กรุงเทพฯ 31 ต.ค. – กระทรวงแรงงานร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง กวาดล้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายซอยกีบหมู พบ 50 คน ไม่มีใบอนุญาต-นายจ้างเป็นนอมินี เตือนนายจ้างรับทำงานโทษจำคุก ปรับสูงสุด 100,000 บาท
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายกรมการจัดหางานลงพื้นที่บริเวณถนนเจริญพัฒนา ซอยสุเหร่าคลอง 1 (ซอยกีบหมู) แขวงบางชัน เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) รวม 85 นาย เพื่อตรวจสอบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย รวมทั้งสร้างการรับรู้แก่นายจ้าง/สถานประกอบการ ให้ทราบและปฏิบัติตามเงื่อนไขการรับคนต่างด้าวเข้าทำงานตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ซอยกีบหมูในวันนี้ เบื้องต้นตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าว 50 คน มีทั้งแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน แรงงานต่างด้าวเคยมีนายจ้างแต่ปัจจุบันไม่ได้ทำงานกับนายจ้างแล้ว แต่นายจ้างไม่ได้แจ้งออก และแรงงานต่างด้าวที่มีใบอนุญาตทำงาน แต่นายจ้างเป็นนอมินี ซึ่งทั้งหมดจะถูกนำตัวไปที่ สน.คันนายาว เพื่อสอบปากคำและตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
นายไพโรจน์ กล่าวต่อไปว่า แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศไทย ต้องมีนายจ้าง แรงงานเหล่านี้ไม่สามารประกอบอาชีพอิสระ หรือเป็นแรงงานนอกระบบได้ เพราะจะเป็นการแย่งอาชีพคนไทย ที่ผ่านมากรมการจัดหางานมีการจับตาดูซอยกีบหมูมาโดยตลอด และหลังจากนี้จะลงพื้นที่เพื่อกวาดล้างแรงงานต่างด้าวที่ทำงานผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง
“ฝากถึงนายจ้างรับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน จะมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาทต่อคนต่างด้าวหนึ่งคน หากทำผิดซ้ำมีโทษถึงจำคุก และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานอีก 3 ปี ส่วนคนต่างด้าวลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000–50,000 บาท และถูกส่งตัวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร และไม่สามารถขอรับใบอนุญาตทำงานได้จนกว่าจะพ้นโทษมาแล้วเป็นระยะเวลา 2 ปี” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว.-สำนักข่าวไทย