เตือนลอยกระทง ระวังอุบัติเหตุจมน้ำ “ไม่เมา ไม่เก็บ ไม่ปล่อยเด็กตามลำพัง”

กรุงเทพฯ 7 พ.ย.- กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงปีนี้ ระมัดระวังอุบัติเหตุการจมน้ำ เนื่องจากข้อมูลย้อนหลังช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบผู้เสียชีวิตเฉพาะในวันลอยกระทงมากถึง 60 ราย จึงขอเน้นย้ำมาตรการ “ไม่เมา ไม่เก็บ ไม่ปล่อยเด็กตามลำพัง”


วันนี้ (7 พ.ย.65) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วันลอยกระทงในปีนี้ตรงกับวันอังคารที่ 8 พ.ย.65 ซึ่งรัฐบาลอนุญาตให้จังหวัดต่างๆ จัดงานเทศกาลลอยกระทงได้ เพื่อเป็นการสืบสานประเพณี ขอขมาพระแม่คงคา และเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งอาจมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจมน้ำเสียชีวิตได้ โดยสถานการณ์การจมน้ำในช่วงวันลอยกระทง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2560-2564) จากข้อมูลมรณบัตร กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พบว่าวันลอยกระทงวันเดียว มีคนจมน้ำเสียชีวิต 60 คน เฉลี่ยปีละ 12 คน และเป็นที่น่าสังเกตว่า ช่วงหลังวันลอยกระทงเพียง 1 วัน ของแต่ละปี จะพบว่ามีการจมน้ำเสียชีวิตสูงมากกว่าวันลอยกระทงถึง 1-2 เท่า กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ 45-59 ปี (ร้อยละ 30) เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี (ร้อยละ 14) เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิงเกือบ 5 เท่า

ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้เกิดการจมน้ำในช่วงลอยกระทงที่พบบ่อย คือ การดื่มสุรา การลงไปเก็บเงินในกระทง และการปล่อยให้เด็กลอยกระทงหรืออยู่ใกล้แหล่งน้ำตามลำพัง ซึ่งจากข้อมูลในระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บแห่งชาติของกระทรวงสาธารณสุข พบว่าผู้บาดเจ็บจากการจมน้ำและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ มีความเกี่ยวข้องกับการดื่มแอลกอฮอล์ถึงร้อยละ 15


นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเน้นย้ำมาตรการสำหรับประชาชนในการป้องกันการจมน้ำ ช่วงลอยกระทง คือ “ไม่เมา ไม่เก็บ ไม่ปล่อยเด็กตามลำพัง” ไม่เมา คือ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงวันลอยกระทง ไม่เก็บ คือ ไม่แนะนำให้ลงน้ำไปเก็บเหรียญในกระทง เพราะน้ำเย็นอาจทำให้ตะคริวเสี่ยงจมน้ำได้ ไม่ปล่อยเด็กตามลำพัง ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เมื่อพาเด็กไปลอยกระทง ไม่ปล่อยเด็กให้คลาดสายตา เพราะเพียงแค่ชั่วพริบตา เด็กอาจตกน้ำได้ (เด็กสามารถจมน้ำได้แม้ระดับน้ำเพียง 1-2 นิ้ว)

สำหรับการป้องกันสำหรับหน่วยงานหรือพื้นที่จัดงาน คือ 1.กำหนดพื้นที่สำหรับจัดงานลอยกระทงอย่างชัดเจน เว้นระยะห่าง มีแสงสว่างเพียงพอ มีรั้วหรือสิ่งกั้นขวาง ป้องกันการพลัดตกน้ำ 2.จัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับช่วยคนตกน้ำ จมน้ำ ไว้บริเวณแหล่งน้ำเป็นระยะ เช่น ห่วงชูชีพ ถังแกลลอน เชือก ไม้ 3.สำหรับการเดินทางทางน้ำ ต้องจัดเตรียมเสื้อชูชีพให้เพียงพอต่อผู้โดยสาร และให้มีการสวมใส่ทุกครั้งก่อนออกเดินทาง 4.จัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลสอดส่อง และช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินตลอดระยะเวลาการจัดงาน

นอกจากนี้ ขอความร่วมมือประชาชน หากเข้าไปในพื้นที่ที่มีผู้คนแออัด ให้สวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเดินหายใจ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว

ยายวัย 85 ดีใจได้เงินคืน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอน 2 ล้าน

อายัดบัญชี อดีตข้าราชการครูวัย 85 ปี ดีใจได้เงินคืน หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ก.คลัง หลอกโอนเงิน 2 ล้านบาท

รถทัวร์ชนต้นไม้

รถทัวร์ กทม.-เชียงใหม่ ตกร่องถนนชนต้นไม้ ดับ 2 เจ็บกว่า 30

รถโดยสารกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขับส่ายไปมา ก่อนเสียหลักตกร่องกลางถนนพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ เสียชีวิต 2 ราย เจ็บกว่า 30 คน สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