5 มี.ค. – เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปวัดเทพประทาน (อธิพร) ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี
พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดสร้าง พระสมเด็จองค์ปฐม “พระพุทธเมตตา” พร้อมด้วยคณะกรรมการ ฯ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ

ในการนี้ ทรงลงพระปรมาภิไธย และทรงลงพระนามาภิไธยในสมุดที่ระลึก แล้วเสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงประกอบพิธีสมโภชพระสมเด็จองค์ปฐม “พระพุทธเมตตา” ซึ่งพระอาจารย์ธาตุ อธิปัญโญ เจ้าอาวาสวัดเทพประทาน (อธิพร) เป็นผู้ริเริ่มโครงการฯ ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทย, กองทัพอากาศ กรมประชาสัมพันธ์ ตลอดจนพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาทั่วทุกสารทิศร่วมใจกันจัดสร้างขึ้น เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554

พระสมเด็จองค์ปฐม “พระพุทธเมตตา” เป็นพระพุทธรูป ปางมารวิชัย กรมศิลปากรเป็นผู้จัดปั้น ประดิษฐานอยู่บริเวณดาดฟ้าอาคารองค์พระ มีขนาดหน้าตัก กว้าง 29 เมตร สูง 45 เมตร เท่ากับความสูงของอาคาร 15 ชั้น สร้างด้วยวัตถุธาตุล้ำค่าทั้งองค์ อาทิ นิลรัตนะ, พลอยนพเก้า, สะเก็ดดาว หรือ อุลกมณี (อัญมณีศักดิ์สิทธิ์), ไข่มุกราตรี และกาบหอยมุก ผิวองค์พระสร้างด้วยนิล ประมาณ 2 พันตัน ฉาบพลอยทับทิม เวลากลางวัน องค์พระจะเป็นสีดำประกายชมพู ส่วนกลางคืน จะเป็นสีชมพูอมแดง โครงสร้างผนังองค์พระเป็นคอนกรีตผสมหินนิลรัตนะ พื้นปูด้วยหินอ่อนขาว เช่นเดียวกับที่พระมหาเจดีย์ชเวดากอง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และพุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย คือแม้แดดร้อน แต่พื้นไม่ร้อนสามารถเดินด้วยเท้าเปล่าได้ ใช้เวลาในการจัดสร้าง 12 ปี เริ่มจัดสร้างปี 2554 แล้วเสร็จปี 2566 คณะกรรมการจัดสร้างฯ ได้เชิญตราสัญลักษณ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2554 ประดับบนผ้าทิพย์พระสมเด็จองค์ปฐม เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนในภาคตะวันออก และเทิดทูนสถาบันชาติศาสนา และพระมหากษัตริย์ ทั้งยังเป็นการอนุรักษ์ และเผยแผ่ ประติมากรรมพุทธศิลป์ พร้อมทั้งเป็นพลังที่จะคุ้มครองประเทศชาติ กับถวายเป็นพุทธบูชาให้เป็นสมบัติของพุทธศาสนิกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศสืบไป
โอกาสนี้ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะกรรมการจัดสร้างฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึก
จากนั้น พระราชทานของที่ระลึกแก่ผู้มีอุปการคุณสมทบกองทุนพระสมเด็จองค์ปฐม “พระพุทธเมตตา“

เมื่อเริ่มโครงการจัดสร้างพระสมเด็จองค์ปฐม “พระพุทธเมตตา” พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เสด็จไปทรงวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2554 “อาคารองค์พระ” สูง 2 ชั้น จัดแสดงนิทรรศการถาวรทั้ง 2 ชั้น
ชั้นที่ 1 ประดิษฐานพระสมเด็จองค์ปฐม (จำลอง) ปางจักรพรรดิ แกะสลักจากหยกพม่า หนัก 3 ตัน และประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระผนวช จัดทำด้วยกระจกเทมเปอร์สามารถมองทะลุเห็นทั้งด้านหน้าด้านหลัง, บริเวณผนัง มีภาพการสร้างพระสมเด็จองค์ปฐม “พระพุทธเมตตา”, ประวัติวัดฯ และภาพใบโพธิ์สีทองบนเสา เป็น guide map บอกว่าในอาคารนี้มีอะไร
ชั้นที่ 2 ประดิษฐานพระสมเด็จองค์ปฐม (จำลอง) ปางชนะมาร ทำด้วยโลหะรมดำ หนัก 1 ตัน มีนิทรรศการก่อสร้างพระสมเด็จองค์ปฐม “พระพุทธเมตตา” ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งตัวอย่างวัตถุธาตุอันล้ำค่า ที่นำมาจัดสร้างอย่างประณีตทุกขั้นตอน และผู้ที่ไปร่วมในพิธีสมโภชครั้งนี้ ได้รับหนังสือ “พลังแห่งศรัทธา” ที่เล่าเรื่องด้วยภาพถึงการก่อสร้างพระสมเด็จองค์ปฐม “พระพุทธเมตตา” เพื่อเป็นที่ระลึกด้วย
โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ มูลนิธิกาญจนบารมี ร่วมกับหน่วยแพทย์ พอ.สว. จังหวัดจันทบุรี และกองแพทย์หลวง ออกหน่วยคัดกรองมะเร็งเต้านม ด้วยเครื่องเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ (Mammogram) ไปตรวจรักษาแก่สตรีกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งตรวจรักษาโรคทั่วไปแก่ประชาชน
การเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีสมโภชพระสมเด็จองค์ปฐม “พระพุทธเมตตา” ณ วัดเทพประทาน ในครั้งนี้ ยังความความปลื้มปีติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่พสกนิกรชาวจังหวัดจันทบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งต่างพร้อมใจกันไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จจำนวนมาก. – 211 สำนักข่าวไทย




