ในหลวง-พระราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกฯ อินเดีย เฝ้าฯ ในโอกาสเยือนไทย

นายกฯ อินเดีย เข้าเฝ้า

5 เม.ย. – ในหลวง-พระราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายกรัฐมนตรีอินเดีย เฝ้าฯ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล

เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 เวลา 17.24 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายนเรนทร โมที (Mr.Narendra Modi) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอินเดีย เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล

ในโอกาสนี้ นายสิทธารถ บาบู (Mr.Sidharth Babu) นักการทูตปฏิบัติการ กรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย ปฏิบัติหน้าที่ล่ามภาษาฮินดี-อังกฤษ ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ด้วย

ประเทศไทยและสาธารณรัฐอินเดีย มีความสัมพันธ์ที่ดีในระดับพระราชวงศ์และระดับรัฐบาล ทั้งยังมีความผูกพันด้านวัฒนธรรมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6-11 มีการฉลองครบ 75 ปี ของการสถาปนาทางการทูตไปเมื่อปี 2565 ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนสาธารณรัฐอินเดียอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7-21 เมษายน 2535 และเสด็จพระราชดำเนินอีกครั้งเมื่อวันที่ 23-27 ธันวาคม 2541 กับทรงทำการบินเครื่องบินพระที่นั่งเทียวบินพิเศษมหากุศล เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2553 โดยทรงทำหน้าที่นักบิน นำพุทธศาสนิกชนไปกราบสักการะสังเวชนียสถาน ณ ตำบลพุทธคยา ซึ่งเป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาลของทั้งสองประเทศได้มีความร่วมมือในด้านต่างๆ อาทิ เมื่อปี 2567 รัฐบาลไทยและรัฐบาลอินเดีย ได้มีความเห็นชอบอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ มาประดิษฐานที่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ระว่างวันที่ 23 กุมภาพันธ์ – 18 มีนาคม 2567 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 รวมทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับสถานพยาบาลกุสินาราคลินิก เมืองกุสินารา รัฐอุตตรประเทศ ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์

ในการเดินทางมาเยือนประเทศไทยของนายกรัฐมนตรีอินเดียครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 ครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2559 ได้เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท . -211 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