กรุงเทพฯ 24 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ พม. พร้อมตำรวจ ได้รับการประสานจากเพจสายไหมต้องรอดให้เข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ย่านรามอินทรา 13 แยก 6 หลังเพื่อนบ้านอ้างว่าลูกสาวทำร้ายร่างกายแม่ที่แก่ชรา
เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. พร้อมตำรวจ ได้รับการประสานจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อเข้าตรวจสอบช่วยเหลือ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า หญิงชราวัยอายุ 94 ปี ถูกลูกสาวอายุประมาณ 76 ปี ทำร้ายร่างกาย มาเป็นเวลานานนับปี โดยชาวบ้านมีหลักฐานเป็นภาพคลิปวีดีโอ เป็นเสียงคนแก่ร้องด้วยความเจ็บปวดคล้ายคนถูกทำร้ายร่างกายออกมาจากบ้านหลังนี้
โดยพบว่าลูกสาวอายุ 76 ปี อาศัยอยู่กับแม่วัย 94 ปี เพียงแค่ 2 คนเท่านั้น ส่วนคนอื่นแยกย้ายกันไปมีครอบครัวได้ชักชวนแม่ไปอยู่ด้วย แต่แม่ไม่ยอมไปด้วย จะมีอาการหวาดระแวงคนแปลกหน้า จะอยู่บ้านหลังนี้กับลูกสาวคนโต ซึ่งลูก ๆ ได้ส่งเสียดูแลอย่างต่อเนื่องและจะกลับมาเยี่ยมในบางโอกาส ซึ่งวันนี้ลูกคนอื่นก็ได้มาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ตลอดเวลาที่เจ้าหน้าที่พูดคุยลูกสาวคนโตยกมือไหว้ร้องไห้ตลอดเวลา ซึ่งทางญาติมีการให้ข้อมูลว่า ลูกสาวคนโตนั้นบุคลิกมีการพูดจาโผผางอยู่แล้ว
ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงยืนยันข้อมูลว่า ได้ยินเสียงลูกสาวตบตีทำร้ายร่างกายแม่จริง โดยหลายครั้งเพื่อนบ้านแอบบันทึกคลิปเสียงและคลิปวีดีโอไว้ แต่ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือภายในบ้านได้ ซึ่งการทำร้ายร่างกายมักจะเกิดขึ้นทุกวัน บางครั้งรุนแรงถึงขั้นจับแม่นั่งรถเข็นออกมาตากแดดหน้าบ้าน โดยเริ่มมีการทำร้ายแม่ช่วงปีนี้
เบื้องต้น พม.อยู่ระหว่างการเจรจาพูดคุย เพื่อหาแนวทางป้องกันดูแลไม่ให้เกิดกรณีที่มีการกล่าวหาลักษณะนี้ขึ้นอีก ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่มีใครยืนยันได้ว่าสาเหตุการทำร้ายแม่ครั้งนี้เกิดจากสาเหตุใด
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยหลังพูดคุยร่วมกันทุกฝ่ายว่า คุณยายมีลูก 5 คน ลูกสาวคนโตไม่มีครอบครัว จึงให้ดูแลแม่อยู่ที่บ้าน โดยลูกสาวคนโตยอมรับบางครั้งมีความเครียด เพราะแม่ดื้อ พูดไม่เข้าใจจึงลงไม้ลงมือกับแม่ ขอโอกาสปรับปรุงตัวอีกครั้ง
ส่วนตามตัวคุณแม่ก็มีรอยฟกช้ำไปทั้งตัวตามตัวและบอกโดนตีจริง และมีท่าทีกลัวลูกสาวคนโตมาก เมื่อเปิดคลิปที่ชาวบ้านถ่ายไว้ให้ลูกคนอื่น ๆ ดู ลูก ๆ ถึงกับตกใจไม่คิดว่าจะรุนแรงกับแม่ขนาดนี้ ทั้งนี้ ทาง พม.จะส่งพี่เลี้ยงมาดูแลเพิ่ม และจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ให้ดูแล.-สำนักข่าวไทย