“สมศักดิ์” กำชับเร่งแก้ปัญหาคนพ้นโทษออกมาก่อเหตุซ้ำ

ก.ยุติธรรม 26 ต.ค. – “สมศักดิ์” รีบแก้ปัญหาคนพ้นโทษออกมาก่อเหตุซ้ำ เร่ง “ยุติธรรม” จัด Watchlist บุคคลอันตรายให้ครบ หลังกฎหมายป้องกันทำผิดซ้ำ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว มีผลใช้อีก 90 วัน สั่งตั้งอนุกรรมการศึกษาแบ่งเกณฑ์การจัดกลุ่ม-ใส่กำไลอีเอ็ม หวังให้สังคม-กลุ่มผู้หญิง รู้สึกปลอดภัย


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกระทรวง โดยมี น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมต่างๆ และผู้บริหารกระทรวง เข้าร่วมประชุม โดยนายสมศักดิ์ กล่าวถึงความคืบหน้า พ.ร.บ.มาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง หรือกฎหมาย JSOC ว่า ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยจะมีผลบังคับใช้อีก 90 วัน คือ วันที่ 23 ม.ค.66 ดังนั้น ตนอยากให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะการสร้างการรับรู้และการจัด Watchlist กลุ่มบุคคลอันตรายให้ชัดเจน เพราะเริ่มมีผู้พ้นโทษออกมาก่อเหตุ แต่กลับไม่อยู่ในการจัด Watchlist

ขณะที่นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงว่า ที่ผ่านมากฎหมาย JSOC ยังไม่จบ ทางกรรมาธิการฯ ก็มีการเพิ่มเติมมา จึงยังไม่มีการจัด Watchlist ทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้ผู้พ้นโทษบางรายที่ออกไปก่อเหตุนั้น ไม่ได้ถูกจัดอยู่ใน Watchlist รวมถึงบางรายอาจยังไม่ชัดเจนว่าจะเข้าความผิดข้อใด ในการจัดกลุ่ม Watchlist ผู้ต้องขังที่ต้องเข้าข่ายทั้งข้อ 1 ประกอบด้วย ความผิดเกี่ยวกับการก่อให้เกิดภยันตรายต่อประชาชน, ความผิดเกี่ยวกับเพศ, ความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย, ความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพและชื่อเสียง, ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ และข้อ 2 ประกอบด้วย ฆ่าเด็ก หรือข่มขืนเด็ก, ฆ่าข่มขืน, ฆาตกรต่อเนื่อง, กระทำผิดซ้ำซาก, ฆาตรกรโรคจิต, สังหารหมู่, ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยทำให้บางรายเข้าหลักเกณฑ์เพียงข้อ 1 แต่ไม่เข้าเงื่อนไขข้อ 2 จึงไม่ถูกจัด Watchlist


นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อมีกฎหมาย JSOC ออกมาแล้ว เราต้องเร่งจัด Watchlist ตามฐานความผิด 12 มาตรา ซึ่งตนจะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อให้ศึกษาการจัดกลุ่ม Watchlist ในการกำหนดว่า แต่ละมาตรการความผิดจะต้องมีการจัดอยู่ใน Watchlist ใด และต้องติดกำไลอีเอ็ม หลังพ้นโทษเป็นเวลาเท่าไร โดยขอให้อนุกรรมการชุดนี้เร่งสรุปความคืบหน้าทุกสัปดาห์ พร้อมขอให้มีการหยิบยกคดีสำคัญขึ้นมาเป็นเคสตัวอย่างด้วย ว่าถ้าเป็นกรณีแบบนี้ต้องติดกำไลอีเอ็มกี่ปี

“ก่อนหน้านี้ การจัด Watchlist ทำโดยยังไม่มีกฎหมาย แต่ขณะนี้มีกฎหมายป้องกันการกระทำผิดซ้ำแล้ว เพียงก่อเหตุรุนแรง ก็จะเข้ามาตราต่าง ๆ ของกฎหมายนี้แล้ว ที่ต้องถูกเฝ้าระวัง ซึ่งการใส่กำไลอีเอ็ม จะไม่เท่ากัน ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการพิจารณา และอนุกรรมการที่ผมตั้งขึ้นมาศึกษาแนวทางไว้ ซึ่งได้สั่งการให้เร่งด่วนที่สุด เพราะผมซีเรียสกับเรื่องนี้มาก รู้สึกเสียใจทุกครั้งที่ยังเจอข่าวผู้พ้นโทษออกมาก่อเหตุซ้ำ หรือข่าวสะเทือนขวัญกับกลุ่มผู้หญิง ดังนั้น ผมจะเร่งจัดทำบุคคลอันตรายให้เร็วที่สุด เพื่อทำให้สังคม โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง รู้สึกอุ่นใจ และปลอดภัยจากบุคคลอันตราย ที่เราช่วยเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดแล้ว” รมว.ยุติธรรม กล่าว. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม

กกต.ขอบคุณ ปชช.ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

เลขาธิการ กกต. แถลงสถานการณ์หลังปิดหีบบัตรเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ ขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ พร้อมชี้แจงกรณีบัตรเลือกตั้งหายที่จังหวัดบึงกาฬ