิ้นสุดภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ กรณีโรคโควิด-19 แต่ยังเตือนให้ทุกประเทศยังคงต้องเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมการระบาดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเร่งรัดการฉีดวัคซีนเพื่อให้มีระดับภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 เพียงพอในระดับบุคคลและประชากร เพื่อลดโอกาสป่วยหนักและเสียชีวิตจากโควิด-19 โดยสามารถใช้วัคซีนชนิดใดหรือรุ่นใดก็ได้ ฉีดปีละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ ให้เว้นระยะห่างจากเข็มสุดท้ายหรือประวัติการติดเชื้ออย่างน้อย 3 เดือน ที่สำคัญสามารถฉีดพร้อมกับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ โดยฉีดที่ต้นแขนคนละข้าง และในสัปดาห์นี้โรงเรียนมีการเปิดภาคเรียน ขอให้ผู้ปกครองและครูสังเกตอาการ คัดกรองเด็กป่วยด้วยอาการทางเดินหายใจ เช่น ไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ให้หยุดอยู่บ้านรักษาให้หายก่อน จะลดโอกาสแพร่เชื้อในโรงเรียน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว