สสส.-กทม.สานพลังขยายห้องเรียนสู้ฝุ่นรับมือ PM2.5

กรุงเทพฯ 28 ต.ค. – สสส.ร่วมกับ กทม.สานพลังภาคีเครือข่าย ขยายห้องเรียนสู้ฝุ่น ปั้น 34 โรงเรียนต้นแบบ เตรียมพร้อมรับมือฝุ่น PM2.5 ในเมืองกรุง


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ร่วมเปิดโครงการห้องเรียนสู้ฝุ่นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กทม.และภาคีเครือข่าย ได้แก่ กรมอนามัย กรมควบคุมมลพิษ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย (ADPC) สำนักการศึกษา และห้างหุ้นส่วนจำกัด เติมเต็มวิสาหกิจเพื่อสังคม และหน่วยงานที่้เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมเปิดตัวและอบรมเชิงปฏิบัติการ “โครงการห้องเรียนสู้ฝุ่นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร” เพื่อรับมือสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) โดยมีโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร 33 โรงเรียน และโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน 1 โรงเรียน เข้าร่วม รวม 34 โรงเรียน

พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก คณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 2 สสส. ได้มอบเครื่องวัดฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM2.5 แก่สถานศึกษาต้นแบบ นำไปติดตั้งใช้วัดค่าฝุ่นในแต่ละพื้นที่แบบ Real Time เพื่อให้นักเรียนสามารถดูแลสุขภาพตนเองได้อย่างถูกต้อง สำหรับกิจกรรมในวันนี้จะเป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการ “ห้องเรียนสู้ฝุ่น” ในพื้นที่ กทม.ซึ่งจะเป็นกระบวนการเรียนรู้ผ่านฐานกิจกรรมต่าง ๆ ให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาใช้เป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สู้ภัยฝุ่นในโรงเรียน สร้างพลเมืองตื่นรู้ (Active Citizen) เพื่อให้นักเรียนเกิดความเข้าใจในสถานการณ์วิกฤติและสามารถป้องกันตัวเองอย่างปลอดภัย


ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า เรื่องฝุ่นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ และมีผลระยะยาว เริ่มจากห้องเรียนเป็นสิ่งที่ดี ผมว่ามี 2 มิติ โดยมิติแรกคือ เด็กเป็นคนที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นมากที่สุด ถ้าเขาเอาฝุ่นเข้าไปในปอดมันจะอยู่กับเขาไปนานจนโต อย่างพวกเราแก่แล้วเหลือเวลาไม่เยอะแล้ว อาจจะไม่ได้มีผลมาก ฉะนั้น ต้องให้ข้อมูลพื้นฐานกับเขา เพราะต่อไปเขาต้องอยู่ในเมืองนี้ มิติที่ 2 คือ เด็กเป็นคนสำคัญที่จะเผยแพร่ความรู้ต่อให้ครอบครัว ต้องขอบคุณทางอาจารย์ด้วย ผมว่าตรงนี้คือสิ่งสำคัญเป็นการเรียนรู้ในชีวิตจริงมาสอนให้กับเด็ก ซึ่งคงไม่ได้หยุดแต่เพียงเท่านี้ การให้เด็กมีความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ซึ่งจะได้ขยายผลให้ครบทุกโรงเรียน เพื่อให้เกิดผลอย่างแท้จริง”

ด้าน ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า จากความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนทุกช่วงวัยทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และหลายจังหวัด โดยมีแหล่งกำเนิดและช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดการเจ็บป่วยและเพิ่มโอกาสเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDS โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็ก เยาวชน หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วย สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พบสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 เกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงเดือน พ.ย.-มี.ค.ของทุกปี ซึ่ง สสส. ได้สานพลังทุกภาคส่วน ร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง

โดยโครงการ “ห้องเรียนสู้ฝุ่น” เป็นการสร้างองค์ความรู้ด้านสุขภาพในพื้นที่เสี่ยงผ่านการเรียนการสอนจากครูสู่เด็กและเยาวชน แล้วส่งต่อไปยังครอบครัว ชุมชน และสังคม มุ่งเป้าสำคัญ 3 ประการ 1.สร้างสถานศึกษาต้นแบบรับมือฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพ 2.พัฒนาระบบข้อมูลองค์ความรู้ และสื่อ ให้เป็นเครื่องมือในการขยายผลและสร้างกลไกที่เกี่ยวข้องระดับชุมชน สำนักงานเขต และสังคม 3.สานพลังหน่วยงานและภาคีเครือข่ายในพื้นที่กรุงเทพ รับมือกับภัยจากฝุ่น PM2.5 ร่วมกัน ทั้งนี้ สสส. มีแผนจัดกิจกรรมธงสุขภาพ ครอบคลุม 437 โรงเรียนในสังกัด กทม.


ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในการรณรงค์เรื่องฝุ่น PM2.5 โดยเป็นการเน้นในโรงเรียน คือ การสร้างห้องเรียนสู้ฝุ่นในการให้ความรู้พื้นฐานกับนักเรียน มีการให้เครื่องวัดฝุ่นละอองเพื่อให้รู้ว่าสภาพฝุ่นของแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร ซึ่งมีโรงเรียนนำร่องอยู่ 34 แห่ง เป็นโรงเรียนในสังกัด กทม. 33 แห่ง และสังกัดเอกชน 1 แห่ง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เนื่องจากเยาวชนที่เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นมากที่สุด เพราะว่าพอฝุ่นเข้าไปในปอดแล้วออกไม่ได้ ก็จะเป็นตัวที่สะสมอยู่ในระยะยาว และทำให้เกิดความเจ็บป่วยต่าง ๆ ซึ่งเด็กจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ถ้าเขามีความรู้จะทำให้เขาสามารถเอาความรู้นี้ไปขยายต่อด้วย ให้กับครอบครัวหรือแม้กระทั่งการดูแลป้องกันตัวเอง

“นับว่าเป็นโครงการที่ดีมาก ๆ ที่ทาง สสส. เน้นการป้องกันแทนที่จะรอให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ แล้วค่อยมาแก้ ก็แก้ที่ต้นเหตุเลย เด็กก็เป็นตัวคูณคือเอาความรู้ไปขยายให้กับครอบครัวได้ และมีโครงการที่ กทม.ต้องทำต่อ นอกจากเรื่องความรู้แล้วต้องรณรงค์เรื่องกำจัดต้นตอของฝุ่น การให้อุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากากในเวลาที่มันมีเหตุสุดวิสัยจริง ๆ หรือต้องหาพื้นที่ปลอดฝุ่นให้กับกลุ่มเปราะบางซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการต่อไป” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

ในส่วนของอุปกรณ์ป้องกันภัย ได้เตรียมหน้ากากที่แจกให้กับกลุ่มเปราะบาง ซึ่งหน้ากากธรรมดาจะป้องกันฝุ่นได้ในระดับหนึ่ง ถ้าฝุ่นไม่ได้เยอะมากหน้ากากธรรมดาก็จะช่วยกรองอยู่ในขั้นที่ปลอดภัยได้ ถ้าหน้ากาก N95 จะค่อนข้างมีราคาแพง ซึ่งจะใช้ในกรณีที่ฝุ่นเยอะมาก ๆ ต้องการป้องกันสูง ในแง่ของค่าใช้จ่ายถ้าใช้หน้ากากธรรมดา 2 ชั้น จะสามารถป้องกันได้ค่อนข้างดี ซึ่งมีงานวิจัยรับรองอยู่ ซึ่งขึ้นกับปริมาณฝุ่นด้วย

ส่วนเรื่องการกำจัดต้นตอฝุ่น กทม.ได้เดินหน้าทุกวัน มีการตรวจรถควันดำ ตรวจโรงงาน ตรวจไซส์ก่อสร้าง ในขณะเดียวกันเรื่องการเผาชีวมวล ซึ่งน่าจะมีเพิ่มขึ้นในเดือนหน้าในพื้นที่เกษตรกรรม แถวหนองจอก มีนบุรี รวมทั้งเฝ้าระวังจุด HotSpot ในต่างจังหวัด ซึ่งอาจมีผลให้กรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบ ซึ่งตอนนี้ กทม.ได้เปิดศูนย์ข้อมูลฝุ่นแล้ว อยู่ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง มีการมอนิเตอร์ตลอด และมีแผนงานซึ่งต้องทำเป็นแผนระยะยาว เพื่อสุขภาพของคนกรุงเทพฯ ซึ่งจะต้องหารือกับจังหวัดปริมณฑลด้วย เพราะอากาศมันเชื่อมโยงกันอยู่แล้ว

พล.อ.นิพัทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ สสส. มีความห่วงใย สิ่งที่ สสส. ต้องการในวันนี้คือทำตามที่ผู้ว่าฯ กทม. ห่วงใยเรื่องของเด็กในโรงเรียน กทม. 437 แห่งไว้ และพ่วงด้วยการให้ความรู้กับเด็ก ๆ เพื่อไปบอกพ่อแม่เป็นประกายความคิดในการที่จะจัดการกับฝุ่นใน กทม. นี่คือประเด็นที่ สสส.ให้ความร่วมมือกับกทม.ในวันนี้ ซึ่งคิดว่าจะมีการขยายผลออกไปในพื้นที่ต่างๆ เหล่านี้ด้วย. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]

โควิด-19 ระบาดปักธงชัย ตายแล้ว 2

นครราชสีมา 2 มิ.ย.- เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดที่ อ.ปักธงชัย จ.นคราชสีมา รุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย รัฐบาลเตือนระวังสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 แพร่กระจายไว ที่ อ.ปักธงชัย พบผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบนี้แล้ว 2 ราย ผู้ป่วยรายแรกเป็นชายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ส่วนรายที่ 2 เสียชีวิตช่วงค่ำวานนี้ เป็นชายอายุ 72 ปี ที่โรงพยาบาลปักธงชัย ไปประกอบพิธีทางศาสนา โควิด-19 แม้จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ต้องรู้จักวิธีการป้องกันตัวเองและดูแลบุคคลในครอบครัวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกประกาศเตือนหลังพบพฤติกรรมของเชื้อ SARS-CoV-2 สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 3 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ แปซิฟิกตะวันตก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก จากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 ที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และเชื้อโควิด-19 […]