ผนึกกำลัง 2 ผู้ว่าฯ “กทม.-ปทุมฯ” แก้ปัญหาน้ำ-ฝุ่น-จราจร แบบไร้รอยต่อ

ปทุมธานี 20 ก.ย. – “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” ผนึกกำลังผู้ว่าฯ ปทุมธานี หารือแก้ไขปัญหาน้ำ ฝุ่น PM 2.5 การจราจรและผังเมือง เพื่อการทำงานบูรณาการแบบไร้รอยต่อ พร้อมวางแผนในอนาคตจะร่วมหารือกับผู้ว่าฯ ในพื้นที่ปริมณฑล


วันนี้ (20 ก.ย.) ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมหารือบูรณาการการบริหารจัดการน้ำและฝุ่น PM 2.5 รวมถึงความร่วมมือด้านอื่นๆ

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการหารืออย่างไม่เป็นทางการ เพื่อให้การรับมือสถานการณ์เป็นไปอย่างไร้รอยต่อ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมพูดคุย ช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น ปัจจุบันกรมชลประทานเป็นผู้ดูแลการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งจะต้องมีการหารือกันในการระบายน้ำ ทางด้านจังหวัดจะเป็นผู้ควบคุมกฎระเบียบต่างๆ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องสื่อสารมากขึ้น เพื่อลดปัญหาและแจ้งเตือนให้กับประชาชนทันเวลา


ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า ผู้ว่าฯ กทม. และผู้ว่าฯ จังหวัดปริมณฑล นนทบุรี ฉะเชิงเทรา นครปฐม และสมุทรปราการ จะต้องมีการพูดคุยกันมากขึ้น อาจจะเดือนละครั้ง ทั้งนี้ ตนกังวลว่าเดือนตุลาคม น้ำจะมาอีก เราจะต้องเตรียมรับมือในการพร่องน้ำตามประตูน้ำต่างๆ มีแผนรับมืออย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเดือนนี้น้ำฝนมีปริมาณมาก

ส่วนเรื่องฝุ่น PM 2.5 ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ มีประสบการณ์ในเรื่องการเผาชีวมวล กรุงเทพฯ ก็มีปัญหาในพื้นที่หนองจอก มีนบุรี จึงต้องให้ความรู้กับเกษตรกร ไม่อยากให้เผา ถ้าฝ่าฝืนจะต้องใช้ไม้แข็ง ดำเนินคดีทางกฎหมาย จะได้เป็นเยี่ยงอย่าง สำหรับเรื่องของโรงงานอุตสาหกรรม จะมีการปรับคุณภาพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ฝุ่นที่เกิดในจังหวัดปทุมธานี อาจจะไหลไปสู่กรุงเทพฯ ได้ เราจึงต้องร่วมมือกันทั้งในเรื่องของการจราจร นิคมอุตสาหกรรมจังหวัด ตนคาดหวังว่าเราจะมีความร่วมมือที่เข้มข้นขึ้น

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยังเผยถึงปัญหาจราจรที่ติดขัดในพื้นที่กรุงเทพฯ และปทุมธานี ว่าจุดรถติดขัดตั้งแต่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ เชื่อมต่อนิมิตใหม่ ลำลูกกา จะต้องประสานการควบคุมการจราจร ส่วนเรื่องผังเมือง เราเป็นจังหวัดที่เชื่อมต่อกัน ได้ให้ทีมงานพูดคุยกัน ให้ผังเมืองมีความต่อเนื่องและการพัฒนาเมืองอย่างไร้รอยต่อ ตนได้มาเยี่ยมท่านผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ และได้ความรู้หลายหลายอย่าง อนาคตจะได้ประสานงานร่วมมือให้ละเอียดมากขึ้น โดยเฉพาะทีมงานระดับพื้นที่ปฏิบัติการ


ด้านผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ เปิดเผยว่า ความสำคัญที่สุดคือ การทำงานอย่างไร้รอยต่อ ถ้าเรามองปัญหาแบบเดิมๆ อย่างเรื่องโควิดหรือการบริหารจัดการน้ำ การหารือครั้งนี้ได้พูดคุยปัญหาหลายหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องน้ำเรามองตรงกัน ช่วงเดือนตุลาคม น้ำทะเลจะหนุนสูงที่สุด ทุกปีโดยเฉลี่ยประเทศไทยจะมีพายุเข้า 2 ลูก ซึ่งเรากลัวว่าถ้าน้ำหนุนสูงและมีพายุเข้าจะทำให้เกิดปัญหา

“ผู้ว่าฯ ชัชชาติ จะเป็นเจ้าภาพในการพูดคุยกับทีมงานจังหวัดข้างเคียงทั้งหมด ให้การทำงานไร้รอยต่อ รวมถึงการผันน้ำ และการปล่อยน้ำที่จะช่วยกันได้ ไม่กระทบกับใครเป็นพิเศษ และเมื่อหัวคุยกันเรียบร้อย ลูกทีมก็จะสามารถคุยกันเองได้ ทำให้การทำงานสะดวกมากยิ่งขึ้น” ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ กล่าว

ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ยังกล่าวถึงเรื่องผังเมืองว่า ผังเมืองปทุมธานีคนละสีกับกรุงเทพฯ จะทำให้การทำงานไม่สอดคล้องกัน ปทุมธานีกำลังปรับผังเมืองจะได้รองรับนโยบายที่ประสานงานให้เป็นโซนต่อเนื่อง เมื่อเราได้กำหนดผังเมืองอย่างเป็นแบบแผน จะสามารถทำงานได้ดีขึ้น ส่วนตัวยอมรับว่าปัญหาเรื่องการจราจรอาจจะแก้ไขได้ยาก จะเร่งรัดการก่อสร้างในพื้นที่ปทุมธานีให้ไวขึ้น เพราะในช่วงฤดูฝนอาจจะยาวถึงเดือนตุลาคม และพฤศจิกายน ถ้ารถติดจะทำให้ติดถึงถนนดินแดง ต้องเร่งรัดไม่ให้เป็นคอขวดในถนนวิภาวดีรังสิต

“สำหรับประเด็นในเรื่องปัญหาต่างๆ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ จะนำไปคุยกับจังหวัดอื่นได้ นี่คือการทำงานอย่างไร้รอยต่อทุกจังหวัด ไม่ว่าการทำงานส่วนภูมิภาค ระดับจังหวัด เราจะต้องทำงานอย่างไร้รอยต่อ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างเต็มที่” ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ กล่าว

เมื่อถามว่าการสื่อสารที่เคยเกิดดราม่าประเด็นเรื่องการผันน้ำ วันนี้ได้มีการพูดคุยหรือยัง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า ไม่เคยได้ยินดราม่านี้ และฝ่ายปฏิบัติงานก็ทำงานได้ตลอด อาจจะมีการเข้าใจผิด พยายามให้ทุกคนมองถึงประชาชนเป็นที่ตั้ง และปัญหาเรื่องน้ำท่วมที่ผ่านมามีน้ำมาจากจังหวัดนครนายก ไหลผ่านคลองรังสิต ปทุมธานี ถ้าหากออกแม่น้ำเจ้าพระยาได้เยอะก็จะสามารถแก้ปัญหาได้ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องพูดคุยกับกรมชลประทานมากขึ้น

ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า จังหวัดปทุมธานี ได้จัดเตรียมและถอดบทเรียนเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ฝนตกในพื้นที่ปทุมธานีค่อนข้างเยอะ ปริมาณฝนตกมากกว่ากว๊านพะเยา จึงต้องนำบทเรียนที่เกิดขึ้น ประสานกรมชลประทานและกรุงเทพฯ อย่างใกล้ชิด ตอนนี้เราเคลียร์พื้นที่หมดแล้ว และจะเพิ่มระบบสูบน้ำเข้าไปรองรับมวลน้ำในเดือนตุลาคม ถ้าไม่มาตามนัดก็ดี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย