กรุงเทพฯ 31 ม.ค. – จากกรณีเพจดังแฉพระสงฆ์รูปหนึ่งจะซื้อบริการกับหญิงสาว สุดท้ายถูกเชิดเงินหนี เจ้าอาวาส ระบุ พระซื้อบริการ โทษไม่ถึงสึกแค่โลกวัชชะ
จากกรณีสื่อโซเชียลโพสต์ภาพ สลิปการโอนเงิน 3 หมื่นบาท ของพระสงฆ์รูปหนึ่ง ให้กับ น.ส.น้ำฝน พร้อมข้อความระบุว่า “พระมหาร้องทุกข์ จะซื้อบริการทางเพศกับสาวสวยโดยให้มาหาที่กุฏิ สุดท้ายโอนเงินไปพร้อมค่ารถถูกสาวชิ่งไม่มาตามนัดเชิดเงิน 30,000 หนีหายไป
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ไปที่วัดหัวลำโพง บรรยากาศภายในวัดยังเป็นปกติ มีญาติโยม และนักท่องเที่ยวเข้ามาร่วมทำบุญภายในวัดกันตามปกติ ขณะที่กุฏิเจ้าอาวาสปิดประตูเงียบตั้งแต่ช่วงสายๆ
สอบถามพระลูกวัดรายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า พระที่เป็นข่าว ทราบว่าออกจากวัดไปตั้งแต่ช่วงเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา หลังทราบข่าวก็ตกใจมาก เพราะที่ผ่านมา พระรูปนี้ไม่เคยมีพฤติกรรมอะไรที่บ่งบอกว่าจะทำตามในสิ่งที่เป็นข่าว เท่าที่รู้จัก และพูดคุย เป็นคนเงียบๆ โลกส่วนตัวสูง ไม่ค่อยพูดจาสุงสิงกับใคร อยู่ที่วัดก็จะอ่านหนังสือ ทำกิจกรรมในวัดสม่ำเสมอเป็นกิจวัตร ส่วนตัวยังเชื่อว่า พระท่านไม่ตั้งใจแน่นอน อยากให้ดูเจตนาที่แท้จริง บางทีท่านอาจจะเผลอไปกดลิงก์ในโทรศัพท์มือถือ แล้วเจอมิจฉาชีพ มาพูดจาหว่านล้อมจนท่านยอมทำตามที่เป็นข่าว บวกกับช่วงนั้นอาจเป็นช่วงที่สมาธิ หรือจิตไม่อยู่กับตัว จนมารเข้าครอบงำ จนเกิดเหตุดังกล่าวก็เป็นได้ จนกระทั่งประมาณช่วง 12.30 น. เจ้าอาวาสจึงกลับเข้ามาที่วัด
พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ให้สัมภาษณ์ โดยระบุว่า พระรูปที่เป็นข่าว มาจำวัดที่นี่ได้ 5-6 ปีแล้ว เป็นพระมหาที่เรียนดี เรียนเก่ง ถึงขั้นเปรียญ 7 เป็นถึงอาจารย์สอนประโยค ป.ธ.5 (เปรียญ 5) ปกติเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูดกับใคร ชอบอยู่คนเดียว เป็นไปได้ว่าช่วงที่เกิดเรื่องอาจจะเป็นช่วงที่เครียดสะสมจากการอ่านหนังสือ ท่องตำราเรียน จนทำให้สติเตลิดจนเกิดเรื่องดังกล่าว ซึ่งหลังทราบข่าว ก็ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ไม่ทันจะได้สอบ พระรูปนี้ก็เก็บข้าวของออกจากวัดทันทีตั้งแต่มีข่าว เพราะคงรู้ตัวว่าทำผิดกฎของวัด ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ทราบว่าไปอยู่ที่วัดไหน หรือไปทำอะไรต่อ แต่ที่แน่ๆ คงไม่สามารถกลับมาที่วัดแห่งนี้ได้อีกต่อไป ทั้งนี้หลังจากทราบเรื่อง ก็ได้แจ้งเรื่องและให้ข้อมูลกับสำนักงานพระพุทธศาสนาเป็นที่เรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ความผิดชัด และมีหลักฐานขนาดนี้ ทำไมถึงไม่สึก หรือ ลาสิกขา พระธรรมสุธี กล่าวว่า เรื่องนี้ในทางพระธรรมวินัย ไม่ถือว่าเป็นเรื่องคอขาดบาดตายถึงกับต้องจับสึก ไม่ใช่เรื่องอาญา ไม่ได้ไปฆ่า หรือ เสพเมถุน เรื่องนี้อยู่ในลักษณะ โลกวัชชะ เป็นการกระทำเรื่องเสียหายที่ชาวโลกติเตียนว่าไม่เหมาะสมกับสมณะ อีกอย่างการตรวจสอบพบว่าพระรูปนี้เคยมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมมาแล้วก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนไปก่อนหน้านี้แล้ว จนมาเกิดเรื่องนี้ขึ้น
ล่าสุด นายอินทพร จั่นเอี่ยม รอง ผอ.รักษาราชการแทน ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตรวจสอบทราบว่าเป็นพระสงฆ์วัดดังแห่งหนึ่งย่านหัวลำโพง และพระรูปดังกล่าวออกไปจากวัดแล้ว และจากข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมพระสงฆ์ที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสมในช่วงนี้ที่เกิดขึ้นบ่อย ได้เรียกประชุมผู้บริหาร พศ. ผู้ตรวจราชการ กำชับแนวทางในการดำเนินงานของ พศ. โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) จากที่ปฏิบัติงานดีอยู่แล้ว ก็ต้องมีความเข้มข้นขึ้น ต้องติดตามข่าวโดยตลอด เมื่อเกิดข่าวเกี่ยวกับพระสงฆ์ในแต่ละพื้นที่ ให้รีบดำเนินการรวบรวมหลักฐานแจ้งเจ้าคณะผู้ปกครอง พร้อมทั้งต้องประชาสัมพันธ์ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมพระสงฆ์ โทร. 1374 ยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือพระสงฆ์ที่ถูกร้องเรียนแน่นอน.-สำนักข่าวไทย