เจรจาคืนรถยนต์มือสองล้อหลุด มีผู้เสียหายโผล่อีกราย

นนทบุรี 12 พ.ย.- “ทนายเดชา” พาผู้เสียหายไป สภ.ปากเกร็ด เจรจาตัวแทนเต็นท์รถยนต์มือสอง เพื่อขอยกเลิกสัญญาซื้อขาย คืนรถที่เกิดเหตุล้อหลุด


จากกรณี น.ส.วรรณพิชา หรือ ดรีม อายุ 23 ปี และสามี ซื้อรถยนต์มือสองจากเต็นท์รถย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี แต่ขับออกไปได้เพียงประมาณ 100 เมตร ล้อหน้าด้านซ้ายหลุดไปชนร้านสเต็ก หลังเกิดเหตุ โทรศัพท์ให้เต็นท์รถทราบและมาช่วยเหลือ ซึ่งตอนแรกบอกจะรับผิดชอบค่าเสียหายร้านสเต็ก แต่ภายหลังกลับบอกปัดให้ผู้ซื้อรถแจ้งประกันภัยรับผิดชอบเอง นอกจากนี้ เมื่อผู้ซื้อรถ จะขอคืนรถยนต์ เพราะสภาพรถไม่เป็นไปตามที่ตกลงไว้ เต็นท์รถก็ปฏิเสธอ้างสัญญาเกิดขึ้นแล้ว ไม่สามารถคืนรถยนต์ได้ และเมื่อนำรถยนต์เข้าตรวจสภาพที่ศูนย์อีซูซุ พบว่าสภาพรถเสียหายทั้งคัน แชสซีคด เป็นสนิม และน้ำรั่วเวลาฝนตก น่าจะเคยเกิดอุบัติเหตุรุนแรงและถูกน้ำท่วม ทำให้ น.ส.วรรณพิชา มาขอความช่วยเหลือจากนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ กระทั่งพาไปแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด

ล่าสุด วันนี้ ทนายเดชา พา น.ส.วรรณพิชา ไปที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อเจรจากับตัวแทนเต็นท์รถยนต์ ขอคืนรถคันที่เกิดปัญหาและเรียกค่าเสียหาย โดยมีผู้เสียหายอีก 1 คน ที่เคยซื้อรถจากเต็นท์ดังกล่าว ขอความช่วยเหลือจากทนายเดชา ซึ่งเดินทางมาเจรจาครั้งนี้ด้วย คือ น.ส.ทิฆัมพร อายุ 26 ปี ชาวสมุทรปราการ ส่วนเต็นท์รถคู่กรณี ส่งทนายความมาเพียงคนเดียว


สำหรับการเจรจา น.ส.วรรณพิชา กล่าวว่า เธอต้องการยกเลิกสัญญาซื้อขายรถกับเต็นท์ และสัญญาที่ทำกับไฟแนนซ์ ขอเงินคืนตามราคารถ 409,000 บาท และเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งค่าเสียเวลา ค่าเสียประโยชน์จากการใช้รถ และค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับร้านสเต็ก อีกทั้งเมื่อตรวจสอบประวัติรถโดยละเอียด พบผ่านผู้เป็นเจ้าของมาแล้ว 10 คน ซึ่งนายฤทธิไชย เล้าภากรณ์ ทนายของเต็นท์รถ ตอบรับว่า ตอนแรกเต็นท์รถไม่รู้ความต้องการของผู้เช่าซื้อชัดเจน ตอนนี้รู้แล้วว่าต้องการยกเลิกสัญญา ตนจึงเตรียมเอกสารเพื่อดำเนินการให้ ส่วนค่าเสียหายที่เรียกมานั้น ควรเป็นค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแท้จริง ต้องตรวจสอบ แต่จะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด และค่าเสียหายร้านสเต็กประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนกรณีที่ผู้เช่าซื้อนำรถไปตรวจสภาพพบว่ารถมีสภาพเคยเสียหายหนักนั้น เต็นท์รถซื้อมาขายไป ก็ไม่รู้ประวัติรถละเอียดทุกคัน

ด้านทนายเดชา ได้สอบถาม น.ส.วรรณพิชา ถึงการดำเนินการทางกฎหมายต่อเต็นท์รถ ซึ่งเธอบอกว่า ถ้าเต็นท์รถยอมยกเลิกสัญญา และจ่ายค่าเสียหายตามที่เธอเรียกไป ก็จะไม่ดำเนินคดี แต่ทั้งนี้อยากให้สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.ตรวจสอบเต็นท์รถดังกล่าว เพราะหลังเรื่องราวของเธอตกเป็นข่าว มีผู้ติดต่อมาหลายคนว่าได้รับความเสียหายจากการซื้อรถจากเต็นท์แห่งนี้

ขณะที่ในส่วนของผู้เสียหายรายใหม่ คือ น.ส.ทิฆัมพร กล่าวในการเจรจาว่าเธอซื้อรถจากเต็นท์ดังกล่าวเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ราคา 580,000 บาท ทำสัญญากับไฟแนนซ์ผ่อน 5 ปี เดือนละ 9,860 บาท เพียงแค่วันเดียวก็พบความผิดปกติของรถมากมาย ประกอบด้วย คลัชหมด พวงมาลัยหักขวาไม่สุด น้ำมันเกียร์หมด กระจกขวาหลุด ที่จับกระบะท้ายหลุด อินเตอร์คูลเลอร์รั่ว นอตล้อรถไม่เต็มรู ตรวจสอบเป็นรถที่มีเจ้าของมา 6 คนแล้ว จึงแจ้งไปที่เต็นท์รถเพื่อขอยกเลิกสัญญา คืนรถ แต่เต็นท์ปฏิเสธ และเปลี่ยนคลัชให้อย่างเดียว โดยวันนี้เธอขอคืนรถและขอเงินคืน รวมทั้งค่าเสียหายที่ต้องจอดรถทิ้งไว้ โดยไม่ได้ใช้งานประกอบอาชีพ ซึ่งทนายความของเต็นท์รถ ได้รับเรื่องและเอกสารของ น.ส.ทิฆัมพร ไว้ พร้อมบอกว่าจะนำไปหารือกับเจ้าของเต็นท์


ทั้งนี้ ก่อนการเจรจา ทนายเดชา ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนแรก สคบ.แจ้งว่าจะเดินทางมาร่วมเจรจาด้วย แต่กลับยกเลิก ซึ่งตนเห็นว่าการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นหน้าที่ของ สคบ. เมื่อปรากฏเป็นข่าวแบบนี้ สคบ. ควรจะต้องมาดูแลผู้เสียหาย เพราะ สคบ. เป็นคนออกกฎระเบียบการซื้อขายมือสองเอง เพื่อไม่ให้ผู้ซื้อถูกเต็นท์รถเอาเปรียบ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เต็นท์รถละเมิดกฎเกณฑ์ดังกล่าวหลายข้อ แต่ สคบ.กลับนิ่งเฉย

นอกจากนี้ ทนายเดชา ยังตั้งข้อสังเกตการดำเนินธุรกิจของเต็นท์รถดังกล่าวว่า จะจูงใจให้คนซื้อรถโดยโฆษณาในเฟซบุ๊กว่าออกรถไม่ต้องดาวน์ ซึ่งผู้เสียหาย 2 คนที่ขอความช่วยเหลือจากตน เป็นผู้ที่มีรายได้น้อย เมื่อมีช่องทางออกรถโดยไม่ต้องดาวน์ ทำให้ติดต่อซื้อรถยนต์จากเต็นท์แห่งนี้ จึงฝาก สคบ. ช่วยดูเรื่องเหล่านี้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]