ยธ. เล็งเดินหน้าตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ หางานให้ผู้ต้องขัง

กรุงเทพฯ 29 ม.ค. – “สมศักดิ์” โชว์ ดูแลผู้ต้องขังดีเยี่ยม เล็งเดินหน้าตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ 4 ภาค หางานให้ผู้ต้องขัง 2 หมื่นคน หวังลดการกลับไปทำผิดซ้ำ ชี้เปิดโอกาสนักโทษหารายได้เฉลี่ย 8,000 บาท ดูแลตัวเอง-ครอบครัว เผย ช่วยรัฐประหยัดงบสร้างเรือนจำได้ถึง 11,200 ล้านบาท ลดค่าดูแล 440 ล้านบาทต่อปี


วันที่ 29 ม.ค.66 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ว่า กรมราชทัณฑ์ ได้รายงานความคืบหน้าการขับเคลื่อนนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ ในระยะที่ 2 หลังในระยะแรกได้ผลักดันจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมทรัพย์สาคร ที่จังหวัดสมุทรสาคร เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ผู้ต้องขังมีงานทำ และมีอาชีพหลังพ้นโทษ ทำให้มีการศึกษาแนวทางจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ เพื่อรองรับผู้ต้องขัง 4 ภาค โดยภาคเหนือ กำหนดไว้ที่จังหวัดลำพูน ภาคอีสาน จังหวัดนครราชสีมา และภาคใต้ จังหวัดสงขลา

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ผลการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในเรื่องนี้ พบว่า เป็นโครงการที่คุ้มค่าการลงทุนในระยะยาว เพราะไม่เป็นภาระภาครัฐ และไม่ก่อหนี้ให้เกิดผลกระทบต่อวินัยการเงินการคลังของรัฐ เนื่องจากนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ 1 แห่ง จะสามารถรองรับแรงงานได้ถึง 1 หมื่นคน แต่จะใช้รองรับแรงงานผู้ต้องขังแห่งละ 5,000 คน ที่เหลือให้เกิดการจ้างงานคนในพื้นที่ ซึ่งหากทำ 4 ภาค ก็จะรองรับแรงงานผู้ต้องขังได้ถึง 20,000 คน จะช่วยทำให้รัฐบาล ไม่ต้องเสียงบประมาณในการสร้างเรือนจำเพิ่ม เพราะเรือนจำ 1 แห่ง จะรองรับผู้ต้องขังได้ 2-3 พันคน โดยใช้งบประมาณสร้างแห่งละ 1,600 ล้านบาท ดังนั้น นิคมอุสาหกรรมราชทัณฑ์ จำนวน 4 แห่ง ก็จะช่วยให้ไม่ต้องสร้างเรือนจำเพิ่มถึง 7 แห่ง ประหยัดงบประมาณได้ถึง 11,200 ล้านบาท


“นอกจากไม่ต้องเสียเงินสร้างเรือนจำเพิ่มแล้ว ยังสามารถประหยัดงบประมาณ ในการดูแลผู้ต้องขังได้อีกด้วย ทั้งค่าอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ของใช้จำเป็น สบู่ ยาสีฟัน ผ้าอนามัย เฉลี่ยคนละ 22,000 บาทต่อปี ซึ่งถ้าออกไปทำงาน 2 หมื่นคน ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 440 ล้านบาทต่อปี รวมถึงในนิคมอุตสาหกรรมฯ จะทำให้ผู้ต้องขัง ที่ได้รับการพักโทษ สามารถดูแลตัวเองและครอบครัวได้ เนื่องจากจะมีรายได้เฉลี่ยคนละ 8,000 บาทต่อเดือน ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ มักจะเจอปัญหาผู้พ้นโทษ กลับมากระทำผิดซ้ำในรอบ 3 ปี เฉลี่ยถึง 35% เพราะสาเหตุหลักไม่มีอาชีพ ดังนั้น โครงการนี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการดูแลผู้ต้องขัง จนสามารถกลับเข้าสู่สังคมได้อย่างแข็งแรง มีอาชีพเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว ซึ่งจะช่วยลดการกลับเข้าวงจรทำผิดแบบเดิมๆได้ เพราะจากการเปิดให้ผู้ต้องขังใกล้พ้นโทษ ได้ทดลองทำงานจำนวน 482 คน พบมีผู้ผิดเงื่อนไขเพียง 36 ราย ซึ่งถือว่า เป็นตัวเลขที่น้อยลง เมื่อผู้ต้องขังมีงานทำเป็นหลักแหล่ง” รมว.ยุติธรรม กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.บังคับใช้ 7 มาตรการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง

ผบ.ตร. บังคับใช้ 7 มาตรการเข้มข้น แก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง ถูกหลอกลวง หรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำชัดให้เห็นผลภายใน 7 วัน หากพบเจ้าหน้าที่มีเอี่ยวหรือบกพร่อง ฟันเด็ดขาด

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

ตร.สอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ “ปิดจบสยบ Fiwfans”

ตำรวจสอบสวนกลาง “เปิดปฏิบัติการปิดจบสยบ Fiwfans (ฟิวแฟน)” เว็บไซต์ค้ากามเด็กออนไลน์ จับแอดมิน 5 ราย ดำเนินคดี พบในรอบ 4 ปี มีหญิงค้าประเวณีผ่านเว็บไซต์กว่า 40,000 ราย อายุต่ำสุด 15 ปี พบเงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

มาตรการสู้ฝุ่น

ขานรับมาตรการสู้ฝุ่น เช้าวันทำงาน “รถไฟฟ้า-รถเมล์” ขึ้นฟรี

“รถไฟฟ้า-รถเมล์” ฟรีตามมาตรการสู้ฝุ่น เช้าวันทำงาน พบส่วนใหญ่เลือกนั่งรถฟรี ประหยัดค่าใช้จ่าย ส่วนรถไฟฟ้าคนแน่น ขณะที่โรงเรียน กทม. 437 แห่ง เปิดเรียนตามปกติ

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลง 4-6 องศาฯ กทม.อากาศเย็นตอนเช้า-ลมแรง

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน อุณหภูมิลดลง 4-6 องศาฯ กับมีลมแรง ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล

เมย์วิวคว้าแชมป์แบด

“เมย์-วิว” คว้าแชมป์อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส

“น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ และ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ คว้าแชมป์แบดมินตันอินโดนีเซีย มาสเตอร์ส ในประเภทหญิงเดี่ยวและชายเดี่ยว