ผู้ว่าฯ ชัชชาติ แจงเปิดลานคนเมืองชุมนุม

กทม. 14 พ.ย.- ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ขอบคุณทุกหน่วยงาน เตรียมพร้อมจัดประชุมเอเปค แจงเปิดลานคนเมืองชุมนุม กำชับทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน


“ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมใจในการทำงานเตรียมพร้อมจัดการประชุมเอเปค ทั้งในเรื่องการซ่อมแซมน้ำพุในสวนเบญจกิติ เป็นสิ่งที่ประชาชนและศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ชื่นชม เป็นความสำคัญของความร่วมแรงร่วมใจเอาจริงเอาจัง ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ช่วยกันปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม ในส่วนของหาบเร่แผงลอยที่เข้าไปจัดระเบียบนั้น ไม่ต้องการแค่ชั่วคราว แต่ต้องการทำให้เกิดผลประโยชน์กับประชาชนจริง ๆ ที่ผู้นำที่มาทุกเมืองเข้าใจได้ และต้องทำในระยะยาว ขอบคุณหลายเขตที่เกี่ยวข้องที่ทำให้ดำเนินการอย่างเรียบร้อยก่อนจัดการประชุมเอเปค อีกเรื่องหนึ่งคือการเปิดลานคนเมืองสำหรับการชุมนุม อาจมีบางคนไม่เห็นด้วย แต่เป็นพื้นฐานของประชาธิปไตย ผู้นำที่มาเขตเศรษฐกิจที่มาจำนวนมากอยู่ในระบอบประชาธิปไตยที่เห็นว่าการแสดงความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติ ต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ให้พวกเขามีพื้นที่ ดีกว่าไม่มีพื้นที่ให้เขาเลย เหมือนกับฝาหม้อต้มน้ำที่ปิดไม่มีทางออกทำให้ฝาระเบิด ถ้ามีท่อให้ปล่อยความดันออกมาได้เป็นการปลดปล่อยที่ดี ถ้าประชาชนถามก็ขอให้ช่วยอธิบายว่าเป็นเรื่องปกติและทางกทม.ได้ประสานกับตำรวจตลอด ซึ่งตำรวจก็ขอบคุณที่เคลียร์พื้นที่ให้ เป็นพื้นที่ที่เราดูแลได้ ไม่ออกมาทำความเดือดร้อนให้กับคนอื่น และช่วยดูแลให้เรียบร้อยได้ ทำให้การควบคุมดูแลง่ายขึ้น ที่สำคัญต้องระวังในเรื่องที่ไม่คาดคิด ถ้าพนักงานกวาดเห็นสิ่งผิดปกติขอให้แจ้งผู้รับผิดชอบทราบ และต้องมีจุดที่ดูการรายงานสถานการณ์ใกล้ ๆ พื้นที่ สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกคน ขอให้ช่วยดูแลเป็นหูเป็นตาเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย”

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวในการประชุมคณะกรรมการเพื่อเตรียมการจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้องในส่วนที่กรุงเทพมหานครรับผิดชอบ วันนี้ (14 พ.ย. 65) โดยมี คณะกรรมการ คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานสังกัดกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 1 อาคาร 1 สำนักการโยธา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง


ในที่ประชุม คณะอนุกรรมการด้านต่าง ๆ ได้รายงานความคืบหน้าภารกิจที่รับผิดชอบ ในส่วนของคณะอนุกรรมการด้านพิธีการและอำนวยการฯ สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผลจัดทำคำสั่งจัดตั้งศูนย์ติดตาม ประสานงานแก้ไขปัญหาการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคในส่วนที่กรุงเทพมหานครรับผิดชอบ สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณในการประดับตกแต่งต้นไม้ สำนักสิ่งแวดล้อมดำเนินการปิดสวนเบญจกิติ ระหว่างวันที่ 14 – 20 พฤศจิกายน 2565 เพื่อการใช้พื้นที่สวนฯ เป็นเส้นทางเข้า-ออกสำรอง และใช้พื้นที่พิพิธภัณฑ์เป็นที่พักรอสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และดำเนินการจัดทำแผน/มาตรการในการจัดการปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 สำนักการโยธาปรับปรุงทางเท้าบริเวณโรงแรมดิ แอทธินี และถนนบริเวณไอคอนสยาม

สำหรับคณะอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจรฯ สำนักเทศกิจจัดทำทะเบียนหาบเร่/แผงลอยในพื้นที่ที่มีการประชุม และจัดเตรียมเจ้าหน้าที่เทศกิจที่สื่อสารภาษาต่างประเทศรองรับการให้ข้อมูลต่าง ๆ สำนักการจราจรและขนส่งดำเนินการปรับปรุงเครื่องหมายจราจรให้มีความปลอดภัยชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณโดยรอบที่ผู้นำเศรษฐกิจเอเปคเข้าพัก สำนักการระบายน้ำจัดทำแผนเฝ้าระวังบริหารจัดการน้ำช่วงที่มีการจัดประชุมเอเปค สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจัดทำรายงานสรุปผลการตรวจความปลอดภัยโรงแรมที่ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคฯ เข้าพัก มอบสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการแพทย์ และสำนักอนามัย ร่วมกันวางแผนรับมือการเผชิญเหตุฉุกเฉินด้านความปลอดภัยและด้านการแพทย์ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยให้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด สำนักการแพทย์ประสานหน่วยงานภายนอกด้านการแพทย์ สำนักงานเขตดำเนินการบริหารจัดการสุนัขและแมวจรจัดในพื้นที่ที่ขบวนผู้นำฯ ผ่าน ให้สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว และสำนักปลัดกรุงเทพมหานคร เตรียมความพร้อมของสถานที่ (ลานคนเมือง) รองรับการชุมนุม

ด้านคณะอนุกรรมการด้านประชาสัมพันธ์ สำนักงานประชาสัมพันธ์ดำเนินการประชาสัมพันธ์การจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคฯ อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของสำนักงานเขตที่เกี่ยวข้อง (คลองเตย สาทร ปทุมวัน บางคอแหลม บางรัก บางกอกใหญ่ คลองสาน และพระนคร) ดูแลความสะอาดความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นที่ จัดระเบียบพ่อค้าหาบเร่แผงลอยและคนไร้บ้าน และสนับสนุนภารกิจร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น


ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังการประชุมว่า กทม. มีอนุกรรมการ 3 ด้าน คือ ด้านพิธีการและอำนวยการฯ ด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจรฯ และด้านการประชาสัมพันธ์ ภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้เสร็จสิ้นเกือบหมด มีบางส่วนที่รอการประสานงานอยู่ ในแง่พิธีการ ตกแต่งประดับต้นไม้ริมถนน ได้ดำเนินการครบถ้วน เรื่องเกี่ยวกับป้ายที่สำนักการโยธาดำเนินการมีบางป้ายที่มีการเจรจาโดยตรง เช่น ประเทศจีน ซาอุดิอาระเบีย อยู่ระหว่างการรอตรวจ ส่วนป้ายต้อนรับผู้นำที่ดอนเมืองและสุวรรณภูมิตอนนี้เรียบร้อยแล้ว การประดับธงเอเปค กทม.ได้ดำเนินการเรียบร้อย และได้มอบหมายธงให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประดับบนทางด่วนด้วย เรื่องถนน ทางเท้า การเทยางมะตอย ขีดสีตีเส้น ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นเรียบร้อย การดูแลฟุตบาททางเท้าเรียบร้อย เพิ่มไฟบางจุดที่มีความมืดอยู่ เช่น สุขุมวิทซอย 2 หน้าโรงแรมที่มีผู้นำมาพัก ดำเนินการเรียบร้อย

สำหรับสวนเบญจกิติขอให้รอไปจนหลังวันที่ 20 แล้วมาใช้ใหม่ น้ำพุ ไฟประดับ ทำเรียบร้อย การดูแลพื้นที่ตามเส้นทางดูแลในกรอบที่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยไม่รกรุงรัง ส่วนหน่วยบรรเทาสาธารณภัยได้ประจำอยู่ตามจุดต่าง ๆ อาทิ โรงแรม และอนามัย ด้านความปลอดภัยสาธารณสุขของพื้นที่ทำตามแผนที่ได้รับมอบหมาย ทั้งยังเปิด War Room อยู่ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงข้า) เป็นศูนย์รวมในการประสานงาน และจะหาอีกที่หนึ่งอยู่ใกล้กับศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อดูแลพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งอาจอยู่ในเขตคลองเตยได้ ในส่วนของเทศกิจ หลัก ๆ ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเมือง อาจมีขยะ ใบไม้ร่วงเยอะ ให้ดูแลความสะอาด รวมทั้งเป็นหูเป็นตา

หลายมิติที่เราต้องช่วยกันระวัง มีอะไรเกิดขึ้นขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ เช่น พนักงานกวาดถนน พนักงานเก็บขยะ อีกเรื่องที่เน้นย้ำคือการระบายน้ำ ถึงแม้ว่าพ้นฤดูฝนมาแล้ว แต่ยังมีฝนตก 60% ในช่วงที่มีการจัดงาน กทม.คิดถึง Worse Case กรณีที่แย่ที่สุดว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เราได้มีการทำความสะอาดท่อระบายน้ำในพื้นที่ที่เป็นยุทธศาสตร์หมดแล้ว สำนักการระบายน้ำเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการดูแลพยากรณ์อากาศและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่มีอะไรที่น่ากังวล เพราะฝนจะช่วยชะฝุ่นลดน้อยลงด้วย ทั้งนี้ ในส่วนของ กทม.พร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการจัดประชุมเอเปคอย่างเต็มที่

สิ่งที่กทม.ยังกังวลคือในส่วนของผู้ชุมนุม แต่ที่ผ่านมาการชุมนุมก็มีความเรียบร้อย โดยกทม.ได้มีการหารือกับทางตำรวจอย่างต่อเนื่อง ตำรวจเองอยากให้จัดพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนให้ประชาชนมีพื้นที่ในการแสดงออก ไม่กีดขวางเส้นทางหรืออยู่ในพื้นที่ที่มีข้อกังวลด้านความปลอดภัย เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจใน 2 มิติ คือ เสรีภาพในการแสดงออก และการเปิดพื้นที่ให้ ซึ่งกทม.ยังเปิดพื้นที่เหมือนเดิม โดยพื้นที่ลานคนเมือง ตอนนี้มี 3 กลุ่มที่ขอเข้ามาจัดระหว่างวันที่ 16 – 18 พฤศจิกายน 2565 คือ กลุ่มไผ่ดาวดิน กลุ่มทะลุฟ้า และกลุ่มราษฎร ซึ่งกทม.ได้มีการหารืออย่างต่อเนื่อง และพยายามขอร้องไม่ให้เคลื่อนไปยังถนน ให้อยู่ในพื้นที่ที่กำหนดไว้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่หนักอยู่แล้วที่ต้องดูแลความปลอดภัย ถ้ามาอย่างสงบและแสดงความเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องที่ทำได้ เชื่อว่าทุกคนยอมรับในกรอบที่ต้องปฏิบัติตาม เหมือนเป็นสัญญาของกทม.กับประชาชน ที่ผ่านมาไม่มีเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ ขอให้ร่วมมือกัน กทม.ยินดีที่จะเคลียร์พื้นที่ให้ตามข้อตกลงกันที่จะไม่เคลื่อนที่

สำหรับพี่น้องประชาชนคนอื่น ต้องเรียนชี้แจงว่าไม่ต้องกังวลในส่วนนี้ เป็นเรื่องธรรมดาของระบอบประชาธิปไตยที่มีคนเห็นต่างบ้าง การเปิดพื้นที่ให้ชุมนุม ดีกว่าไม่มีพื้นที่ให้คนแสดงออกเลย ซึ่งเขาอาจจะไปหาพื้นที่ที่อาจมีผลต่อการจัดประชุมเอเปค จึงขอให้ประชาชนเข้าใจ โดยกทม.ได้มีการประสานกับทางตำรวจให้มาดูแลและหารือกันอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ที่มาแสดงความเห็นอยู่ในกรอบที่กำหนด และทำตามที่ตกลงกันไว้ เป็นสิ่งที่ผู้นำทุกประเทศน่าจะเข้าใจ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานอยู่แล้ว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ระงับเดินทางเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม-บ้านผักกาด ชั่วคราว

จันทบุรี 7 มิ.ย. – หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ออกหนังสือราชการ ระงับนักท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา เดินทางผ่านเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม – บ้านผักกาด ชั่วคราว ยกเว้นแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทย ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ลงนามในหนังสือราชการด่วนที่สุด แจ้งไปยังผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เรื่อง ขอระงับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวกัมพูชา เดินทางผ่านเข้า – ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรฯ โดยอ้างอิงตามประกาศให้ใช้กฎอัยการศึก ในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เฉพาะอำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว และตามมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มีอำนาจ เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เนื่องจากปัจจุบันมีสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามจากประเทศกัมพูชา และอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวกัมพูชา อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 ขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง […]

มอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา – สุรนารี คุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย. – ทบ.ออกคำสั่งมอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา และ ผบ.กองกำลังสุรนารี ควบคุมจุดผ่านแดนแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตามมติ สมช. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกำหนดอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ การดำเนินการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งมอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการควบคุมการเปิด–ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด การออกมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายกัมพูชารุกล้ำชายแดนไทยหลายครั้ง พร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างเปิดเผย แม้ไทยจะใช้สันติวิธีและพยายามเจรจา แต่กัมพูชายังเสริมกำลังและจัดตั้งฐานทหารใกล้ชายแดน แสดงถึงความไม่ร่วมมือและเป็นภัยต่ออธิปไตยและความมั่นคงของไทย ทำให้ไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามแนวชายแดน สำหรับรายละเอียดทั้งหมดในคำสั่งดังกล่าวสามารถติดตามได้ผ่านช่องทางการสื่อสารทางการของกองทัพบกที่เว็บไซต์ www.rta.mi.th เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากทางราชการ -313-สำนักข่าวไทย

ปปง. ร่วมสอบกรณีพบเงินต้องสงสัยถูกทิ้ง 12 ล้าน

7 มิ.ย.- ปปง. ร่วมตรวจสอบกรณีพบเงินสด 12 ล้าน วางทิ้งในกล่องข้างถังขยะคอนโดเมืองทองฯ ชี้ผู้อ้างเป็นเจ้าของเงินต้องชี้แจงรายละเอียดที่มาให้ได้ จากกรณีที่พลเมืองดี พบธนบัตรเงินสด 12 ล้านบาท ในกล่องพลาสติกสีเทา บริเวณคอนโดเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายเกี่ยวกับสำนักงาน กสทช. ซึ่งปรากฏชื่อในเอกสารดังกล่าว คือ นายทวีวัฒน์ และนายทวีวัฒน์ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วระบุเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านดังกล่าว นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ในฐานะโฆษก ปปง. กล่าวถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า ขั้นตอนตามปกติหากพบเหตุสงสัย พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดย ปปง. ได้ประสานการทำงานร่วมกับตำรวจอยู่แล้ว ซึ่งต้องสอบสวนคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเงิน กับผู้เกี่ยวข้องทุกส่วน ทั้งธนาคาร และส่วนงานที่ผู้ที่อ้างเป็นเจ้าของเงินระบุถึง สุดท้ายเจ้าของต้องชี้แจงในรายละเอียดว่าเงินดังกล่าวได้มาอย่างไร ถ้าพนักงานสอบสวนรวบรวมว่า เกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐานกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในข้อใด หรือทรัพย์ดังกล่าวอาจเกี่ยวกับการกระทำผิดตามกฎหมายฟอกเงินที่ปัจจุบันมี 28 มูลฐานความผิด การจะมีการประสานส่งเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ ปปง. […]

“อนุทิน” ย้ำไม่ย้ายกระทรวง ยึดข้อตกลงเดิม​ นายกฯ ให้ความมั่นใจแล้ว

สุวรรณภูมิ​ 7 มิ.ย.-“อนุทิน” ลั่นไม่มีอะไรต้องตกลงแล้ว ทุกอย่างจบตั้งแต่กินช็อกมินต์ หลังกระพือยึดเก้าอี้ มท.1 ชี้ “ภูมิใจไทย” ไม่ได้เดินไปขอร่วมรัฐบาล ย้ำชัดไม่ย้ายกระทรวงยึดข้อตกลงเดิม ระบุนายกฯ ก็ให้ความมั่นใจแล้ว ยอมรับกินข้าว รวมไทยสร้างชาติ แล้ว แต่คุยปมพลังงาน ยันไม่ต้องจับมือต่อรอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยโดยยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยใดๆ ซึ่งเรื่องการปรับ ครม. หากมีการถามมายังพรรคภูมิใจไทย พรรคก็ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร เพราะได้คุยในเบื้องต้นภายในพรรคแล้วว่ารัฐมนตรีทุกคนยังทำงานได้อย่างเต็มที่ กระทรวงที่กำกับดูแลในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เมื่อถามว่า กระแสข่าวการเขย่าเก้าอี้แบบนี้แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการกระทรวงมหาดไทยคืนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มองว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร มันเขย่าไม่ได้ นี่เป็นรัฐบาลผสม และเป็นข้อตกลงที่เราหารือกันตั้งแต่เราตั้งรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน 2 ปีแล้ว และมายังรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รูปแบบนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ตรงนี้ไม่ใช่ว่าเป็นของใคร แต่เป็นข้อตกลงและเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่ ที่มีข่าวบอกว่าคนนี้ทำงานดีหรือไม่ดี […]