หนุนกรมสรรพสามิตฟื้นขึ้นภาษีความเค็ม

สสส. 31 ส.ค.- สสส.ร่วมภาคีเครือข่ายบริโภคลดเค็ม หนุนให้กรมสรรพสามิตทบทวน ฟื้นขึ้นภาษีความเค็มในอาหาร 3 กลุ่ม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารแช่เย็นสำเร็จรูป ขนมกรุบกรอบ หลังล้มไปเมื่อเกิดสถานการณ์โควิด ชี้ปัจจุบันคนไทยบริโภคโซเดียมมากถึง 3,636 มก. มากเกินที่ WHO กำหนดในแต่ละวันห้ามเกิน 2,000 มก.

ทพญ.จันทนา อึ้งชูศักดิ์ ประธานกรรมการกำกับทิศทางแผนอาหารเพื่อสุขภาวะ สสส. พร้อมด้วย รศ.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ ประธานเครือข่ายบริโภคลดเค็ม กล่าวว่า ที่ผ่านมา สสส.พร้อมด้วยเครือข่ายสนับสนุนให้ประชาชนตระหนักเรื่องการลดบริโภคความเค็ม จากการดูฉลากโภชนาการที่อยู่ข้างผลิตภัณฑ์ สัดส่วนสของการบริโภคความเค็มอาจลดลง แต่ก็ยังสูงเกินกว่าที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ คือ การบริโภคเกลือโซเดียม ไม่ควรเกิน 2,000 มิลลิกรัม แต่ปัจจุบันพบว่าคนไทยทานโซเดียมมากถึง 3,636 มิลลิกรัม โดยตั้งเป้าในอีก 3 ปี ข้างหน้า หรือปี 2025 การบริโภคความเค็มต้องลดลง 30% ดังนั้น เตรียมฟื้นเรื่องของภาษีความเค็มเข้ามากำกับดูแลผลิตภัณฑ์อาหาร ทั้งในส่วนของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารแช่เย็นสำเร็จรูป ขนมกรุบกรอบ เนื่องจากพบว่าเป็นสัดส่วนที่มีการบริโภคมาก และมีความเค็มสูง โดยจะมีการหารือกับทางกรมสรรพสามิตเพื่อทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง หลังจากมีการชะลอไปเมื่อเกิดสถานการณ์โควิด

รศ.นพ.สุรศักดิ์ กล่าวยืนยันการขึ้นภาษีความเค็มไม่ได้เป็นการซ้ำเติมผู้บริโภค หลังจากที่มีการขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปในราคา 1 บาท แต่การปรับขึ้นนี้จะช่วยให้ผู้ผลิตอาหารตระหนักและลดความเค็ม ต้นทุนการผลิตอาหารก็ลดลง คนก็จะมีสุขภาพดี โดยหากมีการประกาศขึ้นภาษีความเค็มจริง ก็จะมีการขึ้นในอาหาร 3 กลุ่ม ได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารแช่เย็นสำเร็จรูป ขนมกรุบกรอบ แต่ไม่ได้ประกาศและขึ้นทันที แต่จะมีการมีการบังคับอีกอย่างน้อย 3 ปีข้างหน้า และให้ผู้ผลิตปรับลดลงสูตรความเค็มลง คนก็จะค่อยๆ ชินกับระดับความเค็ม ขณะนี้ยังไม่กำหนดเพดานสัดส่วนของภาษีอย่างชัดเจน ซึ่งอาหารทุกประเภทระดับความเค็มไม่เท่ากันต่อหน่วยการบริโภค โดยปัจจุบันจากการสำรวจอาหารที่มีระดับความเค็ม พบว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จแบบนำเข้าจากต่างประเทศ พบว่ามีความเค็มมีค่าโซเดียมมากกว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของไทย พร้อมเตรียมเรียกร้องให้ อย.กำหนดให้ซุปก้อนต้องมีฉลากโภชนาการ เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคทราบถึงเกลือที่แฝงอยู่ในรูปแบบของเครื่องปรุงรส ซึ่งมีอันตรายมาก.-สำนักข่าวไทย