สธ. แจงเบิกจ่ายค่าเสี่ยงภัยโควิดเกือบ 100% แล้ว

กรุงเทพฯ 6 ธ.ค. – สธ. แจงเบิกจ่ายค่าเสี่ยงภัยโควิดที่ได้รับจัดสรรแก่บุคลากรสาธารณสุข เกือบ 100% แล้ว เร่งทำคำของบกลางเพิ่มกลุ่มตกหล่น-ค้างจ่าย


วันนี้ (6 ธันวาคม 2565) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการจ่ายค่าตอบแทนเสี่ยงภัยให้แก่บุคลากรสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานโควิด 19 ว่า หลังกระทรวงสาธารณสุขได้รับการจัดสรรงบประมาณค่าตอบแทนเสี่ยงภัยโควิดจากสำนักงบประมาณ ได้จัดสรรลงพื้นที่และมีการเบิกจ่ายให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานโควิด 19 อย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากระบบ GFMIS วันที่ 1 ธันวาคม 2565 เงินค่าตอบแทนเสี่ยงภัยโควิดจากแหล่งงบประมาณ 2 ส่วน คือ 1.งบเงินกู้ สำหรับค่าตอบแทนเสี่ยงภัยโควิดในกลุ่มบุคลากรวิชาชีพ จำนวนรวม 10,024,121,605.03 บาท เบิกจ่ายแล้ว 8,596,739,717.82 บาท คิดเป็น 85.76% คงเหลือ 1,427,381,887.21 บาท และ 2.งบกลางค่าตอบแทนเสี่ยงภัยโควิดในกลุ่มสนับสนุนการปฏิบัติงาน จำนวนรวม 871,203,436 บาท เบิกจ่ายแล้ว 845,500,942.76 บาท คิดเป็น 97.04% คงเหลือ 25,702,493.24 บาท

“ค่าตอบแทนเสี่ยงภัยโควิดทั้ง 2 ส่วนจะเร่งรัดการเบิกจ่ายให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว สำหรับบุคลากรสายวิชาชีพและสายสนับสนุนที่ตกหล่น รวมถึงที่ยังค้างจ่ายอีก 3 เดือน คือ กรกฎาคม – กันยายน 2565 และบุคลากรของหน่วยงานนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ยังไม่ได้รับค่าตอบแทนเสี่ยงภัย จะมีการรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินการของบกลางจากรัฐบาลมาจ่ายเพิ่มเติมต่อไป” นพ.ทวีศิลป์กล่าว


สำหรับขั้นตอนการเสนอของบกลางค่าตอบแทนเสี่ยงภัยนั้น หลังวันที่ 6 ธันวาคม 2565 จะทบทวนและจัดทำรายละเอียดคำขอทั้งสายตรงและสายสนับสนุน และประสานหน่วยงานภายนอกสังกัดที่เคยเบิกจ่ายค่าตอบแทนเสี่ยงภัยเพื่อจัดทำคำของบกลาง จากนั้นสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขจะรวบรวมและเสนอคำของบกลางในภาพรวม และหารือแนวทางการเบิกจ่ายของ รพ.สต.ที่มีการถ่ายโอนฯ เมื่อสำนักงบประมาณพิจารณาผ่านคณะรัฐมนตรีและอนุมัติจัดสรรแล้ว จะเริ่มดำเนินการเบิกจ่ายได้ โดยหน่วยงานส่วนภูมิภาค ให้เบิกเงินจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด กรมในสังกัด เบิกจากหน่วยงานต้นสังกัด ส่วนหน่วยงานภายนอกสังกัด เบิกจ่ายจากกองบริหารการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง