เร่งขยายผลลักพาตัว “น้องจีน่า” ตร.เชื่อมีผู้ร่วมขบวนการ-จ่อแจ้งข้อหา “อาผะ”

เชียงใหม่ 9 ก.ย. -เร่งขยายผลคดีลักพาตัว “น้องจีน่า” หลังพบพิรุธหลายจุด ตำรวจคุมตัวชาย 1 คน และหญิงอีก 2 คน ไปสอบสวนเพิ่มเติม เตรียมแจ้งข้อหา “อาผะ” พรากผู้เยาว์ ขณะที่น้องจีน่าร่างกายฟื้นตัวดี แต่ต้องรอผลตรวจอย่างละเอียด


ความคืบหน้าประเด็นน้องจีน่า ถูกนายอาผะลักพาตัวไปจากครอบครัว โดยอ้างนำไปทิ้งในถ้ำเพื่อสังเวยเจ้าป่าเจ้าเขา แต่ยังมีหลายเรื่องที่สังคมกังขา ล่าสุดตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์ และเชื่อว่ามีการทำเป็นขบวนการ ขณะที่น้องจีน่ายังอยู่ในการดูแลของแพทย์ อาการล่าสุดถือว่าไม่น่าห่วง แต่ยังรอผลตรวจอย่างละเอียด

ภายหลังน้องจีน่า เด็กหญิงวัย 1 ขวบ 11 เดือน ได้รับการช่วยเหลือลงจากกระท่อมเถียงนาที่มีลักษณะเป็นเพิงพักอยู่บนภูเขา หลังนายเสี่ยว หรือ นายอาผะ ซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อเด็ก สารภาพเป็นผู้ลงมือก่อเหตุลักพาตัวน้องจีน่า โดยอ้างนำเด็กใส่ผ้าขาวม้าผูกเอวขึ้นมอเตอร์ไซค์ไปหลายที่ ก่อนพาไปทิ้งหน้าถ้ำบนภูเขาสูงชัน เพราะต้องการนำไปสังเวยเจ้าป่าเจ้าเขา และช่วงที่ทิ้งไว้ได้โยนกล้วย 1 ลูกไว้ให้กินด้วย แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ไม่พบตัวน้องที่ถ้ำ กลับมีญาติของแม่ไปพบน้องอยู่ที่กระท่อมเถียงนาในลักษณะที่น้องไม่มีร่องรอยบาดแผล ทั้งๆ ที่อยู่ในป่า ขนาดเจ้าหน้าที่ที่ไปช่วยน้องยังขึ้นไปยาก ทำให้ผิดสังเกตที่ว่าน้องจะเดินจากถ้ำไปอยู่ที่กระท่อมเถียงนาได้ ทำให้คำให้การต่างๆ ของนายอาผะ ตำรวจ สภ.แม่แตง ไม่ปักใจเชื่อ


ขณะที่ พ.ต.อ.กณฐภณ แก้วกำเนิด ผู้กำกับการ สภ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เตรียมแจ้งข้อหานายอาผะ ฐานพรากผู้เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา เพราะมีพฤติการณ์ชัดเจนว่าน้องจีน่าถูกอุ้มและนำไปซ่อนตัวไว้ที่อื่น ก่อนจะกลายเป็นเรื่องใหญ่และถูกกดดันหนัก หลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ระดมค้นหา จนทำให้ผู้กระทำผิดเริ่มหวาดกลัวและนำตัวน้องจีน่าไปทิ้งไว้ที่กระท่อมจนพบตัว นอกจากนี้ยังเตรียมนำตัวนายอาผะมาเค้นสอบเพิ่ม เพราะเชื่อต้องมีมากกว่า 1 คนที่ทำเรื่องนี้

