ผู้ว่าฯ กทม. สัญจรเขตสัมพันธวงศ์ ชูอัตลักษณ์เสน่ห์ย่านการค้า

กทม. 22 ต.ค.- “ชัชชาติ” ลงพื้นที่ “ผู้ว่าฯ สัญจร เขตสัมพันธวงศ์” ชูอัตลักษณ์เสน่ห์ย่านการค้า เตรียมเชื่อมโยงแหล่งเศรษฐกิจเส้นเลือดฝอยให้เข้มข้นขึ้น


“ในอนาคต หน้าที่ กทม.คือสร้างความไว้ใจให้กับประชาชน ว่าเราทำงานด้วยความโปร่งใส เราใส่ใจประชาชน เราเอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหา ซึ่งมีค่ามากกว่างบประมาณอีก และสุดท้ายได้ความร่วมมือ และร่วมกันพัฒนาเมืองให้ดีขึ้นได้” นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวในการลงพื้นที่ “ผู้ว่าฯ สัญจร เขตสัมพันธวงศ์” วันนี้ (22 ต.ค.65) เพื่อรับฟังภาพรวมการบริหารจัดการ ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานของเขตสัมพันธวงศ์

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า เขตสัมพันธวงศ์เป็นเขตที่ขนาดเล็กที่สุดใน กทม. มีพื้นที่ 1.416 ตารางกิโลเมตร ประชากรประมาณกว่า 20,000 คน แต่เป็นเขตที่สำคัญเพราะเป็นแหล่งเศรษฐกิจ มีย่านสำคัญคือ เยาวราช ตลาดน้อย รวมทั้งมีแหล่งวัฒนธรรมที่แหล่งท่องเที่ยว มีศาสนสถานทั้งวัดไทย วัดจีน วัดญวน มัสยิด และโบสถ์คริสต์ ลักษณะเป็นพหุวัฒนธรรม ปัญหาหลัก ๆ ของเขตสัมพันธวงศ์ คือ การค้าขาย โดยเฉพาะผู้ค้าหาบเร่แผงลอย ซึ่งปัจจุบันมีจุดที่เป็นพื้นที่ทำการค้าอยู่ 3 จุด ได้แก่ ถนนเยาวราช ถนนราชวงศ์ และถนนข้าวหลาม มีผู้ค้า 447 ราย และมีผู้ค้านอกจุดทำการค้า 56 จุด มีจำนวนผู้ค้า 1,570 ราย เป็นคนที่ค้าขายมานาน


หลักการคือ นโยบายเราไม่ได้ผ่อนผันให้มากขึ้น แต่คงต้องจัดระเบียบให้ดี และจุดไหนที่จะนำเข้าระบบคงต้องคุยกับตำรวจอีกที อย่างที่บอกว่าหาบเร่แผงลอยไม่ใช่เรื่องสวัสดิการสังคม ต้องดูเรื่องความสะดวกของประชาชนเป็นหลัก ได้เน้นให้เทศกิจเข้มงวดในการจัดจำนวนผู้ค้า ว่ามีใครลงทะเบียนในจุดผ่อนผัน ห้ามให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นต้องดูแลให้ดี อย่าให้ลงมาพื้นที่ทางเท้า ส่วนจุดที่ยังไม่ได้มีการอนุญาต ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาต้องดูให้ละเอียดเนื่องจากกระทบหลายส่วนหลายครอบครัว

เรื่องต่อมา คือ เรื่องพื้นที่สีเขียวในเขต เขตสัมพันธวงศ์มีพื้นที่สีเขียวน้อย อาจจะมีสวนสาธารณะอยู่บ้าง จึงให้เน้นไปทำพื้นที่สีเขียวบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม พื้นที่แนวดิ่งตามอาคาร (สวนแนวตั้ง) อย่างน้อยช่วยดูดซับเรื่องฝุ่นพวกก๊าซมลพิษต่างๆ ส่วนเรื่องปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จะมีจุดอ่อน อยู่ 2 ส่วน 1. จากน้ำฝน ได้แก่ ริมถนนเยาวราช ฝั่งทิศเหนือ อาจจะมีน้ำท่วมขัง ซึ่งต้องดูระบบระบายน้ำและการลอกท่อให้ครบถ้วน และ 2. น้ำหลากและน้ำทะเลหนุนประจำปี ได้แก่ บริเวณถนนทรงวาดริมแม่น้ำเจ้าพระยา และบริเวณชุมชนตลาดน้อย (ศาลเจ้าโรงเกลือ) ซึ่งไม่มีเขื่อนกั้น เมื่อน้ำทะเลหนุนสูงและมวลน้ำเหนือไหลเข้าเจ้าพระยา ทำให้ชุมชนริมแม่น้ำได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตามทางเขตได้รายงานว่ามีการกั้นแนวกระสอบทราย และติดตั้งเครื่องสูบน้ำรับมือไว้แล้ว ส่วนการทำเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตอนนี้ได้รับประมาณและเตรียมดำเนินการจัดสร้างในเร็ววันนี้ โดยสำนักการระบายน้ำ กทม. จะเป็นผู้ควบคุมดูแล

