รมว.ยุติธรรม แย้มเตรียมปรับเพิ่มเงินเยียวยาให้ผู้เสียหายในคดีอาญา

27 ธ.ค. – “สมศักดิ์” รมว.ยุติธรรม แย้มเตรียมปรับเพิ่มเงินเยียวยา จากปกติเสียชีวิตได้ 110,000 บาท เป็น 575,000 บาท เพิ่มชดเชยบาดเจ็บสูญเสียอวัยวะ 360,000 บาท ยันทำให้เหมาะสมกับสถานการณ์-เสียงสะท้อนของประชาชน


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงยุติธรรมได้เล็งเห็นความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากคดีอาญา ดังนั้นเราจึงมีการปรับอัตราการช่วยเหลือเยียวยา ผู้เสียหายในคดีอาญาให้สูงขึ้น โดยมอบหมายให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นเจ้าภาพในการร่างปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราในการจ่ายค่าตอบแทน ผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. … โดยให้มีการเพิ่มอัตรา การช่วยเหลือเยียวยาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และมีเสียงสะท้อนจากภาคประชาชน จากเหตุการณ์กราดยิง ที่ จ.หนองบัวลำภู ว่าวงเงินการเยียวยาค่อนข้างน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับการสูญเสียชีวิตหรือการบาดเจ็บ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ในการประชุมครั้งที่ 12/2565 เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 เห็นชอบในหลักการให้ปรับปรุงแก้ไขกฎกระทรวงเพิ่มอัตราการเยียวยาให้สูงขึ้น และมอบหมายให้คณะอนุกรรมการพัฒนากฎหมาย มาตรการ กลไก เพื่อคุ้มครองผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา พิจารณาแก้ไขกฎหมาย โดยได้ประชุมไปแล้วในครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2565 และจะพิจารณาต่อเนื่องในเดือน ม.ค.2566 ต่อไป โดยการตั้งจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาจะพิจารณา จากผลการศึกษาของหน่วยงานต่างๆ ที่มีการเยียวยาลักษณะคล้ายคลึง เพื่อเทียบเคียงเพื่อมาตั้งจ่าย ช่วยเหลือเยียวยาในอัตราที่เหมาะสม ซึ่งปกติทั่วไปค่าตอบแทนผู้เสียชีวิต จะได้รายละ 110,000 บาท ประกอบด้วย ค่าตอบแทนการเสียชีวิต 50,000 บาท ค่าจัดการศพ 20,000 บาท และค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู 40,000 บาท ซึ่งได้ปรับอัตราการเยียวยาใหม่ตามร่างกฎกระทรวง ประกอบด้วย ค่าตอบแทนการเสียชีวิต ตั้งแต่ 100,000 – 450,000 บาท ค่าจัดการศพ 45,000 บาท ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู 40,000 บาท และค่าเสียหายอื่น 40,000 บาท รวมช่วยเหลือสูงสุดตามร่างกฎหมายอยู่ที่ 575,000 บาท ส่วนกรณีบาดเจ็บ เพิ่มค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจเป็น 50,000 บาท จากเดิมจ่าย 20,000 บาท เพิ่มค่าตอบแทนความเสียหายอื่นเป็น 94,000 บาท เพื่อให้ครอบคลุมความเสียหาย ทั้งทางกาย จิตใจ ค่าใช้จ่ายในการครองชีพ และค่าพาหนะเหมาจ่าย จากเดิมจ่าย 50,000 บาท และเพิ่มค่าชดเชยการสูญเสียอวัยวะ หรือสมรรถภาพในการทำงานของอวัยวะไม่เกิน 360,000 บาท จากเดิมที่ไม่มี


 “สำหรับขั้นตอนต่อไปของการแก้ไขกฎกระทรวง จะส่งต่อให้ กระทรวงการคลังพิจารณาในวงเงินที่ตั้งจ่ายเพิ่มเติม และคณะกรรมการ พิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาพิจารณาเห็นชอบ พร้อมทั้งเปิดเวทีรับฟังความเห็น และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติในหลักการ แล้วส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจแก้ไข ก่อนเสนอขอความเห็นชอบ ซึ่งการปรับเพิ่มในส่วนนี้ เพราะเราเห็นถึงความเดือดร้อน ซึ่งเราอยากช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อนจากการสูญเสียให้ได้มากที่สุด ตามสิทธิที่ทุกคนควรจะได้รับ” นายสมศักดิ์ กล่าว. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จับหมอดังฟอกเงิน

ออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน”

ตำรวจออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คนข้อหา “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ล่าสุดจับได้แล้ว 6 คน ส่วนอีก 3 คน อยู่ระหว่างติดตามตัว เบื้องต้นมีข้อมูลว่า “หมอดัง” หนีออกนอกประเทศตั้งแต่ ก.ย.ที่ผ่านมา

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า