สธ. 10 ต.ค. – รมว.สธ แจงดราม่าชันสูตรศพเหตุกราดยิงช้า เพราะระดมแพทย์นิติเวชนับ 10 คนมาร่วมชันสูตร รับเป็นเหตุสูญเสียมากที่สุด จึงต้องทำด้วยความเคารพผู้วายชนม์ บรรจุโลงเรียบร้อยไม่ให้แออัด เหลือผู้บาดเจ็บรักษาตัวในไอซียู 7 คน น่าห่วงเด็กชาย 4 ขวบ ผ่าตัดเปิดกะโหลก 2 รอบ สมองบวม อาการดีขึ้น 80%
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้าการช่วยเหลือเหตุกราดยิงที่หนองบัวลำภู ว่า การช่วยเหลือและชันสูตรศพผู้เสียชีวิตทั้งหมด 37 ศพ เน้นถูกต้องตามหลักวิชาการ และเป็นไปตามกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ รวดเร็ว และเคารพผู้วายชนม์ พร้อมแจงเหตุดราม่านำศพผู้เสียชีวิตเข้าสู่กระบวนการชันสูตรศพล่าช้า เนื่องจาก รพ.หนองบัวลำภู มีแพทย์นิติ 2 คน จึงจำเป็นต้องระดมแพทย์นิติเวชเข้ามาร่วม 10 นาย เพื่อมาร่วมชันสูตร เพราะมีผู้เสียชีวิตพร้อมกันถึง 37 คน จำเป็นต้องมีการบริหารจัดการ ยอมรับปรึกษาปลัดกระทรวงสาธารณสุข และสั่งให้ระดมแพทย์นิติเวชมา และนำร่างผู้เสียชีวิตใส่โลงให้เรียบร้อยก่อน ดีกว่านำร่างมาเบียดกันในรถ หรือให้ห้องเก็บศพ โดยแพทย์นิติเวชที่ระดมมาจากเพชณบูรณ์ ลำปาง เลย และจังหวัดใกล้เคียง และสั่งการให้ทีมสุขภาพจิตประกบครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บอย่างใกล้ชิด
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ยังคงเหลือรักษาตัวใน รพ.7 คน แบ่งเป็น 5 คน นอนรักษาตัวที่ รพ.หนองบัวลำภู ได้แก่ 1.เด็กชายวัย 3 ปี มีบาดแผลที่ศีรษะ ผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ อาการดีขึ้นอยู่ในห้องไอซียู 2.เด็กชายอายุ 4 ปี มีบาดแผลที่ศีรษะ กระทบกระเทือนมาก แพทย์ผ่าตัดเอาก้อนเลือดออก แต่ยังพบอาการสมองบวม จึงจำเป็นต้องผ่าตัดซ้ำรอบ 2 ขณะนี้อาการดีขึ้น 80% 3.หญิงอายุ 56 ปี มีบาดแผลที่สมองต้องผ่าเปิดกะโหลกเอาก้อนเลือดออก และกำลังฝึกหายใจเอง เพื่อถอดเครื่องช่วยหายใจ 4.หญิงอายุ 42 ปี บาดเจ็บที่ช่องท้อง ลำไส้เล็กทะลุ ต้องผ่าตัดเย็บบาดแผล 5.เด็กหญิงอายุ 12 ปี เป็นลูกของผู้บาดเจ็บรายที่ 4 อาการทางกายดี แต่มีอาการทางจิตใจ เมื่อมีการย้ายผู้บาดเจ็บมาอยู่กับแม่อาการก็ดีขึ้น ส่วนอีก 2 คน นอนรักษา รพ.อุดรธานี ได้แก่ 6.เด็กชายอายุ 3 ปี ผ่าตัดเปิดกะโหลกเอาก้อนเลือดออก อาการดีขึ้น พูดคุยตอบสมองรู้เรื่องดี และรายที่ 7 ชาย อายุ 42 ปี มีบาดแผลจากการโดนยิง มีบาดแผลที่ต้นคอผ่าตัดแล้ว แต่ยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ต้องมีการทำการติดตามอาการต่อไป ถือว่าภาพรวมทุกคนอาการดีขึ้น แต่บาดแผลส่วนใหญ่อยู่ที่ศีรษะ จึงต้องใช้เวลา.-สำนักข่าวไทย