ยธ.เร่งคลอดระบบ Blockchain แจ้งเบาะแสยาเสพติดแบบไม่รู้ตัวตน

กรุงเทพฯ 5 พ.ย. – “สมศักดิ์” เร่งคลอดระบบ Blockchain แจ้งเบาะแสยาเสพติดแบบไม่รู้ตัวตน คาดประชาชนกล้าแจ้งมากขึ้น หวังช่วยลดข่าวหลอนยาก่อเหตุ มั่นใจได้ใช้สิ้นเดือน พ.ย.นี้ “วิชัย” เชื่อช่วยให้ยึดทรัพย์ได้ตามเป้า 1 แสนล้านบาท แจงเงินไม่ได้เข้ากองทุนทันที ต้องมีขั้นตอน ใช้เวลากว่า 2 ปี


วันที่ 5 พ.ย.65 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการพัฒนาระบบ Blockchain ในการแจ้งเบาะแสยาเสพติด และรับเงินรางวัลนำจับ ว่า ตนได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. และ พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อติดตามการพัฒนาระบบ Blockchain ในการแจ้งเบาะแสยาเสพติด เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้แจ้งเบาะแส ที่จะไม่สามารถพิสูจน์ตัวตนผู้แจ้งได้

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ระบบ Blockchain ในการแจ้งเบาะแสยาเสพติด เราคิดค้นขึ้นเพื่อแก้ปัญหาประชาชนไม่กล้าแจ้งเบาะแสยาเสพติด เนื่องจากกังวลว่าจะไม่ปลอดภัย ตนจึงได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำระบบให้มีความปลอดภัย โดยตนได้สั่งการเรื่องนี้ไปตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งก็มีความคืบหน้าเป็นลำดับ แต่ยังรู้สึกช้าไป เพราะต้องรอขั้นตอนการอนุมัติใช้เงินศึกษา ประมาณ 8-9 แสนบาท ซึ่งตนต้องการให้เสร็จก่อนสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ เพราะขณะนี้ยังมีข่าวคนหลอนยาเสพติดก่อเหตุทำร้ายผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง จึงต้องการระบบแจ้งเบาะแสที่มีชั้นความลับสูงมาก มาเป็นหนึ่งในกลไกแก้ปัญหายาเสพติด


ขณะที่ พล.ต.ต.บรรพต กล่าวว่า ระบบ Blockchain จ่ายรางวัลนำจับ เป็นเรื่องที่ต่างชาติให้ความสนใจ โดยตนได้พูดคุยกับหน่วยงานของต่างประเทศ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่า ระบบที่เรากำลังทำนี้ ยังไม่มีประเทศใดทำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี จะได้มีเครื่องมือหลากหลายในการแก้ปัญหายาเสพติด เพราะระบบนี้จะไม่มีใครทราบว่า ใครเป็นคนแจ้งเบาะแส โดยจะมีความปลอดภัยที่สูงมาก ไม่สามารถแฮกระบบได้ ซึ่งก็จะช่วยให้ประชาชนกล้าแจ้งเบาะแสมากขึ้น โดยขั้นตอนขณะนี้ได้ให้สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ศึกษาวิจัยเทียบระบบเก่ากับระบบใหม่ เพื่อทำให้ระบบนี้มีความสมบูรณ์มากขึ้น และกลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการแก้ปัญหายาเสพติด

ส่วนนายวิชัย กล่าวว่า ระบบ Blockchain ในการแจ้งเบาะแสยาเสพติด จะสามารถช่วยให้ประชาชนกล้าแจ้งเบาะแส และจะช่วยทำให้ ป.ป.ส. สามารถยึดอายัดทรัพย์ของขบวนการค้ายาเสพติดได้ตามเป้า 1 แสนล้านบาท ซึ่งการอายัดทรัพย์นั้น สังคมยังเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะการอายัดไม่ได้นำเงินเข้ากองทุนยาเสพติดทันที แต่ต้องมีขั้นตอน เช่น เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปยึดอายัดทรัพย์ ก็ต้องมีการกลั่นกรอง โดยให้เลขาธิการ ป.ป.ส. ออกคำสั่งยึดอายัดชั่วคราว และส่งต่อไปยังคณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของแต่ละภาค จากนั้นก็จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ก่อนส่งให้อัยการ และส่งศาลพิจารณาตามลำดับ ถึงจะสามารถมีคำสั่งยึดทรัพย์เข้ากองทุนยาเสพติดได้ ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปี และเงินกองทุนฯ ก็ไม่สามารถใช้โดยพลการได้ ต้องมีการขออนุมัติจากกรมบัญชีกลางก่อน. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก