ผู้ว่าฯ กทม. มุ่งจัดการปัญหาหาบเร่-แผงลอย อย่างสมดุล

กทม. 29 ธ.ค. – ผู้ว่าฯ สัญจร สำนักเทศกิจ มุ่งจัดการปัญหาหาบเร่-แผงลอย ด้วยความสมดุล นายกฯ กำชับ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และดูแลผู้มีรายได้น้อยควบคู่กันไป


“วันนี้เป็นกิจกรรมผู้ว่าฯ สัญจร ที่สำนักเทศกิจ (สนท.) ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีเทศกิจประมาณ 3,000 คน สังกัดสำนักเทศกิจกว่า 400 คน และสำนักงานเขตประมาณ 2,600 คน จริง ๆ แล้ว เทศกิจมีภาระหน้าที่สำคัญเยอะและหนักในการตอบสนองโจทย์คนเมือง อาทิ ดูแลเรื่องหาบเร่-แผงลอย การทิ้งขยะลงคูคลอง ความปลอดภัยของนักเรียนตามโรงเรียนต่าง ๆ ในช่วงเช้าและเย็น การจับปรับควันดำ/มลพิษ การจอดซากรถยนต์ในพื้นที่สาธารณะ การตั้งวางของจองที่จอดรถ การจอด/ขับขี่รถบนทางเท้า รวมถึงการตรวจสอบสถานบริการต่าง ๆ ยามค่ำคืน ถือเป็นสำนักที่เหนื่อยอันดับต้น ๆ เพราะครอบคลุมภารกิจหลายด้าน วันนี้ก็มาให้กำลังใจและก็เดินไปด้วยกัน” นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารสำนักเทศกิจ และผู้เกี่ยวข้อง ในกิจกรรมผู้ว่าฯ สัญจร สำนักเทศกิจ (สนท.) วันนี้ (29 ธ.ค. 65)

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัญหาที่เราเจอเยอะคือเรื่องหาบเร่-แผงลอย เมื่อวานได้พบกับท่านนายกรัฐมนตรี ท่านได้กำชับเรื่องนี้ว่า ให้ดูแลให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและให้เข้มงวด รวมทั้งดูแลผู้มีรายได้น้อยควบคู่กันไป


สำหรับช่วงที่ผ่านมา ในช่วงของการแพร่ระบาดโควิด-19 หาบเร่-แผงลอยมีจำนวนลดลง เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยว และมีการ Work from Home พอสถานการณ์ดีขึ้น เริ่มมีการเปิดเมือง นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา เศรษฐกิจกลับคืนมา จะเห็นว่าหาบเร่-แผงลอยก็กลับมาเพิ่มจำนวนอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามนโยบายของเราให้ความสำคัญกับคนเดินทางเท้าเป็นอันดับต้น เรามีพื้นที่ที่เป็นจุดผ่อนผันอยู่แล้ว 95 จุด ได้กำชับว่าต้องดูแลให้เข้มข้น ส่วนพื้นที่นอกจุดผ่อนผันก็มีการกำกับดูแลไม่ให้มีความสกปรกรกรุงรัง โดยได้นำเทคโนโลยี CCTV มาช่วย นำไปติดตั้งจุดที่มีปัญหาหรือจุดที่หาบเร่-แผงลอยรุกล้ำ แทนการนำบุคลากรมายืนกำกับดูแล เพราะทำให้เปลืองบุคลากรจำนวนมาก เมื่อเห็นการละเมิดผ่านจอมอนิเตอร์ ก็ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปจัดการในพื้นที่ภายใน 20 นาที ซึ่งการนำเทคโนโลยีมาใช้นี้ เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เราดูแลหาบเร่แผงลอยได้ดีขึ้น และต่อไปก็จะขยายการติดตั้ง CCTV ให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นด้วย นอกจากนี้ ในเขตที่ผ่อนผันแล้ว ทุกร้านจะมี QR Code บันทึกข้อมูลผู้ค้า เพื่อให้กทม.สามารถกำกับดูแลผ่าน QR Code ได้

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อไปว่า เรามีการจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอยแล้วหลายพื้นที่ อาทิ บริเวณทางเท้าถนนข้าวสาร หน้าอาคารโรเล็กซ์ (ถนนวิทยุ) หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีบางนา ฯลฯ โดยหาความร่วมมือจากเอกชนในพื้นที่ ปรับรูปแบบให้ดีมีฉากกั้น มีร่ม/เต็นท์ในรูปแบบเดียวกัน เพื่อให้มีระเบียบเรียบร้อยและเป็นเอกภาพมากขึ้น มีการเตรียมโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมรองรับพื้นที่การค้าหาบเร่-แผงลอย เช่น บริเวณซอยสังคโลก และตอนนี้ก็โฟกัสถนนสายหลัก 9 เส้น เพื่อนำร่องเพิ่มประสิทธิภาพการจัดระเบียบให้เข้มข้น ได้แก่ โบ๊เบ๊ สะพานควาย-จตุจักร ห้าแยกลาดพร้าว รัชดา-ห้วยขวาง วัดมังกร ราชประสงค์-เพชรบุรี เพลินจิต-ทองหล่อ สาทร-สีลม-พระราม 4 และแยกคลองเตย


