ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามปัญหายาเสพติด-สั่งเข้มความปลอดภัยสถานศึกษา

กทม. 8 ต.ค. – ผู้ว่าฯ กทม. สัญจรเขตดินแดง ติดตามปัญหายาเสพติด สั่งการเข้มงวดดูแลความปลอดภัยในสถานศึกษา


(8 ต.ค.65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยในการลงพื้นที่ “ผู้ว่าฯ กทม. สัญจร เขตดินแดง” เพื่อรับฟังภาพรวมการบริหารจัดการ ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานของสำนักงานเขตว่า เขตดินแดงเป็นเขตที่มีผู้ใช้แรงงาน และชุมชนจำนวนมาก จากการสอบถามเรื่องปัญหายาเสพติด พบว่า ศูนย์บริการสาธารณสุข จำนวน 69 แห่ง ได้ให้คำปรึกษาและให้ยาอย่างต่อเนื่อง แต่มีศูนย์ฯ ที่ให้บริการรักษาโดยตรงผ่านคลินิกก้าวใหม่ จำนวน 18 แห่ง เน้นให้การรักษาผู้เสพเฮโรอีน และยาบ้า นอกจากนี้ยังมีบ้านพิชิตใจซึ่งให้การรักษาแบบพักค้าง ระยะเวลารักษา 1 เดือน และรพ.ตากสิน รวมแล้วมีสถานพยาบาลในสังกัด กทม. จำนวน 20 แห่ง มีผู้เข้ารับการบำบัดและรักษา จำนวนกว่า 1,000 คน ทั้งนี้พบว่าผู้ที่ติดเฮโรอีนจะรักษาด้วยการให้ยาอื่นทดแทน ซึ่งมีสัดส่วนผู้ติดเฮโรอีนมากถึง 80% และสำหรับยาบ้าไม่มียารักษาโดยเฉพาะ ต้องใช้วิธีการรักษาด้วยใจ มีสัดส่วนผู้ติด 20%

ในส่วนของปัญหายาเสพติดในพื้นที่ จากการรายงานของเจ้าหน้าที่พบว่าหลายบ้านมีการปลูกกระท่อมและกัญชา โดยประชาชนเชื่อว่าสามารถลดความดันและรักษาโรคเบาหวานได้ เมื่อกินแล้วจะไม่ต้องรักษาตามแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุขติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิดว่าได้ผลตามหลักวิทยาศาสตร์หรือไม่ หรือดีขึ้นในแง่จิตใจเท่านั้น รวมทั้งต้องเก็บข้อมูลว่าการใช้แพทย์ทางเลือกกับการลดยาแผนปัจจุบันจะมีผลบวกหรือลบอย่างไร ซึ่งในพื้นที่มีคนใช้แรงงานจำนวนมาก ถือเป็นกลุ่มตัวอย่างหนึ่งที่ศึกษาได้ นอกจากนี้ยังกำชับให้เฝ้าระวังในโรงเรียนด้วย เนื่องจากหลายบ้านทำการปลูกกัญชาและใบกระท่อม จะทำให้เยาวชนเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ ต้องให้ความรู้ที่ถูกต้อง และข้อดี-ข้อเสีย รวมถึงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบดูแลความปลอดภัยในการเข้าถึงพื้นที่โรงเรียน และสถานที่อื่นด้วย อาทิ พื้นที่ศูนย์บริการสาธารณสุข เนื่องจากจะมีผู้เสพยามารับยาทุกวัน


ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวถึงภาพรวมการบริหารจัดการน้ำท่วมว่า ที่ผ่านมาได้ใช้นโยบายเน้นเส้นเลือดฝอยในพื้นที่ ทำการลอกท่อต่อเนื่อง พบว่าปัญหาน้ำดีขึ้นมาก รวมทั้งได้ให้สำนักการระบายน้ำดูแลระบบการระบายน้ำในภาพรวมควบคู่ไปด้วย ในส่วนของเขตดินแดงต้องดูในพื้นที่ด้านหลังม.หอการค้า และถนนประชาสงเคราะห์ ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่ต้องเฝ้าระวัง

สำหรับแผนการจัดการน้ำ ในขณะนี้ที่กังวลคือฝั่งตะวันออก ซึ่งได้เสนอในที่ประชุมคณะกรรมการจัดการน้ำ เพื่อใช้อุโมงค์ระบายน้ำที่นอกพื้นที่ กทม. ในการหารือกรมชลประทานแจ้งว่าจะระบายผ่านประเวศ เพื่อออกแปดริ้ว โดยกรมชลประทานจะทำคันป้องกัน ซึ่งกทม.ก็เห็นด้วย และ กทม.ได้เสนอการทำประตูน้ำ/เขื่อนให้ครบ แบ่งเป็นแผนระยะ 1-2 ส่วนใหญ่อยู่ในแผนการดำเนินงาน ปี 67-68 ในระหว่างปี 66 ก็จะใช้วิธีการขุดลอกเช่นเดิม

“จริง ๆ แล้ว หากดูพื้นที่ลาดกระบัง แนวคิดของกรมชลประทานจะทำเขื่อนป้องกันในคลองต่าง ๆ เพื่อช่วยให้น้ำออก ซึ่งจะทำได้ดีไม่แพ้อุโมงค์ กทม.ก็เคารพในข้อเสนอของกรมชลประทาน แต่ขอให้มีการระบาย 50 ลบ.ม.ต่อวินาที โดยที่ไม่กำหนดระยะเวลา เพื่อให้เราสามารถนำน้ำออกได้ด้วย ซึ่งพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เร่งรัดทุกหน่วยงานและตั้งคณะกรรมการย่อย เพื่อติดตามความก้าวหน้าทุกโครงการและให้เร่งบรรจุทุกโครงการในแผน มีการวางแผนภาพรวมระยะ 20 ปี คาดว่าจะปรับปรุงภาพรวมการระบายน้ำได้ดีขึ้น” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว


โดยเขตดินแดงมีพื้นที่ 8.354 ตร.กม. ประชากรทั้งหมด 1.1 แสนคน ชุมชน 23 แห่ง หนาแน่นที่สุดที่แฟลตเคหะชุมชนดินแดง มีศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน 3 แห่ง ลานกีฬา 33 ลาน และศูนย์บริการสาธารณสุข 2 แห่ง

จุดเสี่ยงน้ำท่วม 2 จุด คือ ถนนประชาสุข และถนนประชาสงเคราะห์ (หอนาฬิกาแฟลต 28) และมีจุดเฝ้าระวัง 4 จุด ได้แก่ ซอยชานเมือง ปากซอยประชาสงเคราะห์ 27 ปากซอยสุทธิพร 2 และซอยอินทามระ 45 ซึ่งเขตฯ ดำเนินการตามแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยขุดลอกคูคลอง ล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำครบ 100% ตามแผน มีการขอรับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจากสำนักการระบายน้ำและสำนักงานเขตพญาไท เพื่อเร่งระบายน้ำในจุดเสี่ยงและจุดอ่อน แก้ไขจุดเชื่อมต่อท่อระบายน้ำถนนวิภาวดี ซอยวิภาวดี 2 และสร้างประตูกันน้ำย้อนบริเวณคลองยายสุ่น ซอยชานเมือง

สำหรับในช่วงบ่าย ผู้ว่าฯ ชัชชาติ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ชุมชนซอยแสนสุข ซอยประชาสงเคราะห์ 24 ถนนประชาสงเคราะห์ เพื่อเยี่ยมชมการดำเนินงานสมาคมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน กองทุนแม่ของแผ่นดิน ชุมชนแสนสุข ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กชุมชน และรับฟังปัญหาของชุมชน ณ อาคารศูนย์กลางเทวา ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้สอบถามแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ และมาตรการดูแลความปลอดภัยในสถานศึกษาและศูนย์เด็กเล็ก โดยชุมชนได้รายงานปัญหาในพื้นที่ซึ่งปัญหาที่ชุมชนขอให้ผู้บริหารพิจารณาดำเนินการคือ ค่าอาหารกลางวันเด็ก และสวัสดิการของครูอาสา