ด้านชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 และภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่หมู่บ้านห้วยฝักดาบ เพื่อเก็บข้อมูลอีกครั้ง พร้อมนำสหวิชาชีพซักถามข้อมูลกับน้องจูเนียร์ พี่ชายน้องจีน่า ที่เป็นคนแรกในการชี้เป้าบอกแม่ว่า เห็นน้องถูกนายอาผะอุ้มขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ไป รวมถึงจะสอบพ่อแม่น้องจีน่าเพิ่ม เพื่อนำเรื่องราวทั้งหมดไปเชื่อมโยงรวบรวมหลักฐานแจ้งข้อหากับคนที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ ที่ สภ.แม่แตง นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา ทีมงานที่เป็นกลุ่มแรกๆ ในการเข้าช่วยค้นหาตัวน้องจีน่า ได้เดินทางเข้าพบตำรวจเพื่อประสานให้ข้อมูลเกี่ยวกับเด็กหายที่เกิดขึ้นในประเทศไทยด้วย เนื่องจากมีข้อกังขาหลายเรื่อง พร้อมอธิบายลักษณะเด็กหายว่า ปกติจะมีลักษณะที่หายจากโรงพยาบาลและถูกนำไปเลี้ยงตั้งแต่ยังเป็นทารก กับพลัดหลงจากพ่อแม่และถูกกลุ่มคนเร่ร่อนนำเด็กไปขอทาน แต่ลักษณะการค้ามนุษย์ในเด็กที่มีอายุเพียง 1 ขวบ 11 เดือน ไม่น่าเป็นไปได้ รวมถึงตั้งข้อสังเกตว่าข้อเท็จจริงการพบตัวของน้องจีน่าบนพื้นที่สูง แต่กลับไม่มีร่องรอยการขับถ่าย ซึ่งเป็นอีกข้อที่มองว่าเป็นไปไม่ได้ที่น้องจะมาอยู่ในกระท่อมเถียงนาเองได้


ข้อสังเกตนี้มูลนิธิกระจกเงาได้โพสต์ 10 ข้อเท็จจริงและข้อสังเกตการพบตัวน้องจีน่า ตอกย้ำให้สังคมร่วมจับตาคดีนี้ไว้ว่า เด็กหายตัวออกจากบ้านไปนาน 2 วัน 18 ชั่วโมง บ้านเด็กอยู่ห่างจากจุดเพิงพักที่พบตัวประมาณ 500 เมตร เป็นเส้นทางพื้นราบประมาณ 270 เมตร และเป็นเส้นทางเขาลักษณะสูงชั้นประมาณ 230 เมตร ลักษณะเส้นทาง สำหรับเด็กอายุ 1 ขวบ 11 เดือน ไม่สามารถเดินมาได้เองตามลำพัง และในวัยที่ซุกซน ไม่น่าจะนอนนิ่งๆ ในเพิงพักขนาด 2.5×2.5 เมตร ได้เกือบ 3 วันตามลำพัง ประกอบกับลักษณะเพิงพักที่พบน้องทำด้วยไม้ ไม่มีรั้วรอบขอบชิด สร้างบนเขา ถ้าเด็กเดินออกมาเสี่ยงสูงที่จะลื่นตกเขา นอกจากนี้หมู่บ้านตั้งอยู่ไกลจากถนนใหญ่ 10 กิโลเมตร เส้นทางส่วนใหญ่ค่อนข้างเปลี่ยว มีบ้านคนน้อย หากเลือกพาเด็กออกนอกพื้นที่ สามารถทำได้โดยง่าย และที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยพบข้อมูลการลักพาตัวเด็กเพื่อบูชายัญ แต่ส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เพื่อกระทำทางเพศ เพื่อความเสน่หาเอาไปเลี้ยงดู เพื่อเอาไปเร่ร่อนขอทาน และสร้างสถานการณ์โดยคนในครอบครัวหรือคนที่รู้จักหรือมีความขัดแย้งกับคนในครอบครัว ซึ่งกรณีการหายตัวไปของน้องจีน่า อาจมีข้อเท็จจริงอื่นที่ยังไม่ปรากฏในตอนนี้

ส่วนอาการน้องจีน่าที่ยังอยู่ระหว่างพักฟื้นที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ตอนนี้ทีมแพทย์และพ่อแม่คอยดูแลใกล้ชิด ล่าสุด นพ.วรเชษฐ์ เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า แพทย์ได้ให้การดูแลน้องจีน่าพร้อมกับพ่อแม่ โดยให้พักฟื้นด้วยกันในห้องความดันลบ ตามมาตรการ ซึ่งอาการทั่วไปปลอดภัย ฟื้นตัวได้ดี แต่ยังต้องรอผลการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยรวมทั้งหมดถือว่ายังไม่มีอะไรน่าห่วง และจะแถลงอาการต่างๆ ผ่านทางเพจของโรงพยาบาลนครพิงค์เชียงใหม่

คดีนี้ต้องจับตา เพราะอาจพูดว่าไม่คล้ายก็ใกล้เคียงกับน้องชมพู่ แต่มีปาฏิหาริย์ที่น้องจีน่าสามารถรอดชีวิตมาได้ และล่าสุดมีรายงานว่า ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ได้คุมตัวชาย 1 คน และหญิงอีก 2 คน ซึ่งเป็นคนในครอบครัวของน้องจีน่าจากหมู่บ้านห้วยฝักดาบ ไปสอบปากคำเพิ่มเติมตามคำให้การซัดทอดของนายอาผะ ที่อ้างว่าเป็นผู้จ้างวานให้ลักพาตัวน้องจีน่า ตำรวจจึงต้องเชิญตัวไปสอบปากคำ เนื่องจากที่ผ่านมา นายอาผะให้การวกวน กลับไปกลับมา หลังจากเมื่อวานนี้เพิ่งซัดทอดลูกเลี้ยงของตัวเองว่าเป็นผู้บงการให้ลักพาตัวน้องจีน่า. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.4 กำชับเร่งสืบจับมือวางระเบิดงานกาชาดปัตตานี

ปัตตานี 20 มิ.ย. – แม่ทัพภาค 4 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดงานกาชาดปัตตานี กำชับเร่งสืบจับผู้ก่อเหตุ เพิ่มความเข้มงวดรักษาความปลอดภัย ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ ขณะที่บรรยากาศภายในงานกาชาดฯ หลายร้านตัดสินใจไม่ขายต่อ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะ เข้าตรวจสอบความเสียหาย รวมถึงติดตามความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดงานกาชาดปัตตานี พร้อมกำชับตำรวจและฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ และปรับแผนให้รัดกุมยิ่งขึ้น ขณะที่บรรยากาศภายในงานกาชาดปัตตานี หลังเกิดเหตุระเบิด 3 ลูก เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (20 มิ.ย.68) พบว่า เจ้าของร้านต่างเร่งซ่อมแซมส่วนที่เสียหายให้กลับมาเปิดขายได้อีกครั้ง และพบว่าหลายร้านตัดสินใจไม่ขายต่อ หนึ่งในนั้นคือ ร้านขายไก่ทอด ไก่ย่าง ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว ตัดสินใจเดินทางกลับ จ.ตรัง โดยบอกว่า ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตั้งแต่ขายมา ไม่ว่าจะที่ จ.ยะลา หรือนราธิวาส จึงรู้สึกกลัว แม้อยากทำมาหาเลี้ยงชีพ แต่รักชีวิตมากกว่า. – สำนักข่าวไทย

เขมรป่วน! นำมวลชน-พระสงฆ์ บุกปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 20 มิ.ย. – กัมพูชาป่วนไม่เลิก ล่าสุดนำมวลชน-พระสงฆ์ บุกปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ไล่นักท่องเที่ยวชาวไทยกลับ ทหารและฝ่ายปกครองต้องเตือนให้หยุด และให้กลับลงไปทันที นี่เป็นภาพขณะเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองของไทย เข้าชี้แจงชาวกัมพูชาและพระสงฆ์กัมพูชา ประมาณ 15 รูป ซึ่งตอนแรกทำทีเป็นนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ในเวลาประมาณ 10.00 น. วานนี้ (19 มิ.ย.68) แต่ต่อมากลับพากันมายืนที่จุดจีพีเอส ขวางประตูทางเข้าตัวปราสาทตาเมือนธม และพูดกับคนไทยที่มาเที่ยวชมปราสาท ในลักษณะจะไม่ให้เข้า และข้ามหลักจีพีเอสไป ทั้งที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ของไทยทั้งหมด ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง อ.พนมดงรัก ที่ปฏิบัติการที่ปราสาทตาเมือนธม เห็นเข้า จึงรีบเข้าไปแจ้งเตือนและให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที โดยมีทหารฝ่ายกัมพูชาเข้ามาร่วมชี้แจงด้วย ก่อนจะพาชายคนดังกล่าวพร้อมคณะกลับลงไปฝั่งกัมพูชาทันที ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกัมพูชาใช้ฐานปฏิบัติการทหารที่อยู่ตรงข้ามกับปราสาทตาเมือนธม เป็นจุดรวมผู้คนและพระสงฆ์ที่เกณฑ์มา ให้มารวมตัวกัน โดยทหารกัมพูชาที่มาอำนวยความสะดวกบริเวณปราสาทตาเมือนธม จะเป็นผู้รายงานว่า ฝั่งไทยมีความเคลื่อนไหวอย่างไร นักท่องเที่ยวชาวไทยขึ้นมาเยอะหรือไม่ จากนั้นก็จะแจ้งให้ทางกัมพูชาทราบและจัดคนขึ้นมาที่ตัวปราสาท แล้วก็มาป่วน พยายามสร้างกระแสยั่วยุฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ทบ.แจงเหตุมวลชนเขมรบุกร้องเพลงบนปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ การยั่วยุลักษณะนี้เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา […]

ไมค์โขกหัวนายกฯ

นายกฯ โพสต์แจง “ไมค์โขกศีรษะ” นักข่าวไม่ได้ตั้งใจ

กรุงเทพฯ 20 มิ.ย.- นายกฯ อิ๊งค์ แจงไมค์โขกศีรษะ นักข่าวไม่ได้ตั้งใจ บอกหน้างานเบียดกันมาก โดนไม่แรง พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความผ่านสตอรี่ไอจี กรณีมีไมค์ของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งโดนศรีษะของนายกรัฐมนตรี ระหว่างลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และนายกรัฐมนตรีได้อุทาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า วันนี้ที่มีข่าวเรื่องไมโครโฟนโขกศีรษะ

รองเลขาธิการนายกฯ แจ้งความดำเนินคดี “ฮุนเซน”

กทม. 20 มิ.ย.-“สมคิด” รองเลขาธิการนายกฯ เข้าแจ้งความตำรวจไซเบอร์ ดำเนินคดี “ฮุนเซน” กรณีคลิปเสียงหลุด ยันไม่ได้แก้เกี้ยวให้ “แพทองธาร” ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุนเซน กรณีคลิปเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ความยาว 17.6 วินาที ที่หลุดออกมาจากฝั่งเขา จนสร้างความแตกแยก จึงได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับภัยความมั่นคง ยืนยันไม่ได้เป็นการแก้เกี้ยวให้กับนายกฯ และไม่ได้เรียนให้นายกฯ ทราบว่าจะมาแจ้งความ พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ยืนยันไม่ว่าการกระทำดังกล่าวจะเกิดขึ้นในหรือนอกราชอาณาจักร เป็นคนไทยหรือต่างชาติ หากทำลายความมั่นคง ก็สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายไทยได้ โดยตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐาน สืบค้นแหล่งที่มาของต้นโพสต์ หารือกับอัยการสูงสุดและประสานสถานทูตประเทศนั้น เพื่อให้ส่งเอกสารไปยังประเทศปลายทางของผู้ที่ถูกออกหมายจับ ส่วนจะได้ตัวหรือไม่ ไม่อยากให้คาดการณ์.-สำนักข่าวไทย