แนะนักท่องเที่ยว ‘คัด-แยก-ลด’ ป้องกันขยะล้นแหล่งท่องเที่ยวไทย

กรุงเทพฯ 10 ธ.ค. – กรมอนามัย ชวนนักท่องเที่ยวร่วมดูแลสิ่งแวดล้อม ช่วยกันคัดแยก และลดปริมาณขยะ ในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งทะเล น้ำตก ภูเขา ป้องกันขยะล้น เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี


นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ช่วงเทศกาลท่องเที่ยวประชาชนส่วนใหญ่เริ่มเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ ทั้งทางบก และทางทะเล รวมถึงสถานที่อื่นๆ ส่งผลให้ปริมาณขยะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งจากนักท่องเที่ยวเอง หรือจากโรงแรม รีสอร์ต บังกะโล ตลาดน้ำ และร้านอาหาร จากข้อมูลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พบว่า ปริมาณขยะมูลฝอยช่วงปี 2564 (ตุลาคม 2563 – กันยายน 2564) มีประมาณ 1,864 ตัน เป็นขยะอินทรีย์มากที่สุด จำนวน 737.58 ตัน หรือร้อยละ 39.56 ขยะทั่วไป จำนวน 722.26 ตัน หรือร้อยละ 39.33 ขยะรีไซเคิล เช่น ขวดแก้ว แก้ว และขวดพลาสติก จำนวน 291.26 หรือร้อยละ 15.62 ขยะอันตราย จำนวน 59.47 ตัน หรือร้อยละ3.19 และขยะอื่นๆ จำนวน 42.95 ตัน หรือร้อยละ 2.30 เมื่อแยกเป็นขยะพลาสติก ได้แก่ ถุงพลาสติกหูหิ้ว จำนวน 812,591 ใบ แก้วพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง จำนวน 208,179 ใบ และโฟมบรรจุอาหาร จำนวน 31,301 ใบ

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า จากข้อมูลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลปี 2564 พบว่า ขยะตกค้างชายฝั่ง มากที่สุดเรียงตามลำดับ คือ ขวดเครื่องดื่มพลาสติก ถุงพลาสติก เศษโฟม ขวดเครื่องดื่ม แก้ว ถุงก๊อปแก๊ป ถุงอาหาร เศษพลาสติก เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ แว่นตา และสร้อยคอ กล่องอาหาร กล่องโฟม และกระป๋องเครื่องดื่ม คิดเป็นร้อยละ 73 ของขยะทั้งหมด ส่วนที่เหลือเป็นขยะประเภทอื่นๆ ร้อยละ 27 นอกจากนี้ ประเทศไทยยังติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศที่ทิ้งขยะพลาสติกลงทะเลมากที่สุดในโลก โดยมีปริมาณมากถึง 22.8 ล้านกิโลกรัม ซึ่งส่งผลเสียต่อธรรมชาติ เช่น หาดทราย แนวปะการัง อีกทั้ง ขยะบางประเภทยังเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม หรือส่งผลต่อระบบนิเวศและห่วงโซ่อาหาร เช่น โฟม พลาสติก เมื่อสัตว์กินเข้าไป จะเกิดอันตรายและตายในที่สุด


“กรมอนามัยจึงขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวช่วยกันดูแลรักษาสภาพแวดล้อม และช่วยกันลดปริมาณขยะ โดย 1) คัดแยก และทิ้งขยะลงในถังหรือภาชนะที่จัดไว้อย่างถูกต้อง เลือกใช้ภาชนะที่ทำจากวัสดุธรรมชาติแทนกล่องโฟมและถุงพลาสติก หากนำสิ่งที่จะก่อให้เกิดขยะเข้าในแหล่งท่องเที่ยว เช่น ถุงพลาสติก กล่องโฟม ขวด กระป๋อง ควรเก็บคืนออกมาให้มากที่สุด 2) ลดปริมาณการนำเข้าขยะ โดยนำวัสดุอุปกรณ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ เช่น จาน ชาม ช้อน แก้ว โดยนำมาเอง นอกจากนี้ ให้ระวังการก่อไฟเผาขยะ ในบริเวณแหล่งท่องเที่ยว เพราะจะทำให้เกิดมลพิษและเกิดไฟไหม้อีกด้วย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ลั่นพ่อป่วยจริง แจงสังคมได้

ทำเนียบ 13 พ.ค.- “นายกฯ แพทองธาร” ลั่นแจงสังคมได้ พ่อป่วยจริง ใครจะคิดอย่างไร ห้ามไม่ได้ ชี้มติแพทยสภาว่าไปตามกระบวนการ เผย “ทักษิณ” เตรียมไปศาล 13 มิ.ย.นี้ ย้ำเหตุเกิดก่อนตัวเองนั่งเก้าอี้นายกฯ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่แพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 คน จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้าพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ปรากฏการณ์ดังกล่าวมองว่าเป็นการล้อมกรอบพรรคเพื่อไทย และมองกันว่าเป็นการแบ่งชนชั้นว่า ที่จริงแล้วเรื่องนี้ยังไม่มีข้อยุติว่าเป็นอย่างไร และยังไม่มีแพทยสภาคนใด ที่ออกมาพูดว่านายทักษิณ ป่วยจริงหรือไม่จริง ยังไม่ได้มีข้อสรุปตรงนี้และทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ จะแปลว่าอย่างไรก็ไม่ทราบจริงๆ ส่วนจะเป็นชนชั้นอะไรอย่างไรก็ไม่ทราบ เพราะไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้นเลย เมื่อถามว่าหลังแพทยสภามีมติออกมา จะมีผลอะไรตามมากับนายทักษิณหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่าไม่มีและคุณพ่อเตรียมที่จะชี้แจงแค่นั้น เป็นการชี้แจงไปตามข้อเท็จจริง เมื่อถามย้ำว่าประเด็นนี้สามารถแจงสังคมได้ใช่หรือไม่นางสาวแพทองธารกล่าวว่า แจงได้ และพูดมาตลอดว่า นายทักษิณอายุมากแล้ว และเคยเป็นโควิดตั้งแต่ ก่อนกลับประเทศไทยตอนอายุประมาณ 72 ปี ตนจำได้เพราะไม่สบายหนัก และมีประวัติเรื่องนี้อยู่แล้ว ตั้งแต่การรักษาที่เมืองนอก และเกี่ยวเนื่องกันมา […]

เพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ซ.ฉลองกรุง 55 ดับสนิทแล้ว

กทม. 13 พ.ค. – เหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 ไฟดับแล้วทุกจุด เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบสารเคมี เตรียมปิดศูนย์บัญชาการวันนี้ แต่เปิดศูนย์พักพิงให้บริการประชาชนต่อเนื่อง กรณีเหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ เกิดขึ้นตั้งแต่ 16.00 น. ของวันที่ 11 พฤษภาคม กระทั่งเมื่อคืนนี้ช่วง 01.00 น. วันที่ 13 พฤษภาคม เกิดมีไฟลุกไหม้ขึ้นมาอีกครั้งบางจุด เนื่องจากอุณหภูมิพลาสติกที่สูงสะสมประกอบกับลมแรง แต่เป็นเพียงหย่อมเล็กๆ และไม่มีการลามไปยังจุดอื่นๆ เจ้าหน้ายังคงคอยควบคุมอุณหภูมิเพื่อป้องกันการลุกไหม้ ประกอบกับฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน จนสามารถควบคุมเพลิงได้ในเวลา 07.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งบรรยากาศขณะนี้ พบว่ายังคงมีกลุ่มควันลอยออกมาจากตัวอาคารที่เกิดเพลิงไหม้อยู่ และยังคงมีกลิ่นสารเคมีลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ วันนี้ นางเกศี จันทราประภาวัฒน์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ลงพื้นที่มาเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ภายในศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ สำนักงานเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ด้วย ด้าน นายธราพงษ์ เพ็ชร์คง ผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง เปิดเผยว่า สถานการณ์ล่าสุด […]

เตรียมฝากขัง “สจ.กอล์ฟ” พรุ่งนี้ อาจโดนข้อหาซ่องโจรเพิ่ม

สงขลา 13 พ.ค. – ตำรวจยังไม่นำตัว “สจ.กอล์ฟ” กับลูกน้องไปฝากขังผัดแรก ต้องสอบปากคำเพิ่มเติม อาจแจ้งข้อหาซ่องโจรเพิ่มด้วย มั่นใจดิ้นไม่หลุด จากเหตุการณ์ นายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ สจ. เขต7 จ.สงขลา ลูกชาย สส.สงขลา ส่งลูกน้องไปรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ตำรวจตชด. ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในหน่วยเลือกตั้งที่ อ.เมือง จ.สงขลา เพราะไม่พอใจที่ถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้ง ขณะไปลงคะแนน ก่อนถูกออกหมายจับ และเข้ามอบตัวตั้งแต่เมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) ขณะที่ลูกน้องอีก 6 คน ถูกจับกุมตัวได้หมดแล้ว ซึ่งทั้ง7 คนยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขังสภ.เมืองสงขลา เนื่องจากพนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำตัวส่งฟ้องศาล จ.สงขลา พรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม วันนี้อาจมีการนำตัวผู้ต้องหาบางคนออกมาสอบสวนเพิ่มเติม และอาจแจ้งข้อหาเพิ่ม อาทิ ซ่องโจร เนื่องจากเป็นการรวมตัวเกิน 5 คนเพื่อกระทำความผิด อย่างไรก็ตาม คดีนี้เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานหนาแน่นทั้งพยานบุคคล ภาพจากกล้องวงจรปิด หลักฐานในโทรศัพท์มือถือของสจ.กอล์ฟ […]

กทม.ทำบุญให้ผู้สูญหายที่เสียชีวิตจากตึก สตง. ถล่ม

กทม. 13 พ.ค.-พิธีตักบาตรพระสงฆ์และสวดพระพุทธมนต์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้สูญหายที่เสียชีวิตจากอาคาร สตง. ถล่ม พบมี ผู้ว่าฯ สตง.เข้าร่วมพิธี 13 พ.ค.68 ตั้งแต่ช่วงเช้าที่บริเวณชั้น 3 ภายในพื้นที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 109 รูป และพิธีสวดพระพุทธมนต์ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้สูญหายที่เสียชีวิต จากอาคาร สตง. ถล่ม โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เป็นประธาน พร้อมด้วย รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม., นายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. รวมถึงอาสาหน่วยกู้ภัยและผู้ที่เข้ามาปฏิบัติงานช่วยเหลือตลอดทั้ง 45 วันของปฏิบัติการ โดยพบว่ามี นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เข้าร่วมพิธีด้วย จากนั้นทีมงานที่ปฏิบัติงานทั้งหมด ทั้งหน่วยกู้ภัย รวมถึงทีมจากศูนย์บัญชาการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ทีมสุนัขกู้ภัย […]