กรุงเทพฯ 12 เม.ย. – กรมควบคุมโรคเตือนประชาชนร่วมกิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์ ระวังไฟดูด ไฟช็อต ก่อนเล่นน้ำสำรวจจุดเสี่ยง เมื่อพบผู้ถูกไฟดูด ไฟช็อต ให้ตั้งสติและช่วยอย่างถูกวิธี
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยสถิติประเทศไทย ปี 2561-2562 ของกองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค พบจำนวนผู้ป่วยจากการสัมผัสกระแสไฟฟ้าช่วงวันสงกรานต์ และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 47 ราย สาเหตุน้ำกระเด็นไปถูกปลั๊กไฟ สายไฟ ทำให้กระแสไฟฟ้ารั่วและไฟฟ้าช็อต ร่างกายเปียกทำให้กระแสไฟสามารถไหลผ่านร่างกายได้ง่าย สายไฟหรืออุปกรณ์ชำรุด และไม่มีระบบกันน้ำซึ่งมีโอกาสเกิดไฟรั่วได้
สำหรับคำแนะนำการป้องกันไฟดูด ไฟช็อตช่วงสงกรานต์ คือ 1.หากตัวเปียกห้ามสัมผัสวัสดุนำไฟฟ้าทุกชนิด เช่น การเปิดปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า กดกริ่งไฟฟ้า เสียบปลั๊กไฟ ชาร์จโทรศัพท์มือถือ เครื่องเสียง เสาเหล็ก ราวสะพานลอย ป้ายโฆษณา 2.ระวังการเล่นน้ำใกล้เสาไฟฟ้า ในอุโมงค์น้ำ ปาร์ตี้โฟม อาจเกิดไฟรั่ว ไฟช็อตได้ 3.ไม่สาดน้ำไปถูกอุปกรณ์ไฟฟ้า ปลั๊กไฟ สายไฟชำรุด 4.ขบวนแห่ระวังเกี่ยวสายไฟที่พาดผ่านตามเส้นทาง ก่อนเล่นน้ำควรสำรวจบริเวณจุดเสี่ยงโดยรอบ สำรวจจุดติดตั้งเครื่องตัดไฟ เมื่อเกิดเหตุจะสามารถหาจุดตัดไฟได้รวดเร็ว ตรวจดูว่าบริเวณที่เล่นน้ำมีปลั๊กไฟหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสี่ยงหรือไม่ ถ้ามีควรเก็บให้เรียบร้อยก่อน หากพบสายไฟ ปลั๊กไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุดต้องซ่อมแซมทันที รวมทั้งหากมีการเล่นในอุโมงค์น้ำหรือปาร์ตี้โฟน ควรตรวจสอบการติดตั้งอุปกรณ์ฉีดน้ำ ราวสายน้ำ การฉีดสร้างโฟมให้มีความปลอดภัย
นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีถูกไฟดูด ไฟช็อต ควรปฐมพยาบาลให้ถูกวิธี อย่าใช้มือเปล่าแตะตัวผู้ที่โดนไฟดูด ตัดกระแสไฟฟ้าเร็วที่สุดด้วยการถอดปลั๊ก ปลดสวิตช์หรือคัตเอาต์ ใช้วัสดุที่ไม่นำไฟฟ้า เช่น ผ้าแห้ง เชือกแห้ง พลาสติกที่แห้งสนิท ถุงมือยาง ไม้แห้ง เขี่ยสายไฟออก ผลักหรือดึงตัวผู้ประสบอันตรายให้หลุดออกมาโดยเร็ว หากเกิดไฟดูด ช็อตบริเวณที่มีน้ำขัง ให้ตัดกระแสไฟและเขี่ยสายไฟออกก่อนเข้าไปช่วย และหากผู้ป่วยหมดสติหรือหยุดหายใจ ให้ทำการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ทันทีพร้อมทั้งให้รีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว ทั้งนี้ หากพบผู้ได้รับบาดเจ็บจากไฟดูด ไฟช็อตควรตั้งสติให้ดี และโทรขอความช่วยเหลือที่เบอร์ 1669.-สำนักข่าวไทย