จากนั้น คณะได้ลงพื้นที่บริเวณตลาดห้วยขวาง ถนนประชาสงเคราะห์ เพื่อติดตามปัญหาการจราจร ความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยบริเวณจุดที่ทำการค้า ติดตามความคืบหน้าโครงการงานก่อสร้างรางระบายน้ำ ค.ส.ล. ถนนประชาสงเคราะห์ ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ และถนนประชาสุข ช่วงจากคลองนาซองถึงคลองห้วยขวาง (2 ฝั่ง) ต่อมาได้ลงพื้นที่ถนนอินทามระ บริเวณจุดที่มีน้ำท่วมขัง/รอการระบายในช่วงที่เกิดฝนตกหนัก และรับฟังปัญหาของประชาชน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่เสียหาย จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 9 ส.ค.- “มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ สำรวจความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชา เตรียมใช้เป็นข้อชี้แจงนานาชาติ กัมพูชาใช้อาวุธระยะไกลโจมตีพื้นที่พลเรือน ยันพร้อมประสานให้ ICRC – UN มาดูพื้นที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่จังหวัดสุรินทร์ จากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ว่า เรื่องข้อมูลของการละเมิดสิทธิ และละเมิดกฎสหประชาชาติกฎหมายระหว่างประเทศของกัมพูชา เรามีข้อมูลครบถ้วนอยู่แล้ว เมื่อวันนี้ได้มาเห็นสภาพจริง และมาเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ได้เห็นภาพนอกเหนือจากข้อมูล ก็เป็นภาพที่เห็นชัดเจน รวมถึงการบรรยายสรุปของผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ที่อธิบายให้เห็นการโจมตีเป้าหมายที่ห่างไกลออกจากเขตแดน ซึ่งตนเองใช้เป็นข้อชี้แจงกับนานาชาติ และองค์กรสหประชาชาติว่าการใช้ประเภทอาวุธระยะไกลของฝ่ายกัมพูชาจะทำให้เกิดปัญหา และจะทำให้ประชาชนพลเรือนได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งเป็นการโจมตีเป้าหมายไปยังพลเรือน แต่ยังไม่สามารถเข้าไปดูพื้นที่กับระเบิด และวันนี้ทราบว่ามีทหารเหยียบกับระเบิดที่วางอยู่ตามแนวชายแดน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจง และแสดงความผิดหวัง และไม่ปราถนาที่จะเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงการเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างกันให้สำเร็จอย่างยั่งยืน ส่วนนี้เราจะแสดงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้อาวุธ หรือทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา อย่างชัดเจน นายมาริษ กล่าวว่าการเดินทางมาครั้งนี้ ได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในสิ่งที่เราเรียกร้องมาโดยตลอด ว่าเราทำตนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และได้แสดงตนให้ประชาคมโลก […]

ทหารเหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน เจ็บ 3 นาย

ศรีสะเกษ 9 ส.ค. – กำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน บาดเจ็บ 3 นาย โดย “จ.ส.อ.ธานี” หัวหน้าชุด ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 แถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ประจำวันที่วันที่ 9 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 11.00 น. โดยมีรายละเอียด ดังนี้ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. ร้อย.ร.111 ได้นำกำลังพลลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อวางลวดหนามป้องกันพื้นที่ บริเวณรอยต่อ โดนเอาว์-กฤษณา จ.ศรีสะเกษ โดยมี จ.ส.อ.ธานี พาหา เป็นหัวหน้าชุด และกำลังพล 2 นาย โดยระหว่างตรวจสอบเส้นทางได้เหยียบกับระเบิด เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย (ส.1 […]

“ภูมิธรรม” เยี่ยมให้กำลังใจชาวสุรินทร์ ประสานนำผู้อพยพกลับบ้าน

สุรินทร์ 9 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจชาวสุรินทร์ ประสานคมนาคม นำผู้อพยพกลับบ้านโดยเร็วที่สุด สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด ดูแลประชาชนเป็นอย่างดี ให้ใช้งบเต็มที่ พร้อมประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการประปาส่วนภูมิภาค ละเว้นค่าไฟ ค่าน้ำ ในช่วงที่เกิดการปะทะ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจุดแรกเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยเมื่อเดินทางถึง นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย นายชูชัย มุ่งเจริญพร สส.เขต 2 พรรคเพื่อไทย มาให้การต้อนรับ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรามาด้วยความห่วงใย และทราบดีว่าประชาชนทุกคนมีความยากลำบากในสิ่งที่ไม่ใช่ความผิดของเราเลย เป็นเรื่องที่ส่วนอื่นนอกประเทศ โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นคู่ขัดแย้งของเราทำขึ้น สร้างขึ้น และทำให้ประชาชนเดือดร้อน ในขั้นต้น พวกเราทุกคนหน่วยหลัง ได้ทำการดูแลแผนพิทักษ์ส่วนหลังทั้งหมด พยายามดูแลทุกส่วนอย่างเต็มที่ […]

รถไฟด่วนพิเศษ ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค.-รถไฟขบวนรถด่วนพิเศษ ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ช่วงเช้ามืดวันนี้ จนท.นำผู้โดยสารที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว ขบวนรถสายใต้เดินขบวนรถได้ตามปกติ แต่ล่าช้า เฟซบุ๊กทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย รายงานวันนี้ (9 สิงหาคม 2568) เวลา 05.15 น. เกิดเหตุขบวนรถด่วนพิเศษ ขบวนที่ 38/46 (สุไหงโก-ลก – กรุงเทพอภิวัฒน์) คันที่ 10-12 ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ – เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ นำตัวส่งโรงพยาบาล– ขนถ่ายผู้โดยสาร คันที่ 10-12 ทางรถยนต์– นำตู้โดยสารที่ไม่ได้ตกราง ทำขบวนต่อถึงสถานีปลายทาง ทั้งนี้ ขบวนรถสายใต้เดินขบวนรถได้ตามปกติ (ล่าช้า) การรถไฟฯ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1690 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บ 9 ราย เป็นพระภิกษุ 1 รูป เด็กหญิง […]