ผู้ว่าฯ กทม. สัญจรเขตสัมพันธวงศ์ ชูอัตลักษณ์เสน่ห์ย่านการค้า

กทม. 22 ต.ค.- “ชัชชาติ” ลงพื้นที่ “ผู้ว่าฯ สัญจร เขตสัมพันธวงศ์” ชูอัตลักษณ์เสน่ห์ย่านการค้า เตรียมเชื่อมโยงแหล่งเศรษฐกิจเส้นเลือดฝอยให้เข้มข้นขึ้น


“ในอนาคต หน้าที่ กทม.คือสร้างความไว้ใจให้กับประชาชน ว่าเราทำงานด้วยความโปร่งใส เราใส่ใจประชาชน เราเอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหา ซึ่งมีค่ามากกว่างบประมาณอีก และสุดท้ายได้ความร่วมมือ และร่วมกันพัฒนาเมืองให้ดีขึ้นได้” นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวในการลงพื้นที่ “ผู้ว่าฯ สัญจร เขตสัมพันธวงศ์” วันนี้ (22 ต.ค.65) เพื่อรับฟังภาพรวมการบริหารจัดการ ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานของเขตสัมพันธวงศ์

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า เขตสัมพันธวงศ์เป็นเขตที่ขนาดเล็กที่สุดใน กทม. มีพื้นที่ 1.416 ตารางกิโลเมตร ประชากรประมาณกว่า 20,000 คน แต่เป็นเขตที่สำคัญเพราะเป็นแหล่งเศรษฐกิจ มีย่านสำคัญคือ เยาวราช ตลาดน้อย รวมทั้งมีแหล่งวัฒนธรรมที่แหล่งท่องเที่ยว มีศาสนสถานทั้งวัดไทย วัดจีน วัดญวน มัสยิด และโบสถ์คริสต์ ลักษณะเป็นพหุวัฒนธรรม ปัญหาหลัก ๆ ของเขตสัมพันธวงศ์ คือ การค้าขาย โดยเฉพาะผู้ค้าหาบเร่แผงลอย ซึ่งปัจจุบันมีจุดที่เป็นพื้นที่ทำการค้าอยู่ 3 จุด ได้แก่ ถนนเยาวราช ถนนราชวงศ์ และถนนข้าวหลาม มีผู้ค้า 447 ราย และมีผู้ค้านอกจุดทำการค้า 56 จุด มีจำนวนผู้ค้า 1,570 ราย เป็นคนที่ค้าขายมานาน


หลักการคือ นโยบายเราไม่ได้ผ่อนผันให้มากขึ้น แต่คงต้องจัดระเบียบให้ดี และจุดไหนที่จะนำเข้าระบบคงต้องคุยกับตำรวจอีกที อย่างที่บอกว่าหาบเร่แผงลอยไม่ใช่เรื่องสวัสดิการสังคม ต้องดูเรื่องความสะดวกของประชาชนเป็นหลัก ได้เน้นให้เทศกิจเข้มงวดในการจัดจำนวนผู้ค้า ว่ามีใครลงทะเบียนในจุดผ่อนผัน ห้ามให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นต้องดูแลให้ดี อย่าให้ลงมาพื้นที่ทางเท้า ส่วนจุดที่ยังไม่ได้มีการอนุญาต ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาต้องดูให้ละเอียดเนื่องจากกระทบหลายส่วนหลายครอบครัว

เรื่องต่อมา คือ เรื่องพื้นที่สีเขียวในเขต เขตสัมพันธวงศ์มีพื้นที่สีเขียวน้อย อาจจะมีสวนสาธารณะอยู่บ้าง จึงให้เน้นไปทำพื้นที่สีเขียวบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม พื้นที่แนวดิ่งตามอาคาร (สวนแนวตั้ง) อย่างน้อยช่วยดูดซับเรื่องฝุ่นพวกก๊าซมลพิษต่างๆ ส่วนเรื่องปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จะมีจุดอ่อน อยู่ 2 ส่วน 1. จากน้ำฝน ได้แก่ ริมถนนเยาวราช ฝั่งทิศเหนือ อาจจะมีน้ำท่วมขัง ซึ่งต้องดูระบบระบายน้ำและการลอกท่อให้ครบถ้วน และ 2. น้ำหลากและน้ำทะเลหนุนประจำปี ได้แก่ บริเวณถนนทรงวาดริมแม่น้ำเจ้าพระยา และบริเวณชุมชนตลาดน้อย (ศาลเจ้าโรงเกลือ) ซึ่งไม่มีเขื่อนกั้น เมื่อน้ำทะเลหนุนสูงและมวลน้ำเหนือไหลเข้าเจ้าพระยา ทำให้ชุมชนริมแม่น้ำได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตามทางเขตได้รายงานว่ามีการกั้นแนวกระสอบทราย และติดตั้งเครื่องสูบน้ำรับมือไว้แล้ว ส่วนการทำเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตอนนี้ได้รับประมาณและเตรียมดำเนินการจัดสร้างในเร็ววันนี้ โดยสำนักการระบายน้ำ กทม. จะเป็นผู้ควบคุมดูแล

ปัญหาอื่น ๆ ในเขต คือ เรื่องนักท่องเที่ยว เพราะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมาเยอะ ได้ให้ทางเทศกิจกับทางตำรวจร่วมมือกัน ตั้งจุดเพื่อดูแลนักท่องเที่ยวประสานให้ข้อมูลเพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวถูกหลอก เรื่องรถโดยสารสาธารณะ เรื่องการซื้อของต่าง ๆ ให้เพิ่มความเข้มงวดตรงนี้ เนื่องจากในอนาคตนักท่องเที่ยวจะกลับมาเยือนเมืองไทยมากขึ้น และนักท่องเที่ยวจำนวนมากก็จะผ่านเขตสัมพันธวงศ์ไปสู่แหล่งต่าง ๆ ในเมือง มาเยาวราช มาเยี่ยมพื้นที่ต่าง ๆ มีโรงเรียนในสังกัด กทม. 3 โรงเรียน มีนักเรียนเพียง 300 กว่าคน ซึ่งไม่เยอะ เพราะจำนวนผู้อาศัยหนุ่มสาวลดลง แต่ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น มีศูนย์บริการสาธารณสุข 1 แห่ง คือ ศูนย์บริการสาธารณสุข 13 ไมตรีวานิช มีขนาดเล็กไม่ใหญ่ ผู้ใช้บริการประมาณ 30-40 คนต่อวัน


นอกจากนี้ เขตได้เสนอ 2 เรื่อง คือ อยากให้ทำที่จอดรถเพิ่มขึ้น เพราะว่า พื้นที่เขตปัจจุบันไม่มีที่จอดรถ และในเขตสัมพันธวงศ์เองพื้นที่จอดรถน้อย อาจจะต้องจอดตามวัด คงต้องวิเคราะห์เรื่องความคุ้มค่าอีกครั้งหนึ่ง และทางเขตสนใจที่จะทำทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นทางเดินขนาดเล็ก กว้างประมาณ 2 เมตร ความยาวประมาณ 1,888 เมตร เพื่อให้เกิดการสัญจรเชื่อมโยงในเขต ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่ในนโยบายเรื่องการเชื่อมโยงเส้นเลือดฝอย โดยแนวคิดคือ การทำแนวทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้ครอบคลุมมากขึ้น แต่เป็นทางเดินขนาดเล็กที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตชาวบ้าน ที่ผ่านมาปัญหาที่ชาวบ้านไม่อยากให้ทำคือกลัวเรื่องความปลอดภัย กลัวเรื่องขโมยเข้าบ้าน จริง ๆ แล้ว บางจุดริมน้ำอาจจะมีเลี้ยวเข้าไปในชุมชน เป็นทางเดินที่เชื่อมโยงกัน จะช่วยให้เส้นเลือดฝอยเข้าในพื้นที่ได้สะดวกขึ้น และประชาชนใช้สัญจรได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นโครงการที่จะต้องพิจารณาต่อไปในอนาคต

ในส่วนของการดำเนินการแก้ไขปัญหาร้องเรียนผ่านระบบ Traffy Fondue มีเรื่องแจ้งทั้งหมด 792 เรื่อง ดำเนินการเสร็จสิ้น 634 เรื่อง ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี ซึ่ง Traffy Fondue เป็นตัวหนึ่งที่ช่วยเปลี่ยนการทำงานของ กทม. ได้ค่อนข้างเยอะ ตอนนี้มีคนแจ้งเรื่องเข้ามากว่า 170,000 เรื่อง ซึ่งได้ดำเนินการแก้ไขไปแล้วประมาณกว่า 100,000 เรื่อง ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ประชาชนไว้ใจ อยากจะแจ้งปัญหามาให้เราแก้ และเราก็ดำเนินการแก้ไขได้อย่างเร็ว

ปลายปีนี้จะมีการแจกรางวัลเหมือนการประกวดเขตที่สามารถตอบสนองต่อ Traffy Fondue ได้ดี เพราะหมายถึงการดูแลประชาชน โดยจะแบ่งเป็นกลุ่ม เขตเล็ก เขตกลาง เขตใหญ่ เพื่อให้เป็นขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานเจ้าหน้าที่ในเขตที่นำ Traffy Fondue มาแก้ปัญหา แต่บางอย่างอาจจะแก้ไม่ได้ทันที เช่น เรื่องการจราจร เป็นเรื่องหลายหน่วยงาน ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการดำเนินการ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับ กทม. สามารถทำได้ทันที แต่ถ้าเกี่ยวกับหน่วยงานอื่นต้องใช้เวลา แต่ขอให้แจ้งมาเพราะทุกเรื่องมีความสำคัญเท่ากันหมด

“ที่ผ่านมาเราเปลี่ยนรูปแบบการทำงานคือให้อำนาจประชาชน สร้างความไว้ใจให้ประชาชนไว้ใจเรา ถ้าประชาชนไม่ไว้ใจเรา เขาไม่แจ้งมา 170,000 เรื่อง เพราะเขาแจ้งมาแล้วได้รับความสนใจ ได้รับการแก้ไข อันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดี ไม่ได้หมายความว่าเราทำงานไม่ดีหรือปัญหาเยอะ แต่แสดงว่าประชาชนเริ่มไว้ใจการทำงานของเรา ซึ่งต้องขอบคุณทางเขต และทาง ส.ก.ที่ช่วยเป็นตัวกระตุ้น” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

ก่อนช่วงบ่าย ผู้ว่าฯ ชัชชาติ พร้อมคณะ เดินเท้าตรวจเยี่ยมชุมชนพิพากษา ถนนแปลงนาม ซึ่งชุมชนเก่าแก่บางส่วนเป็นพื้นที่เอกชน โดยภายในชุมชนมีปัญหาสายสื่อสารที่รกรุงรัง รวมทั้งปัญหาน้ำท่วมขังเวลาฝนตก เนื่องจากบางจุดมีสภาพพื้นที่ต่ำและท่อระบายน้ำมีขนาดเล็ก พร้อมพูดคุยเพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะต่าง ๆ จากประชาชน จากนั้น ได้ตรวจเยี่ยมผู้ค้าบริเวณตลาดเล่งบ๊วยเอี๊ยะ ซอยเยาวราช 6 (ตรอกอิสรานุภาพ) พร้อมสักการะศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ยะด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วมือเผารถ “ศิริโชค” ญาติเผยจิตไม่ปกติ

6 ก.ค. – จับได้แล้ว มือวางเพลิงรถยนต์ “ศิริโชค” ตำรวจเค้นสอบ ยอมรับก่อเหตุจริง ญาติเผยจิตไม่ปกติ พูดคนเดียวมาหลายเดือน ด้าน “ศิริโชค” ไม่เชื่อลงมือเองจากอาการทางจิต น่าจะมีคนสั่งการอยู่เบื้องหลัง กล้องวงจรปิดจับภาพนายเบียร์ อายุ 29 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในซอยบ้านพักของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.เขต 7 สงขลา 4 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ ช่วงตี 3 คืนวานนี้ (5 ก.ค.) ต.ฉาง อ.นาทวี จ.สงขลา และไปคุยกับคนเฝ้าบ้านนายศิริโชค ที่ประตูหน้าบ้าน ก่อนขี่รถออกไป จากนั้นช่วงเวลา 03.45 น. นายเบียร์ขี่รถย้อนกลับเข้าไปในซอยบ้านของนายศิริโชคอีกครั้ง ก่อนจะมีข่าวรถยนต์ GWM HAVAL H6 PHEV หรือปลั๊กอิน-ไฮบริด กึ่งไฟฟ้ากึ่งน้ำมัน เกิดเพลิงไหม้เสียหายหมดทั้งคัน ซึ่งขณะนั้น ยังไม่มั่นใจว่าเกิดจาะระบบรถยนต์ขัดข้อง หรือสาเหตุอย่างอื่น จนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นที่แน่ชัดว่า นายเบียร์เป็นคนก่อเหตุวางเพลิงรถยนต์ของนายศิริโชค […]

“โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว 6 ก.ค. – “โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา “สอบสวนกลาง-ดีเอสไอ-หน่วยงานปกครอง” ลงด้วยเพียบ สงสัยฝั่งตรงข้ามเป็นฐานสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์ หรือไม่ แย้มมีข้อมูลทุนใหญ่เป็นหลังบ้านผู้มีอำนาจกัมพูชา เจอแน่ปิดห้องคุยพรุ่งนี้ แนะสร้างเสาเซ็นเซอร์ตรวจจับชายแดน หมาแมวตรวจได้หมด หากลักลอบเข้า ด้าน “ชุติพงศ์” โวย เขมรไม่ทำรั้ว-รับผิดชอบ ปล่อยผ่านคนลักลอบเข้าออก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร​ ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว​ ร่วมกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ​ สภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อดูการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและการบริหารกิจการชายแดนไทย-กัมพูชา​ โดยมีหน่วยงานความมั่นคง​ นายอำเภอ​ กรมการปกครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ด้วย จุดแรกมาที่บริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้า​อรัญประเทศ​ โดย พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา รายงาน​ว่า​ จุดนี้​เป็นพื้นที่​ที่การข่าวแจ้งว่า​ใช้เป็นช่องทางลักลอบข้ามไปฝั่งกัมพูชา​ เป้าหมายไปทำงานหรือเล่นการพนัน​ ปัจจุบันได้ซีลพื้นที่ตรงนี้แล้ว แต่ก็มีการลักลอบเข้าออกตลอด แม้จะมีสถานการณ์ไทย-กัมพูชา […]

“บิ๊กเต่า” ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด คลี่ปมพัวพันสีกา ก.

6 ก.ค.- “บิ๊กเต่า” เผยคำให้การสีกา ก. เป็นประโยชน์ อาจโยงไปถึงการทุจริต แต่ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด เตรียมประชุมคณะทำงานสัปดาห์หน้า เรียกผู้เกี่ยวข้องสอบเพิ่มเติม ยืนยันหากพบใครเอี่ยวพร้อมดำเนินคดี 12.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงกรณีการเรียกตัวสีกาอักษรย่อ ก. มาสอบปากคำ ว่า หลังจากนำตัวสีกา ก. มาสอบ ก็ได้ข้อมูลในแนวทางที่ดีและมีประโยชน์ อาจนำไปสู่เรื่องที่อาจเอี่ยวกับการทุจริต แต่ก็จะต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียด เพราะทุกอย่างต้องชัดเจน เนื่องจากคำให้การอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีหลักฐานอื่นประกอบด้วย จากคำให้การของสีกา ก. ว่า มีการเล่นพนันออนไลน์ แล้วเงินที่ใช้เล่นเป็นเงินส่วนไหน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า “ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ แต่เขามีการเล่นพนันจริง” ตอนนี้มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว โดยมี ปปป. เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวพันหลายพื้นที่ ส่วนเรื่องบัญชีวัด ทางบก.ปปป. ก็มีอำนาจสามารถตรวจสอบได้เลย ประมาณวันจันทร์-อังคารที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่า สีกา ก. เคยทำให้พระสึกมาแล้วถึง 2 รูป จริงหรือไม่ […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย