กรุงเทพฯ 3 พ.ย. – กลุ่มไรเดอร์หลายร้อยคันรวมตัวชุมนุมหน้าอาคารธนภูมิ ถ.เพชรบุรี ยื่น 3 ข้อเรียกร้อง ด้านแกร็บออกแถลงการณ์ พร้อมทบทวนมาตรการ-หาแนวทางใหม่ ๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (3 พ.ย.65) กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ Grab ปิดการจราจรบนถนนนเพชรบุรีตัดใหม่ หน้าอาคารธนภูมิ ทุกช่องทาง หลังไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัดจากบริษัทเจ้าของแอปพลิเคชัน กรณีทางกลุ่มยื่นข้อเรียกร้องให้ยกเลิกระบบการจองรอบ (พื้นที่การทำงาน) ล่วงหน้า 1 วัน การสุ่มจ่ายงานพร้อมกัน 2 งานต่อผู้ขับขี่ 1 คน และปรับสัดส่วนค่าตอบแทน โดยกลุ่มผู้ขับขี่พยายามปิดล้อมทางออกอาคาร เพื่อสกัดรถยนต์ที่ขับออกมา เพราะเข้าใจว่าเป็นรถของผู้บริหาร ทำให้เกิดความชุลมุนขึ้นเล็กน้อย
แกนนำของกลุ่ม ระบุว่า วันนี้นัดผู้ขับขี่หลายร้อยคันมารวมตัวกัน เพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้บริษัทเห็นใจภาระที่ผู้ขับขี่ Grab ได้รับจากการปรับเปลี่ยนระบบจนกระทบต่อรายได้และจำนวนงานลดน้อยลง หลังจากยื่นข้อเรียกร้องแล้วกลับไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน เพราะต้องรอการพิจารณาเป็นเวลา 14 วัน ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจจนควบคุมไม่ได้ ซึ่งคำตอบจะเป็นเช่นไร พวกตนก็พร้อมจะนำไปพิจารณา เพื่อดำเนินการตามช่องทางของกฎหมายต่อไป ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดภาวะสุญญากาศแบบนี้
ภายหลังตำรวจนครบาล 1 ตรึงกำลังรักษาสถานที่ พร้อมกับพยายามเจรจากลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์แกร็บให้ผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบ ไม่ปิดพื้นผิวจราจรถนนเพชรบุรี เพื่อให้รถสามารถสัญจรผ่านไปมาได้ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมยินยอม สถานการณ์ทั่วไปไม่มีความรุนแรง
ล่าสุดเวลา 16.30 น. กลุ่มไรเดอร์เปิดช่องการจราจร เคลื่อนตัวออกจากพื้นที่ไปร้องที่สถานีโทรทัศน์ย่านพระราม 4 ต่อไป ทำให้รถที่สัญจรถนนเพชรบุรี ทั้งขาเข้าและออก สามารถสัญจรได้ตามปกติ
ด้านบริษัท แกร็บ ประเทศไทย ออกจดหมายเปิดผนึกชี้แจงว่า ทางบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับทุกความคิดเห็นของผู้ใช้บริการ รวมถึงพาร์ทเนอร์คนขับ เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงการให้บริการ ตลอดจนการบริหารงานในด้านต่าง ๆ พร้อมยืนยันว่า บริษัทฯ เปิดรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของพาร์ทเนอร์คนขับที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการผ่านช่องทางต่าง ๆ ในรูปแบบที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม โดยหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง
สำหรับประเด็นการจัดสรรงานและการบริหารค่าตอบแทนของพาร์ทเนอร์คนขับ ทางบริษัทฯ ตระหนักดีว่าเป็นเรื่องอ่อนไหวและเป็นสิ่งที่พาร์ทเนอร์คนขับให้ความสำคัญ ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้ดำเนินการและประกาศใช้นโยบายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับค่าตอบแทนของพาร์ทเนอร์คนขับด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด และยังสามารถรักษาความสมดุลระหว่างอุปทานและอุปสงค์ โดยคำนึงถึงปัจจัยรอบด้าน อาทิ จำนวนพาร์ทเนอร์คนขับในพื้นที่ จำนวนการสั่งอาหารของผู้ใช้บริการ ประสิทธิภาพในการให้บริการของพาร์ทเนอร์คนขับ เป็นต้น โดยที่ผ่านมาระดับของอุปทานและอุปสงค์ (จำนวนพาร์ทเนอร์คนขับที่ให้บริการและจำนวนผู้ใช้บริการสั่งอาหาร) ได้ผันผวนไปตามสถานการณ์ของตลาด รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปในช่วงก่อนและหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ บริษัทฯ จะทบทวนมาตรการต่าง ๆ พร้อมพิจารณาหาแนวทางใหม่ ๆ โดยคำนึงถึงการรักษาสมดุลทางธุรกิจและสร้างประโยชน์กับทุกฝ่ายอย่างเหมาะสมที่สุด.-สำนักข่าวไทย