กทม.ประชุมมาตรการด้านสุขภาพนักท่องเที่ยว

กรุงเทพฯ 11 ม.ค. – รศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. ประชุมศูนย์เฝ้าระวังภาวะฉุกเฉินทางสุขภาพนักท่องเที่ยว ให้สำนักงานเขต 50 เขต ลงตรวจสอบสถานประกอบการให้มีความพร้อมที่ดีขึ้น แนะนักท่องเที่ยวทำประกันสุขภาพระยะสั้นก่อนเข้ามาเที่ยวไทยเพื่อความมั่นใจ


รศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานการประชุมศูนย์เฝ้าระวังภาวะฉุกเฉินทางสุขภาพกรุงเทพมหานคร หรือ Bangkok Health Emergency Operations Center (ศฉส.กทม. : BHEOC) ครั้งที่ 1/2566 พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักการแพทย์ สำนักอนามัย สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว สำนักงานเขต 6 กลุ่มเขต กทม. ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมภัตตาคารไทย หอการค้าไทย และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมมือกันในการดูแลนักท่องเที่ยว ซึ่งกรุงเทพมหานครในฐานะเจ้าของพื้นที่ ได้เสนอขอเข้าร่วมศูนย์ประสานงานร่วม 3 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงคมนาคม เพื่อประสานข้อมูลในการดูแลนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในกรุงเทพมหานคร ตลอดจนเกิดการทำงานร่วมกันอย่างมีเอกภาพ หารือเกี่ยวกับมาตรการด้านสุขภาพสำหรับนักท่องเที่ยว

รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่าจากการติดตามสถานการณ์ของ ศฉส.กทม. ที่จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 เป็นต้นมา จะเห็นว่าตัวเลขการติดเชื้อโควิดในประเทศลดลงต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยสีเขียว แสดงว่าภูมิคุ้มกันของประชาชนมีสถานะดีขึ้น ค่อนข้างแข็งแรง หากแต่ยังเป็นห่วงกลุ่ม 608 และผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่งปัจจุบัน กทม.ยึดหลัก 4-4 คือประชาชนจะต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 4 เข็ม หรือหากครบแล้วแต่เกิน 4 เดือน ให้มารับเข็มกระตุ้น


“แม้ว่าสถานพยาบาลของกรุงเทพมหานคร ทั้งในส่วนของ กทม. กระทรวงสาธารณสุข และเอกชน มีกำลังทรัพยากรพร้อมที่จะดูแลและยังสามารถรับได้ แต่ก็ไม่อยากให้ป่วย เราจึงเร่งในเรื่องของการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้มากขึ้น” รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านสถานการณ์เตียงนั้น ทางกรุงเทพมหานครได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขในการเตรียมเตียงมากกว่า 10,000 เตียง แต่อาการเจ็บป่วยที่ต้องใช้เตียงถือว่าน้อยมาก ไม่ถึง 5% ส่วนใหญ่เป็นลักษณะการเจ็บป่วยแบบผู้ป่วยนอก มีอาการเล็กน้อย ดังนั้น เรื่องเตียงเรามีความพร้อมและสามารถรองรับได้แน่นอน ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มสีเขียวก็จะมีแนวทางการรักษาแบบผู้ป่วยนอกเช่นกัน หากเจอนักท่องเที่ยวติดเชื้อก็จะให้กักตัวในโรงแรม ขอความร่วมมือใส่หน้ากาก และไม่ไปที่ชุมชน ลักษณะเดียวกับ Hotel Isolation อย่างเช่นที่ผ่านมา

สำหรับมาตรการในส่วนของกรุงเทพมหานครนั้น รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม.จะจัดฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กับผู้ให้บริการภาคส่วนการท่องเที่ยว ทั้งผู้ขับรถสาธารณะ รวมถึงภัตตาคาร ร้านอาหาร และจะทำให้โรงแรม สถานประกอบการ สถานที่ท่องเที่ยว รักษามาตรฐาน Covid Free Setting SHA และ SHA Plus โดยให้สำนักงานเขต 50 เขต ลงไปตรวจสอบผู้ประกอบการ ร้านอาหารต่าง ๆ ให้มีการเตรียมพร้อมที่ดีขึ้น มีสุขอนามัยที่ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นการยกระดับการท่องเที่ยวของประเทศให้เป็น Safety Tourism หรือ Trusted Tourism เพื่อฟื้นเศรษฐกิจเมืองได้อย่างรวดเร็ว


ในส่วนของนักท่องเที่ยวทั่วไปที่จะเข้ามา แนะว่าควรมีประกันสุขภาพมาด้วย เพื่อความมั่นใจ หากมีการเจ็บป่วยจะได้สบายใจเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล แต่กรณีนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศที่มีเงื่อนไขต้องตรวจ RT-PCR เมื่อกลับไป ให้มีประกันระยะสั้นในการเดินทางมา เพื่อครอบคลุมการตรวจและรักษาต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ทางรัฐบาลจะกำหนดสถานพยาบาลที่จะให้บริการนักท่องเที่ยว ทั้งในแง่ของการดูแลรักษารวมถึงการให้บริการวัคซีน เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติในวันที่ 12 มกราคมนี้ โดย กทม.ก็มีสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานหลายแห่งที่พร้อมจะเข้าร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะต้องรอความชัดเจนก่อน เพราะจะต้องมีรายละเอียดในเรื่องของการกำหนดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการตรวจรักษานักท่องเที่ยวระยะสั้นและระยะกลางที่เข้ามา

อีกส่วนหนึ่งคือจุดฉีดวัคซีนที่จะจัดให้นักท่องเที่ยวก็จะต้องมีการจัดระบบการจองคิว/การ walk in ให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดความหนาแน่น หรือปัญหาอื่น ๆ ตามมา ซึ่งล่าสุดทางศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ได้ให้สถานที่จัดฉีดวัคซีน ระหว่างวันที่ 19-25 มกราคม 2566 ตั้งแต่เวลา 12.00-20.00 น. ซึ่งอาจจะพิจารณาจัดระบบการฉีดให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย

“โควิดเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง เทียบเคียงกับโรคไข้หวัดใหญ่ การผ่อนคลายก็เพื่อทำให้เศรษฐกิจฟื้นกลับมา ซึ่งเราเองก็พึ่งพาเศรษฐกิจในด้านการท่องเที่ยวเยอะ และ กทม.ก็เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจ เป็นทางผ่านในการท่องเที่ยว เราก็อยากให้นักท่องเที่ยวเข้ามา กทม.พร้อมทำให้และพร้อมฟังเสียงตอบรับจากนักท่องเที่ยวและทุกภาคส่วน แต่แม้จะมีการผ่อนคลาย แต่ก็ต้องทำมาตรการของเราให้เข้มแข็งขึ้น เน้นการฉีดวัคซีนให้มาก เพราะเป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถตอบได้ว่า ในขณะที่ผู้ป่วยเพิ่มขึ้น แต่กว่า 90% เป็นสีเขียว และอัตราการเสียชีวิตในผู้ป่วยเหลือง-แดงก็ลดลง อย่างไรก็ตาม กทม.ขอความร่วมมือคนที่แข็งแรงอย่างพวกเราว่า เวลาไปที่ไหนให้ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการนำโรคไปถึงกลุ่ม 608 ที่บ้าน” รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าว. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย