ผู้ว่าฯ กทม. มุ่งจัดการปัญหาหาบเร่-แผงลอย อย่างสมดุล

กทม. 29 ธ.ค. – ผู้ว่าฯ สัญจร สำนักเทศกิจ มุ่งจัดการปัญหาหาบเร่-แผงลอย ด้วยความสมดุล นายกฯ กำชับ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และดูแลผู้มีรายได้น้อยควบคู่กันไป


“วันนี้เป็นกิจกรรมผู้ว่าฯ สัญจร ที่สำนักเทศกิจ (สนท.) ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีเทศกิจประมาณ 3,000 คน สังกัดสำนักเทศกิจกว่า 400 คน และสำนักงานเขตประมาณ 2,600 คน จริง ๆ แล้ว เทศกิจมีภาระหน้าที่สำคัญเยอะและหนักในการตอบสนองโจทย์คนเมือง อาทิ ดูแลเรื่องหาบเร่-แผงลอย การทิ้งขยะลงคูคลอง ความปลอดภัยของนักเรียนตามโรงเรียนต่าง ๆ ในช่วงเช้าและเย็น การจับปรับควันดำ/มลพิษ การจอดซากรถยนต์ในพื้นที่สาธารณะ การตั้งวางของจองที่จอดรถ การจอด/ขับขี่รถบนทางเท้า รวมถึงการตรวจสอบสถานบริการต่าง ๆ ยามค่ำคืน ถือเป็นสำนักที่เหนื่อยอันดับต้น ๆ เพราะครอบคลุมภารกิจหลายด้าน วันนี้ก็มาให้กำลังใจและก็เดินไปด้วยกัน” นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารสำนักเทศกิจ และผู้เกี่ยวข้อง ในกิจกรรมผู้ว่าฯ สัญจร สำนักเทศกิจ (สนท.) วันนี้ (29 ธ.ค. 65)

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัญหาที่เราเจอเยอะคือเรื่องหาบเร่-แผงลอย เมื่อวานได้พบกับท่านนายกรัฐมนตรี ท่านได้กำชับเรื่องนี้ว่า ให้ดูแลให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและให้เข้มงวด รวมทั้งดูแลผู้มีรายได้น้อยควบคู่กันไป


สำหรับช่วงที่ผ่านมา ในช่วงของการแพร่ระบาดโควิด-19 หาบเร่-แผงลอยมีจำนวนลดลง เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยว และมีการ Work from Home พอสถานการณ์ดีขึ้น เริ่มมีการเปิดเมือง นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา เศรษฐกิจกลับคืนมา จะเห็นว่าหาบเร่-แผงลอยก็กลับมาเพิ่มจำนวนอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามนโยบายของเราให้ความสำคัญกับคนเดินทางเท้าเป็นอันดับต้น เรามีพื้นที่ที่เป็นจุดผ่อนผันอยู่แล้ว 95 จุด ได้กำชับว่าต้องดูแลให้เข้มข้น ส่วนพื้นที่นอกจุดผ่อนผันก็มีการกำกับดูแลไม่ให้มีความสกปรกรกรุงรัง โดยได้นำเทคโนโลยี CCTV มาช่วย นำไปติดตั้งจุดที่มีปัญหาหรือจุดที่หาบเร่-แผงลอยรุกล้ำ แทนการนำบุคลากรมายืนกำกับดูแล เพราะทำให้เปลืองบุคลากรจำนวนมาก เมื่อเห็นการละเมิดผ่านจอมอนิเตอร์ ก็ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปจัดการในพื้นที่ภายใน 20 นาที ซึ่งการนำเทคโนโลยีมาใช้นี้ เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เราดูแลหาบเร่แผงลอยได้ดีขึ้น และต่อไปก็จะขยายการติดตั้ง CCTV ให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นด้วย นอกจากนี้ ในเขตที่ผ่อนผันแล้ว ทุกร้านจะมี QR Code บันทึกข้อมูลผู้ค้า เพื่อให้กทม.สามารถกำกับดูแลผ่าน QR Code ได้

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อไปว่า เรามีการจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอยแล้วหลายพื้นที่ อาทิ บริเวณทางเท้าถนนข้าวสาร หน้าอาคารโรเล็กซ์ (ถนนวิทยุ) หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีบางนา ฯลฯ โดยหาความร่วมมือจากเอกชนในพื้นที่ ปรับรูปแบบให้ดีมีฉากกั้น มีร่ม/เต็นท์ในรูปแบบเดียวกัน เพื่อให้มีระเบียบเรียบร้อยและเป็นเอกภาพมากขึ้น มีการเตรียมโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมรองรับพื้นที่การค้าหาบเร่-แผงลอย เช่น บริเวณซอยสังคโลก และตอนนี้ก็โฟกัสถนนสายหลัก 9 เส้น เพื่อนำร่องเพิ่มประสิทธิภาพการจัดระเบียบให้เข้มข้น ได้แก่ โบ๊เบ๊ สะพานควาย-จตุจักร ห้าแยกลาดพร้าว รัชดา-ห้วยขวาง วัดมังกร ราชประสงค์-เพชรบุรี เพลินจิต-ทองหล่อ สาทร-สีลม-พระราม 4 และแยกคลองเตย


ต้องเรียนว่า ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของปากท้องประชาชนเหมือนกัน เพราะหลาย ๆ คนก็เป็นคนที่ลำบากจริง ๆ ซึ่งการอยู่ในเมือง เขาไม่มีทรัพยากรอื่น บางคนอาจจะต้องอาศัยการทำมาหากินบนพื้นที่สาธารณะเพื่อดูแลครอบครัว ดูแลลูก เราจึงต้องทำควบคู่ไป ความจริงแล้วมันไม่ยากถ้าเราจะกวาดทุกคน แต่สุดท้ายแล้วก็จะไปกระทบชีวิตคนที่รายได้น้อยที่ยังต้องอยู่ในเมืองนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเราเช่นกัน ฉะนั้น ก็ต้องทำใน 2 มิติ คือความเข้าใจจิตใจเพื่อนร่วมเมือง และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเมือง โดยให้ความสำคัญในเรื่องความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเมือง รวมถึงคนเดินเท้า มาเป็นอันดับ 1

“ก็ต้องขอความร่วมมือ เราเข้าใจว่าสภาพเศรษฐกิจทำให้ลำบากสำหรับประชาชนบางกลุ่ม พวกเราเองก็เข้าใจคนที่ลำบาก แต่ความเป็นระเบียบเรียบร้อยก็ต้องมาด้วยกัน ต้องไม่ให้กระทบกับการจราจร รวมถึงประชาชนคนเดินเท้าส่วนใหญ่ การมาขายของบนที่สาธารณะไม่ใช่สิทธิ เพราะที่สาธารณะเป็นของประชาชนทุกคน ดังนั้น ต้องอยู่ด้วยกันและหาจุดที่สมดุล โดยให้ความเป็นระเบียบเรียบร้อยมาอันดับแรก ส่วนการดูแลพี่น้องที่ยากลำบาก ถ้าพอดูแลได้โดยไม่กระทบสิทธิคนอื่น เราก็พยายามจะให้อยู่ด้วยกันได้” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

● กทม. เอาจริง! ปัญหาหัวคิวแท็กซี่/สามล้อ

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า อนาคตที่ห่วงคือการขายของบนถนน โดยใช้รถพ่วงข้าง หรือจอด Food Truck นอกพื้นที่ที่กำหนด ซึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องดูแล เพราะตามกฎหมายห้ามขายของบนถนน ส่วนปัญหาที่ต่อเนื่อง คือปัญหารถแท็กซี่/สามล้อจอด โดยมีคนเก็บหัวคิวเพื่อให้จอดได้ เอาเปรียบนักท่องเที่ยว คิดราคาแพง ไม่กดมิเตอร์ เป็นปัญหาที่มีความรุนแรง ซึ่งได้มีการหารือร่วมกับตำรวจแล้ว วันนี้ก็จะปูพรมแถวหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ แพลทินัม ฝั่งตรงข้ามบิ๊กซี อนาคตสุขุมวิทตลอดสาย เพราะมีแท็กซี่/สามล้อจอดช่วงกลางคืนเยอะ ก็จะกำกับดูแลร่วมกับตำรวจ เพื่อไม่ให้มีการเก็บหัวคิววิน และให้นักท่องเที่ยวได้รับการดูแลที่ดีขึ้น

● ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยืนยัน เทศกิจปลอดส่วย

ด้านปัญหาส่วยนั้น จริง ๆ แล้วเป็นค่าปรับและค่าธรรมเนียม หากอยู่ในเขตผ่อนผันจะเป็นค่าธรรมเนียมรายปี ส่วนการจับปรับ ก็ปรับตามกฎหมาย ตามหลักก็จะได้รางวัลนำจับ 50% ที่เหลือส่งเข้าภาครัฐ ซึ่งนี่คือสิ่งที่เป็นไปตามกฎหมาย ส่วนส่วยที่จัดเก็บนอกเหนือจากนี้ เรายืนยันว่าเราไม่มีนโยบายนี้ ถ้ามีการกระทำผิด เรายืนยันว่าเราไม่เอาไว้ ไล่ออกอย่างเดียว และไม่มีการต้องส่งให้ผู้บริหาร เราไม่รับ ไม่ยุ่งตรงนี้ ประชาชนลำบากอยู่แล้ว จะไปรีดไถได้อย่างไร เพราะฉะนั้น ต้องทำตามระเบียบ ซึ่งเรื่องส่วยนั้น ยืนยันว่าเราไม่มีนโยบายด้านนี้ทั้งสิ้น