ปัญหาอื่น ๆ ในเขต คือ เรื่องนักท่องเที่ยว เพราะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมาเยอะ ได้ให้ทางเทศกิจกับทางตำรวจร่วมมือกัน ตั้งจุดเพื่อดูแลนักท่องเที่ยวประสานให้ข้อมูลเพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวถูกหลอก เรื่องรถโดยสารสาธารณะ เรื่องการซื้อของต่าง ๆ ให้เพิ่มความเข้มงวดตรงนี้ เนื่องจากในอนาคตนักท่องเที่ยวจะกลับมาเยือนเมืองไทยมากขึ้น และนักท่องเที่ยวจำนวนมากก็จะผ่านเขตสัมพันธวงศ์ไปสู่แหล่งต่าง ๆ ในเมือง มาเยาวราช มาเยี่ยมพื้นที่ต่าง ๆ มีโรงเรียนในสังกัด กทม. 3 โรงเรียน มีนักเรียนเพียง 300 กว่าคน ซึ่งไม่เยอะ เพราะจำนวนผู้อาศัยหนุ่มสาวลดลง แต่ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น มีศูนย์บริการสาธารณสุข 1 แห่ง คือ ศูนย์บริการสาธารณสุข 13 ไมตรีวานิช มีขนาดเล็กไม่ใหญ่ ผู้ใช้บริการประมาณ 30-40 คนต่อวัน


นอกจากนี้ เขตได้เสนอ 2 เรื่อง คือ อยากให้ทำที่จอดรถเพิ่มขึ้น เพราะว่า พื้นที่เขตปัจจุบันไม่มีที่จอดรถ และในเขตสัมพันธวงศ์เองพื้นที่จอดรถน้อย อาจจะต้องจอดตามวัด คงต้องวิเคราะห์เรื่องความคุ้มค่าอีกครั้งหนึ่ง และทางเขตสนใจที่จะทำทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นทางเดินขนาดเล็ก กว้างประมาณ 2 เมตร ความยาวประมาณ 1,888 เมตร เพื่อให้เกิดการสัญจรเชื่อมโยงในเขต ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่ในนโยบายเรื่องการเชื่อมโยงเส้นเลือดฝอย โดยแนวคิดคือ การทำแนวทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้ครอบคลุมมากขึ้น แต่เป็นทางเดินขนาดเล็กที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตชาวบ้าน ที่ผ่านมาปัญหาที่ชาวบ้านไม่อยากให้ทำคือกลัวเรื่องความปลอดภัย กลัวเรื่องขโมยเข้าบ้าน จริง ๆ แล้ว บางจุดริมน้ำอาจจะมีเลี้ยวเข้าไปในชุมชน เป็นทางเดินที่เชื่อมโยงกัน จะช่วยให้เส้นเลือดฝอยเข้าในพื้นที่ได้สะดวกขึ้น และประชาชนใช้สัญจรได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นโครงการที่จะต้องพิจารณาต่อไปในอนาคต

ในส่วนของการดำเนินการแก้ไขปัญหาร้องเรียนผ่านระบบ Traffy Fondue มีเรื่องแจ้งทั้งหมด 792 เรื่อง ดำเนินการเสร็จสิ้น 634 เรื่อง ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี ซึ่ง Traffy Fondue เป็นตัวหนึ่งที่ช่วยเปลี่ยนการทำงานของ กทม. ได้ค่อนข้างเยอะ ตอนนี้มีคนแจ้งเรื่องเข้ามากว่า 170,000 เรื่อง ซึ่งได้ดำเนินการแก้ไขไปแล้วประมาณกว่า 100,000 เรื่อง ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ประชาชนไว้ใจ อยากจะแจ้งปัญหามาให้เราแก้ และเราก็ดำเนินการแก้ไขได้อย่างเร็ว

