ในหลวง-พระราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะเอกอัครราชทูต-คณะบุคคล เฝ้าฯ

13 มิ.ย. – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ คณะเอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่ อุปทูตรักษาการ รักษาการกงสุลใหญ่ไทย และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศ เฝ้าฯ

วันนี้ (13 มิ.ย.68) เวลา 18.26 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จลง ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะเอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่ อุปทูตรักษาการ และรักษาการกงสุลใหญ่ไทย พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เนื่องในโอกาสที่กระทรวงการต่างประเทศ จัดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ที่ประจำการในต่างประเทศทั่วโลก ระหว่างวันที่ 8-14 มิถุนายน 2568 ภายใต้หัวข้อหลัก ได้แก่ “การทูตเชิงรุกที่ตอบโจทย์ประชาชน จากนโยบายสู่การปฏิบัติ” เพื่อให้เอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ ที่ปฏิบัติราชการอยู่ ณ 98 สำนักงาน ใน 65 ประเทศทั่วโลก ได้รับทราบทิศทางนโยบายต่างประเทศที่สำคัญของรัฐบาล ภายใต้บริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงและผันผวนอย่างมาก และหารือเกี่ยวกับยุทธศาสตร์และแนวทางการนำทีมประเทศไทยในประเทศที่ประจำการ ขับเคลื่อนนโยบายต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ยังผลประโยชน์แห่งชาติและประชาชนที่สำคัญในทุกมิติ นอกจากนี้ เนื่องในโอกาสครบ 150 ปี ของการสถาปนากระทรวงการต่างประเทศ จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ร่วมกันทบทวนและหารือเกี่ยวกับทิศทางและจุดยืนทางการทูตไทยให้สอดคล้องกับจุดแข็งของประเทศ ผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ภายใต้บริบทและสภาวการณ์ในโลกปัจจุบัน เพื่อเสริมสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในการขับเคลื่อนการทูตไทยสู่อนาคตสืบไป

โอกาสนี้ พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่คณะเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ไทย เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ ความว่า

“ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้ต้อนรับท่านทั้งหลาย ผู้เป็นเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ของไทย ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ทุกท่านได้ร่วมประชุมสัมมนากัน และรับนโยบายจากรัฐบาลแล้ว ต่อไปก็จะต้องนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ในการปฏิบัตินั้น มีสิ่งที่ต้องคำนึงหลายประการ ซึ่งท่านคงจะได้นำไปพิจารณาร่วมกันอย่างรอบคอบ ด้วยความรู้และประสบการณ์ที่แต่ละคนมีอยู่ แต่สิ่งสำคัญ คือ จะต้องอยู่บนพื้นฐานของการตระหนักถึงหน้าที่ ในฐานะที่เป็น “ผู้แทน” หรือ “ตัวแทน” ทั้งตัวแทนของพระมหากษัตริย์ ตัวแทนของประเทศ และตัวแทนของประชาชนชาวไทย ที่จะไปเสริมสร้างความเป็นมิตรไมตรีกับประเทศต่าง ๆ และรักษาผลประโยชน์ของชาติไปด้วยพร้อมกัน

สถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งของไทยและของโลก เปลี่ยนแปลงก้าวหน้ามาโดยตลอด และบางช่วงก็ผันผวนแปรปรวนมาก คือสามารถแปรเปลี่ยนพลิกผันได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว ท่านจึงต้องปฏิบัติงานอย่างทันท่วงที และระมัดระวังอย่างมาก ดังที่ท่านได้รายงานให้ทราบเมื่อครู่นี้ว่า จะปฏิบัติด้วยความ “รู้เขา รู้เรา” นั้น เป็นสิ่งที่สำคัญ การรู้ท่าทีของประเทศนั้น ๆ ที่มีต่อสถานการณ์ต่าง ๆ และรู้จุดยืนของประเทศเราที่มีต่อสถานการณ์นั้น ย่อมช่วยให้เรารู้ว่า จะต้องทำอย่างไร จึงจะสามารถเสริมสร้างความเข้าใจกันได้ เมื่อรู้และปฏิบัติได้ถูกต้องเหมาะสม ท่านก็จะสามารถทำหน้าที่ของทูต ในการพิทักษ์รักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวไทยได้อย่างแท้จริง ขออำนวยพรให้ทุกท่าน มีความสุขความเจริญในชีวิต และมีความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ทุกประการ”

ต่อมา เวลา 18.54 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ คณะบุคคลต่าง ๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ดังนี้

  • นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก และเหรียญที่ระลึกพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ๑๔ มกราคม ๒๕๖๘ พร้อมกล่องไม้มะค่า แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี

ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กระทรวงการคลังจัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก และเหรียญที่ระลึกพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ๑๔ มกราคม ๒๕๖๘ โดยจัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก จำนวน ๖ ชนิด ประกอบด้วย เหรียญทองคำ ความบริสุทธิ์ ๙๙ เปอร์เซ็นต์ ประเภทขัดเงา เหรียญทองคำ ความบริสุทธิ์ ๙๙ เปอร์เซ็นต์ ประเภทธรรมดา เหรียญเงิน ความบริสุทธิ์ ๙๒.๕ เปอร์เซ็นต์ ประเภทขัดเงา เหรียญเงิน ความบริสุทธิ์ ๙๒.๕ เปอร์เซ็นต์ ประเภทธรรมดา เหรียญโลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ประเภทขัดเงา และเหรียญโลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ประเภทธรรมดา กับจัดทำเหรียญที่ระลึก จำนวน ๒ ชนิด ประกอบด้วย เหรียญทองแดงรมดำพ่นทรายพิเศษ ความบริสุทธิ์ ๙๕ เปอร์เซ็นต์ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๗๐ มิลลิเมตร และเหรียญทองแดงรมดำพ่นทรายพิเศษ ความบริสุทธิ์ ๙๕ เปอร์เซ็นต์ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๓๐ มิลลิเมตร

  • ศาสตราจารย์เกียรติคุณยงยุทธ ยุทธวงศ์ นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นำคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล พร้อมครุยวิทยฐานะ และหุ่นจำลองเครื่องบินขับไล่สมรรถนะสูง “เอฟ ห้าอี” (F-5E) บรรจุในกล่องอะคริลิกใส แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาภาษาศาสตร์ประยุกต์ พร้อมครุยวิทยฐานะ และผ้าซิ่นไทยวน (ไท-ยวน) บรรจุในกล่องผ้าไหมสีม่วง แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี

ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระปรีชาสามารถในด้านวิศวกรรมการบินและอากาศยาน ทรงมีชั่วโมงการบินหลายพันชั่วโมง แสดงให้เห็นถึงความชำนาญ ความเชี่ยวชาญอันเป็นเลิศในวิทยาการการบิน ทั้งอากาศยานทหารและอากาศยานพาณิชย์ ทรงปฏิบัติหน้าที่ครูการบินพระราชทาน ทรงถ่ายทอดวิทยาการฝึกสอน ทั้งภาควิชาการและภาคปฏิบัติ โดยพระปรีชาสามารถเป็นที่ประจักษ์ชัด เมื่อครั้งทรงปฏิบัติหน้าที่นักบินที่ ๑ ทรงขับเครื่องบินพระที่นั่งด้วยพระองค์เอง ทั้งเที่ยวไปและกลับ ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติพาโร ราชอาณาจักรภูฏาน ซึ่งท่าอากาศยานพาโร นับเป็นท่าอากาศยานที่มีความยากในการนำเครื่องขึ้นและลงจอดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งยังทรงให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการเรียนการสอนทางวิศวกรรมศาสตร์ โดยทรงรับกองทุนเพื่อการศึกษาและวิจัยทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ และโครงการเหรียญรางวัลเรียนดี ของนิสิต นักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ นอกจากนี้ ยังทรงพระปรีชาสามารถในการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางด้านวิศวกรรมมาประยุกต์ใช้ในพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ราษฎรและประเทศชาติเป็นอเนกอนันต์

สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยพระวิริยอุตสาหะ ทั้งด้านการทหาร การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม และการต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรงพระปรีชาสามารถด้านภาษาและการสื่อสาร ทรงใช้ภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสอย่างแตกฉาน ทั้งยังทรงใช้ประกอบในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจสำคัญต่าง ๆ ที่โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปทรงเยือนต่างประเทศ ทรงรับประมุขและผู้นำประเทศต่าง ๆ และพระราชทานพระราชวโรกาสให้บุคคลสำคัญและทูตานุทูตต่างประเทศ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท อีกทั้งยังทรงดำรงพระองค์เป็นทูตทางภาษาและวัฒนธรรมไทยในเวทีโลก โดยทรงมีพระราชดำรัส ทรงกล่าวสุนทรพจน์ เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ในเวทีการประชุมต่าง ๆ เป็นที่ประจักษ์ชัดถึงพระปรีชาสามารถทางด้านภาษาและการสื่อสาร ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งในการอนุรักษ์และจรรโลงภาษาไทย สร้างความภาคภูมิใจแก่ประชาชนชาวไทยทั้งปวง.-211-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