“เรื่องทุจริตเปรียบเสมือนเชื้อเล็ก ๆ ที่อาจกลายเป็นบาดทะยักได้ ถ้าเราละเลยกับการรีดไถหรือส่วยแม้เพียงเล็กน้อย สุดท้ายมันก็จะลามเป็นการทุจริตระดับใหญ่ได้ เพราะฉะนั้น หากประชาชนมีการโดนรีดไถ ก็ให้แจ้งมาทาง Traffy Fondue ซึ่งเรามีช่องทางในการแจ้งทุจริต ถ้ามีข้อมูลให้แจ้งมา เราเอาจริงเอาจังเรื่องนี้อย่างแน่นอน” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ย้ำ

● นำเทคโนโลยีมาใช้ เน้นโปร่งใส มีประสิทธิภาพ สู่เมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน

ด้านการปรับรูปแบบการทำงานของเทศกิจ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ต่อไปจะนำเทคโนโลยีมาใช้ให้มากขึ้น เช่น การนำ CCTV มาช่วยในการควบคุมดูแล การทำ QR Code ฐานข้อมูล การพัฒนาศักยภาพเทศกิจด้านต่าง ๆ เช่น ภาษาต่างประเทศ การร่วมมือกับหน่วยงานอื่น และอนาคตจะมีการโอนถ่ายงานเรื่องการจับปรับรถที่จอดผิดกฎหมายให้กทม.ดูแล ดังนั้น หลักการคือจะต้องโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เทศกิจมีความรู้หลากหลาย มีเทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อนำไปสู่เมืองน่าอยู่สำหรับทุกคนต่อไป

● ตัวแทนสำนักเทศกิจ ทานมื้อเที่ยงกับผู้ว่าฯ ชัชชาติ

จากนั้น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รับประทานอาหารกลางวันร่วมกับข้าราชการและบุคลากรซึ่งเป็นตัวแทนของสำนักเทศกิจ จำนวน 5 คน ประกอบด้วย นายปฏิญญา แสงนิล นิติกรชำนาญการพิเศษ กองนิติการและบังคับคดี สำนักเทศกิจ นางสาวณัฐทิพย์ ชยาทรกุล นักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ ฝ่ายบริหารงานทั่วไป สำนักงานเลขานุการ สำนักเทศกิจ นายวิศรุต โต๊ะพาน เจ้าพนักงานสื่อสารปฏิบัติงาน ฝ่ายการสื่อสาร สำนักงานเลขานุการ สำนักเทศกิจ นางธนภรณ์ อัศววงศ์เจริญ พนักงานเทศกิจ ส 1 ส่วนตรวจและบังคับการ 1 สำนักงานตรวจและบังคับการ สำนักเทศกิจ และนางสาวศิริวรรณ นิลสุวรรณ พนักงานเทศกิจ ส 2 ส่วนตรวจและบังคับการ 2 สำนักงานตรวจและบังคับการ สำนักเทศกิจ โดยได้มีการพูดคุยสอบถามเรื่องการทำงาน การเงิน รายได้ ชีวิตส่วนตัว และเรื่องทั่วไป รวมทั้งให้กำลังใจในการทำงาน

สำหรับเมนูอาหารวันนี้ ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น/เนื้อตุ๋น หมูสะเต๊ะ/เนื้อสะเต๊ะ ขนมบัวลอยเผือกมะพร้าวอ่อน ขนมพัฟสติ๊ก มะละกอสุก ฝรั่ง และผลไม้ตามฤดูกาล ทั้งนี้ การรับประทานอาหารร่วมกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานเป็นหนึ่งในกิจกรรมผู้ว่าฯ สัญจร เพื่อพบปะพูดคุย รับฟังปัญหา และสอบถามถึงอุปสรรคในการทำงานเพื่อนำไปสู่การแก้ไข โดยเริ่มกิจกรรมรับประทานอาหารร่วมกันครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ก.ค. 65 จากกิจกรรมผู้ว่าฯ กทม. สัญจร ที่สำนักงานเขตจตุจักร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

ตอบโต้เขมร! ปิด 4 ด่าน หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 ราย

23 ก.ค.- ศบ.ทก. เห็นชอบให้ทัพภาค 2 ปิดด่านชายแดน-สถานที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หลังล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย จากกระแสข่าวมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อเวลา 16.55 น. นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ปรึกษามาที่ ศบ.ทก. เพื่อขออนุญาตปิดด่านในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการประท้วงกัมพูชา จากการลักลอบวางทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ศบ.ทก. เห็นชอบ ขณะเดียวกันจะส่งหนังสือประท้วงโดยใช้กลไก RBC และรายงานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประท้วงต่อไป ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) จะปิดด่านชายแดนทั้งหมดในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ของไทย หลังจากที่ฝั่งไทยมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง 3 ปราสาท คือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย […]

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย