ผู้ป่วยโควิดเดลตาครอนรายแรกในไทย อาการไม่รุนแรง แนะฉีด 4 เข็ม

กรุงเทพฯ 1 ธ.ค. – กรมควบคุมโรค เผยผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาครอน (XBC) ที่ตรวจพบรายแรกในไทย อาการไม่รุนแรง แนะกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีน อย่างน้อย 4 เข็ม ป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิต


วันนี้ (1 ธันวาคม 2565) นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย สัปดาห์ที่ 47 (วันที่ 20-26 พ.ย. 65) พบผู้ป่วยนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 4,914 ราย เฉลี่ย 702 รายต่อวัน และผู้ป่วยเสียชีวิตจากโควิด-19 รวม 74 ราย เฉลี่ย 10 ราย/วัน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เป็นไปตามคาดการณ์หลังจากโรคโควิด 19 ปรับเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง และประชาชนกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ

กรมควบคุมโรคได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์โรคโควิด 19 อย่างใกล้ชิด โดยดำเนินการเฝ้าระวังเชิงรุกในชุมชน สถานที่เสี่ยง และผู้ป่วยที่มารับการรักษาในโรงพยาบาล รวมทั้งติดตามการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์กลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทำให้พบผู้ป่วยที่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลปทุมธานี เป็นหญิงไทย อายุ 47 ปี หลังตรวจพบการติดเชื้อโควิด 19 ด้วย ATK จากที่บ้าน และได้รับการตรวจด้วยวิธี RT-PCR ตามแนวทางการเฝ้าระวังโรค เป็นสายพันธุ์เดลตาครอน (XBC) รายแรกของประเทศ ผู้ป่วยรายนี้ได้รับวัคซีนแล้วรวม 3 เข็ม (Astra-Zeneca 2 เข็มแรกเมื่อปี 2564 และวัคซีน Pfizer เข็มที่ 3 เมื่อกุมภาพันธ์ 2565) ไม่มีอาการป่วยรุนแรง ขณะนี้หายดีแล้ว


นายแพทย์ธเรศ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมควบคุมโรค ขอเน้นย้ำมาตรการที่สำคัญสำหรับประชาชนทั่วไป และกลุ่ม 608 ให้ไปรับวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 4 เข็ม และผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มสุดท้ายนานเกิน 4-6 เดือน ให้รีบไปฉีดวัคซีนเข็มถัดไป เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ป้องกันการป่วยหนัก และลดโอกาสการเสียชีวิตจากเชื้อโควิด 19 ทุกสายพันธุ์ที่พบในขณะนี้ สามารถไปรับวัคซีนได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทั่วประเทศ และสำหรับผู้ที่ไปทำกิจกรรมในพื้นที่แออัด ใช้บริการในสถานที่สาธารณะ โดยสารขนส่งสาธารณะ ให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ด้วยเจลแอลกอฮอล์ และเว้นระยะจากผู้อื่น ทั้งนี้ หากประชาชนมีอาการป่วยทางเดินหายใจ ให้สังเกตอาการตนเอง และไปพบแพทย์เมื่อมีอาการมากขึ้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1422 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