ต้องเรียนว่า ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของปากท้องประชาชนเหมือนกัน เพราะหลาย ๆ คนก็เป็นคนที่ลำบากจริง ๆ ซึ่งการอยู่ในเมือง เขาไม่มีทรัพยากรอื่น บางคนอาจจะต้องอาศัยการทำมาหากินบนพื้นที่สาธารณะเพื่อดูแลครอบครัว ดูแลลูก เราจึงต้องทำควบคู่ไป ความจริงแล้วมันไม่ยากถ้าเราจะกวาดทุกคน แต่สุดท้ายแล้วก็จะไปกระทบชีวิตคนที่รายได้น้อยที่ยังต้องอยู่ในเมืองนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเราเช่นกัน ฉะนั้น ก็ต้องทำใน 2 มิติ คือความเข้าใจจิตใจเพื่อนร่วมเมือง และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเมือง โดยให้ความสำคัญในเรื่องความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเมือง รวมถึงคนเดินเท้า มาเป็นอันดับ 1

“ก็ต้องขอความร่วมมือ เราเข้าใจว่าสภาพเศรษฐกิจทำให้ลำบากสำหรับประชาชนบางกลุ่ม พวกเราเองก็เข้าใจคนที่ลำบาก แต่ความเป็นระเบียบเรียบร้อยก็ต้องมาด้วยกัน ต้องไม่ให้กระทบกับการจราจร รวมถึงประชาชนคนเดินเท้าส่วนใหญ่ การมาขายของบนที่สาธารณะไม่ใช่สิทธิ เพราะที่สาธารณะเป็นของประชาชนทุกคน ดังนั้น ต้องอยู่ด้วยกันและหาจุดที่สมดุล โดยให้ความเป็นระเบียบเรียบร้อยมาอันดับแรก ส่วนการดูแลพี่น้องที่ยากลำบาก ถ้าพอดูแลได้โดยไม่กระทบสิทธิคนอื่น เราก็พยายามจะให้อยู่ด้วยกันได้” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

● กทม. เอาจริง! ปัญหาหัวคิวแท็กซี่/สามล้อ

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า อนาคตที่ห่วงคือการขายของบนถนน โดยใช้รถพ่วงข้าง หรือจอด Food Truck นอกพื้นที่ที่กำหนด ซึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องดูแล เพราะตามกฎหมายห้ามขายของบนถนน ส่วนปัญหาที่ต่อเนื่อง คือปัญหารถแท็กซี่/สามล้อจอด โดยมีคนเก็บหัวคิวเพื่อให้จอดได้ เอาเปรียบนักท่องเที่ยว คิดราคาแพง ไม่กดมิเตอร์ เป็นปัญหาที่มีความรุนแรง ซึ่งได้มีการหารือร่วมกับตำรวจแล้ว วันนี้ก็จะปูพรมแถวหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ แพลทินัม ฝั่งตรงข้ามบิ๊กซี อนาคตสุขุมวิทตลอดสาย เพราะมีแท็กซี่/สามล้อจอดช่วงกลางคืนเยอะ ก็จะกำกับดูแลร่วมกับตำรวจ เพื่อไม่ให้มีการเก็บหัวคิววิน และให้นักท่องเที่ยวได้รับการดูแลที่ดีขึ้น

● ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยืนยัน เทศกิจปลอดส่วย

ด้านปัญหาส่วยนั้น จริง ๆ แล้วเป็นค่าปรับและค่าธรรมเนียม หากอยู่ในเขตผ่อนผันจะเป็นค่าธรรมเนียมรายปี ส่วนการจับปรับ ก็ปรับตามกฎหมาย ตามหลักก็จะได้รางวัลนำจับ 50% ที่เหลือส่งเข้าภาครัฐ ซึ่งนี่คือสิ่งที่เป็นไปตามกฎหมาย ส่วนส่วยที่จัดเก็บนอกเหนือจากนี้ เรายืนยันว่าเราไม่มีนโยบายนี้ ถ้ามีการกระทำผิด เรายืนยันว่าเราไม่เอาไว้ ไล่ออกอย่างเดียว และไม่มีการต้องส่งให้ผู้บริหาร เราไม่รับ ไม่ยุ่งตรงนี้ ประชาชนลำบากอยู่แล้ว จะไปรีดไถได้อย่างไร เพราะฉะนั้น ต้องทำตามระเบียบ ซึ่งเรื่องส่วยนั้น ยืนยันว่าเราไม่มีนโยบายด้านนี้ทั้งสิ้น

“เรื่องทุจริตเปรียบเสมือนเชื้อเล็ก ๆ ที่อาจกลายเป็นบาดทะยักได้ ถ้าเราละเลยกับการรีดไถหรือส่วยแม้เพียงเล็กน้อย สุดท้ายมันก็จะลามเป็นการทุจริตระดับใหญ่ได้ เพราะฉะนั้น หากประชาชนมีการโดนรีดไถ ก็ให้แจ้งมาทาง Traffy Fondue ซึ่งเรามีช่องทางในการแจ้งทุจริต ถ้ามีข้อมูลให้แจ้งมา เราเอาจริงเอาจังเรื่องนี้อย่างแน่นอน” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ย้ำ

● นำเทคโนโลยีมาใช้ เน้นโปร่งใส มีประสิทธิภาพ สู่เมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน

ด้านการปรับรูปแบบการทำงานของเทศกิจ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ต่อไปจะนำเทคโนโลยีมาใช้ให้มากขึ้น เช่น การนำ CCTV มาช่วยในการควบคุมดูแล การทำ QR Code ฐานข้อมูล การพัฒนาศักยภาพเทศกิจด้านต่าง ๆ เช่น ภาษาต่างประเทศ การร่วมมือกับหน่วยงานอื่น และอนาคตจะมีการโอนถ่ายงานเรื่องการจับปรับรถที่จอดผิดกฎหมายให้กทม.ดูแล ดังนั้น หลักการคือจะต้องโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เทศกิจมีความรู้หลากหลาย มีเทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อนำไปสู่เมืองน่าอยู่สำหรับทุกคนต่อไป

● ตัวแทนสำนักเทศกิจ ทานมื้อเที่ยงกับผู้ว่าฯ ชัชชาติ

จากนั้น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รับประทานอาหารกลางวันร่วมกับข้าราชการและบุคลากรซึ่งเป็นตัวแทนของสำนักเทศกิจ จำนวน 5 คน ประกอบด้วย นายปฏิญญา แสงนิล นิติกรชำนาญการพิเศษ กองนิติการและบังคับคดี สำนักเทศกิจ นางสาวณัฐทิพย์ ชยาทรกุล นักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ ฝ่ายบริหารงานทั่วไป สำนักงานเลขานุการ สำนักเทศกิจ นายวิศรุต โต๊ะพาน เจ้าพนักงานสื่อสารปฏิบัติงาน ฝ่ายการสื่อสาร สำนักงานเลขานุการ สำนักเทศกิจ นางธนภรณ์ อัศววงศ์เจริญ พนักงานเทศกิจ ส 1 ส่วนตรวจและบังคับการ 1 สำนักงานตรวจและบังคับการ สำนักเทศกิจ และนางสาวศิริวรรณ นิลสุวรรณ พนักงานเทศกิจ ส 2 ส่วนตรวจและบังคับการ 2 สำนักงานตรวจและบังคับการ สำนักเทศกิจ โดยได้มีการพูดคุยสอบถามเรื่องการทำงาน การเงิน รายได้ ชีวิตส่วนตัว และเรื่องทั่วไป รวมทั้งให้กำลังใจในการทำงาน

สำหรับเมนูอาหารวันนี้ ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น/เนื้อตุ๋น หมูสะเต๊ะ/เนื้อสะเต๊ะ ขนมบัวลอยเผือกมะพร้าวอ่อน ขนมพัฟสติ๊ก มะละกอสุก ฝรั่ง และผลไม้ตามฤดูกาล ทั้งนี้ การรับประทานอาหารร่วมกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานเป็นหนึ่งในกิจกรรมผู้ว่าฯ สัญจร เพื่อพบปะพูดคุย รับฟังปัญหา และสอบถามถึงอุปสรรคในการทำงานเพื่อนำไปสู่การแก้ไข โดยเริ่มกิจกรรมรับประทานอาหารร่วมกันครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ก.ค. 65 จากกิจกรรมผู้ว่าฯ กทม. สัญจร ที่สำนักงานเขตจตุจักร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

The Ministry of National Defence claims Cambodia has not withdrawn troops from its sovereign territory

กห.กัมพูชายืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย

พนมเปญ 9 มิ.ย. – กระทรวงกลาโหมแห่งชาติ เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชายึดครองมายาวนาน เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ “ตามแถลงข่าวจากกระทรวงกลาโหมแห่งชาติในวันนี้ กระทรวงฯ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังต่อไปนี้: 1.ไม่มีการถอนกำลังทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาได้ประจำการมาเป็นเวลานาน 2.การดำเนินการทั้งหมดของกองทัพกัมพูชาประกอบด้วยการประจำการ การจัดวางกำลัง การปรับเปลี่ยน และการเคลื่อนย้าย อยู่ภายในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา 3.กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานทุกรูปแบบ 4.กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาเขตแดนกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) เพื่อดำเนินการวัดแนวเขตแดนและจัดทำเส้นเขตแดนในส่วนที่เหลือระหว่างสองประเทศ รวมถึงจุดที่กัมพูชาจะยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) กระทรวงกลาโหมแห่งชาติขอให้เพื่อนร่วมชาติและสื่อมวลชนใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยเฉพาะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และเชื่อถือได้” .-814.-สำนักข่าวไทย