ปลายปีนี้จะมีการแจกรางวัลเหมือนการประกวดเขตที่สามารถตอบสนองต่อ Traffy Fondue ได้ดี เพราะหมายถึงการดูแลประชาชน โดยจะแบ่งเป็นกลุ่ม เขตเล็ก เขตกลาง เขตใหญ่ เพื่อให้เป็นขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานเจ้าหน้าที่ในเขตที่นำ Traffy Fondue มาแก้ปัญหา แต่บางอย่างอาจจะแก้ไม่ได้ทันที เช่น เรื่องการจราจร เป็นเรื่องหลายหน่วยงาน ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการดำเนินการ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับ กทม. สามารถทำได้ทันที แต่ถ้าเกี่ยวกับหน่วยงานอื่นต้องใช้เวลา แต่ขอให้แจ้งมาเพราะทุกเรื่องมีความสำคัญเท่ากันหมด

“ที่ผ่านมาเราเปลี่ยนรูปแบบการทำงานคือให้อำนาจประชาชน สร้างความไว้ใจให้ประชาชนไว้ใจเรา ถ้าประชาชนไม่ไว้ใจเรา เขาไม่แจ้งมา 170,000 เรื่อง เพราะเขาแจ้งมาแล้วได้รับความสนใจ ได้รับการแก้ไข อันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดี ไม่ได้หมายความว่าเราทำงานไม่ดีหรือปัญหาเยอะ แต่แสดงว่าประชาชนเริ่มไว้ใจการทำงานของเรา ซึ่งต้องขอบคุณทางเขต และทาง ส.ก.ที่ช่วยเป็นตัวกระตุ้น” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

ก่อนช่วงบ่าย ผู้ว่าฯ ชัชชาติ พร้อมคณะ เดินเท้าตรวจเยี่ยมชุมชนพิพากษา ถนนแปลงนาม ซึ่งชุมชนเก่าแก่บางส่วนเป็นพื้นที่เอกชน โดยภายในชุมชนมีปัญหาสายสื่อสารที่รกรุงรัง รวมทั้งปัญหาน้ำท่วมขังเวลาฝนตก เนื่องจากบางจุดมีสภาพพื้นที่ต่ำและท่อระบายน้ำมีขนาดเล็ก พร้อมพูดคุยเพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะต่าง ๆ จากประชาชน จากนั้น ได้ตรวจเยี่ยมผู้ค้าบริเวณตลาดเล่งบ๊วยเอี๊ยะ ซอยเยาวราช 6 (ตรอกอิสรานุภาพ) พร้อมสักการะศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ยะด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย

เหตุดินโคลนถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ดับ 4 สูญหาย 5

เชียงใหม่ 28 ส.ค. – พายุคาจิกิที่พัดถล่ม อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ทำน้ำป่าพัดดินโคลนถล่มหมู่บ้านปางอุ๋ง บ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง รถยนต์หลายสิบคันจมโคลน ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย ยังสูญหายอีก 5 ราย เจ้าหน้าที่เร่งค้นหา หมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักจากพายุคาจิกิ ทำให้เกิดดินถล่ม มีผู้เสียชีวิตและสูญหาย ดินโคลนทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง รถยนต์หลายสิบคันจมอยู่ในโคลน ล่าสุดเวลา 19.00 น. (27 ส.ค.) ซึ่งเจ้าหน้าที่ยุติการค้นหาผู้สูญหายจากดินถล่มแล้ว พบเสียชีวิต 4 ราย ยังสูญหายอีก 5 ราย นายนิกร แซ่เห่อ ผู้ใหญ่บ้านปางอุ๋ง เล่าว่า ดินโคลนไหลผ่านกลางหมู่บ้าน ชาวบ้านบางส่วนยังออกมาดูระดับน้ำที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แค่ชั่วพริบตาบ้านอย่างน้อย 7 หลังถูกซัดหายไป เหลือไว้แค่พื้นและเสาบ้าน เมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) ตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานระดมกำลังพร้อมเครื่องจักรเข้าช่วยเหลือชาวบ้านรื้อซากปรักหักพัง ทีมกู้ภัยกระจายกันค้นหาผู้สูญหาย พร้อมตั้งศูนย์อำนวยการสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือชาวบ้าน […]