9 มี.ค. – หญิงวัย 57 ปี ร้องกระทรวงสาธารณสุข หมอลืมดอกสว่านยาว 1 นิ้วไว้ในขานาน 6 ปี ทำกระดูกติดเชื้อเกือบเดินไม่ได้
ผู้เสียหายเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนที่กระทรวงสาธารณสุข พร้อมกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอความเป็นธรรม ไม่ได้รับการเยียวยาช่วยเหลืออย่างเป็นธรรมจากแพทย์และโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษา
ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อปี 2559 ประสบอุบัติเหตุรถล้มและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี หมอให้ใส่เหล็กดามขาขวา 7 เส้น จากนั้นมีอาการปวดบวมจึงไปให้หมอถอดออกในปี 2560 หมอแจ้งว่าสามารถถอดได้เพียงแค่ 6 เส้น เหลืออีก 1 เส้น ยังต้องใส่ไว้ตลอดชีวิต ไม่เป็นอะไร แต่อาการปวดบวมที่ขาขวาไม่หาย จึงไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้บ้าน หมอให้กินยาแก้อักเสบต่อเนื่อง และพยายามหาวิธีรักษา
กระทั่งปี 2565 เกิดอาการอักเสบรุนแรง มีหนองไหล ลุกลามไปถึงแขนและไม่สามารถเดินได้ตามปกติ หมอจึงเอกซเรย์พบว่าที่กระดูกขาขวามีเหล็กค้างอยู่ จึงส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ และพบว่าเหล็กที่ค้างอยู่ภายในขาขวาเป็นดอกสว่านยาว 1 นิ้ว จึงผ่าตัดออกให้ หลังจากนั้นบาดแผลบริเวณขาที่อักเสบมาตลอดค่อยๆ มีอาการดีขึ้นตามลำดับ
เมื่อทวงถามความรับผิดชอบไปที่โรงพยาบาลแรกที่ทำการรักษา ไม่ได้รับคำตอบหรือคำชี้แจงอะไรใดๆ ส่วนหมอที่รักษาคนแรกอ้างว่าใครๆ ก็ทำหักคากันไว้ และสามารถอยู่กับดอกสว่านได้จนวันตาย อีกทั้งยังปัดความรับผิดชอบ ทำให้รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม
ทั้งนี้ หมอโรงพยาบาลแรกที่ทำการรักษาให้กับผู้เสียหายได้ติดต่อผ่านทนายรณณรงค์ จะนำเอกสารเวชระเบียนเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้เสียหายต่อหน้าสื่อมวลชน แต่หลังผู้เสียหายเข้ามายื่นเรื่องร้องเรียนที่กระทรวงสาธารณสุข ทางหมอได้ติดต่อกลับมาว่าไม่สามารถชี้แจงข้อเท็จจริงได้แล้ว เพราะผู้บริหารสั่งห้าม
อย่างไรก็ตาม ได้มีตัวแทนกระทรวงสาธารณสุขเข้ามารับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายไว้แล้ว พร้อมรับปากว่าจะนำเรื่องส่งต่อให้ผู้บริหารพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเยียวยาต่อไป.-สำนักข่าวไทย