เด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่

กทม. 5 ก.ค. – สั่งเด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่ ขณะที่เช้านี้เจ้าหน้าที่คุมตัว 72 นักพนัน ไปฝากขังศาลแขวงดอนเมือง พบส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.2 รรท.ผบก.น.2 ลงนามในคำสั่ง กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ที่ 183/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ค.68 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าทำการสืบสวนสถานที่ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าเป็นบ่อนการพนัน บริเวณอาคารพาณิชย์ กลางซอยพหลโยธิน 52 แยก 3 แขวงคลงถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และได้จับกุมผู้ต้องหากับพวกในข้อหา “ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันไฮโล เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต”และ “ร่วมกันเข้าเล่นหรือเล่นการพนันโฮโลเพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของสน.บางเขน เพื่อให้การบริหารงานในภาพรวมของ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเรียบร้อย […]

ค้นบ้านพักสีกา คนสนิท “ทิดอาชว์” พบจีวรหลายผืน

กทม. 5 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” รับเมื่อวาน ปปป. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมายศาลค้นบ้านพักสีกา ก.ไก่ คนสนิท “ทิดอาชว์” อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ พบภายในบ้านมีจีวรหลายผืน เวลา 10.00 น. พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บช.ก. เปิดเผยถึงความคืบหน้า การสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลและหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับวัดตรีทศเทพ ว่าเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านดังของสีกาไฮโซ อักษรย่อ ก.ไก่ หญิงสาวคนสนิทของทิดอาชว์ เพื่อค้นหาพยานหลักฐาน พร้อมสอบปากคำสีกาคนดังกล่าว จากการตรวจค้นภายในบ้านพัก พบพยานหลักฐานจำนวนหนึ่ง โดย 1 ในนั้นเป็นจีวรพระหลายพื้น แต่จะเป็นของพระรูปไหนอย่างไร ยังไม่ทราบ เพราะเจ้าตัวยังไม่เปิดเผย จากการสอบปากคำสีกา ก. ให้การเป็นประโยชน์เป็นที่น่าพอใจ สามารถขยายผลนำไปสู่การสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตในอนาคตได้ นอกจากนี้ สีกาไฮโซ ก. ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ได้ ซึ่งถือว่าเป็นให้ความร่วมมือในทิศทางที่ดี อย่างไรก็ตาม หลังหมดเวลาตรวจค้น 18.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว […]

‘ทรัมป์’ ฉลองวันชาติสหรัฐด้วยการลงนามร่างกฎหมายสำคัญ

วอชิงตัน 5 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เมลาเนีย ทรัมป์ ได้ร่วมฉลองวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐเมื่อวานนี้ ด้วยการแสดงพลุไฟตระการตาเหนือน่านฟ้ากรุงวอชิงตัน นายทรัมป์จัดพิธีฉลองวันชาติที่สนามหญ้าด้านทิศใต้ของทำเนียบขาวในวันหยุดเพื่อรำลึกวันประกาศอิสรภาพ 4 กรกฎาคม โดยมีการแสดงการบินของเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหนและเครื่องบินขับไล่ คล้ายกับที่เครื่องบินที่ใช้ในการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ในอิหร่านเมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้สนับสนุนนายทรัมป์หลายร้อยคนเข้าร่วม รวมถึงเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว สมาชิกสภาคองเกรส และครอบครัวทหาร ก่อนหน้านั้น นายทรัมป์ลงนามบังคับใช้ แพ็กเกจกฎหมายขนาดใหญ่ว่าด้วยการลดภาษีและการใช้จ่าย ในพิธีที่จัดขึ้นที่ทำเนียบขาว เพียงหนึ่งวันหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ได้อนุมัติร่างกฎหมายสำคัญนี้ไปอย่างฉิวเฉียด ซึ่งถือเป็นกฎหมายสำคัญประจำวาระที่สองของรัฐบาลทรัมป์ ร่างกฎหมายฉบับนี้จะใช้เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับการปราบปรามการเข้าเมืองของนายทรัมป์ ทำให้การลดภาษีในปี 2017 ของเขาเป็นไปแบบถาวร และคาดว่าจะทำให้ ชาวอเมริกันหลายล้านคนถูกตัดสิทธิ์จากการประกันสุขภาพ โดยร่างกฎหมายผ่านสภาฯ ด้วยคะแนนเสียง 218 ต่อ 214 หลังจากการอภิปรายที่เข้มข้นในสภา การผ่านร่างกฎหมายนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับทรัมป์และพันธมิตรพรรครีพับลิกัน ซึ่งโต้แย้งว่ากฎหมายจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็มองข้ามการวิเคราะห์ที่เป็นกลางซึ่งคาดการณ์ว่ากฎหมายจะเพิ่ม หนี้ของประเทศอีกกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ จากหนี้ปัจจุบันที่ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ แม้ว่าสมาชิกสภาบางคนจากพรรคของนายทรัมป์จะแสดงความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนของร่างกฎหมายและผลกระทบต่อโครงการดูแลสุขภาพ แต่สุดท้ายแล้วมีเพียง ส.ส. รีพับลิกันเพียงสองคนจากทั้งหมด 220 […]