สามีภรรยายกมือไหว้ขอโทษ ยอมรับ “ท้องทิพย์”

สุพรรณบุรี 22 พ.ค. – สามีภรรยายกมือไหว้ขอโทษสังคม ยอมรับไม่ได้ตั้งครรภ์จริง และในวันจันทร์จะเดินทางไปที่โรงพยาบาล เพื่อชี้แจงรายละเอียดต่างๆ อีกครั้ง


เป็นคำขอโทษจากคู่สามีภรรยา หลังจากสารภาพว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากทั้งคู่แจ้งว่าศพของลูกชายหายไปจากโลงเหลือเพียงเสื้อผ้า พร้อมร้องเรียนให้โรงพยาบาลชี้แจงข้อเท็จจริงรวมถึงรับผิดชอบ

ในการแถลงข่าว ฝ่ายหญิงยังไม่ยอมพูด มีเพียงสามีที่กล่าวขอโทษทุกคนที่ทำไปโดยไม่ยั้งคิด พร้อมกับบอกว่าเรื่องนี้มีอะไรลึกซึ้งที่ไม่รู้มาก่อน ส่วนรายละเอียดขอแถลงข่าวในวันจันทร์ (24 พ.ค.) ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช


ด้านนายนิทัศน์ ลีอารีย์กุล ส.จ.ในพื้นที่ ซึ่งพาทั้งคู่มาแถลงข่าว บอกว่า ทั้งสองคนเสียใจ และสาเหตุเบื้องต้นที่ทำลงไปเพราะฝ่ายหญิงรักฝ่ายชายและปกปิดข้อมูล กระทั่งรู้ความจริงในวันที่เกิดเรื่อง โดยทั้งคู่เตรียมตัวไปขอโทษโรงพยาบาล ขอโทษสังคม ขอโทษประชาชน ขอโทษสื่อ ซึ่งในวันนั้นจะเปิดเผยข้อมูลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้านสูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช บอกว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะมาเกิดขึ้นกับโรงพยาบาล มองว่าการทำเช่นนี้นอกจากจะเป็นการทำลายชื่อเสียงของโรงพยาบาลแล้ว ยังทำให้ทีมแพทย์-เจ้าหน้าที่เสียขวัญและกำลังใจ

สำหรับการแจ้งความคดีที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี พนักงานสอบสวนแบ่งเรื่องนี้เป็น 2 กรณี คือ 1.ต้องรอให้โรงพยาบาลรวบรวมพยานหลักฐานแล้วแจ้งความดำเนินคดี และ 2. สภ.เมืองสุพรรณบุรี จะรวบรวมหลักฐานของโรงพยาบาลเพื่อดำเนินการกรณีแจ้งความเท็จเช่นกัน


ไปย้อนดูเรื่องราวดังกล่าว เริ่มจากโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่พ่อเด็กไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กขณะกำลังเปิดโลงศพลูกที่เสียชีวิต อ้างว่าโรงพยาบาลนำร่างบรรจุในโลงศพส่งมาให้ พร้อมกำชับไม่ให้เปิดโลงออกเพราะกลัวติดเชื้อ แต่รู้สึกแปลกใจจึงลองเปิดโลงตรวจสอบดู กลับพบว่าในโลงมีเพียงผ้าขนหนูและเสื้อผ้า ไม่มีศพของลูก

ขณะที่แม่เด็กอ้างว่า หมอได้ฉีดยาเร่งคลอด ทำให้เด็กออกมาก่อนกำหนด เมื่อคลอดแล้วนำเด็กเข้าตู้อบ ซึ่งลูกของตนนั้นเป็นแฝด ชาย 1 คน หญิง 1 คน แต่พบว่าเด็กเสียชีวิตไป 1 คน ส่วนอีกคนให้ไปรับทีหลัง และตอนนี้เด็กอีกคนก็หายไปด้วย จึงไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรีเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ผู้เป็นแม่ให้ข้อมูลตำรวจว่า ศพลูกชายหายไป หลังรับจากโรงพยาบาลเพื่อกลับไปทำพิธีฌาปนกิจ พร้อมอ้างว่าเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ได้คลอดลูกแฝดที่โรงพยาบาลบางปลาม้า ต่อมาลูกผู้ชายมีน้ำหนักน้อย โรงพยาบาลจึงแนะนำให้ส่งต่อโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จากนั้นได้อ้างว่า ถึงวันที่ 17 พฤษภาคม โรงพยาบาลแจ้งว่าเด็กหัวใจเต้นผิดจังหวะและหยุดหายใจ จากนั้นวันที่ 18 พฤษภาคม ได้รับแจ้งว่าเด็กเสียชีวิต จึงนำมาบำเพ็ญกุศลที่วัดสวนแตง วันที่ 20 พฤษภาคม เวลา 16.00 น. แต่ปรากฏว่าภายในโลงไม่มีศพเด็ก ผู้เป็นแม่อ้างว่าโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราชประสานชดใช้ค่าเสียหาย 500,000 บาท แต่ยังติดใจสงสัยว่าเหตุใดไม่มีศพเด็กในโลง จึงไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน

ในเวลาต่อมาโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช ได้เชิญพ่อแม่เด็กมาสอบถาม พร้อมตรวจสอบไปยังโรงพยาบาลบางปลาม้า ซึ่งได้รับการยืนยันว่าในช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีการรับทำคลอด และไม่มีการทำเรื่องส่งตัวเด็กมารักษาต่อที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช แต่เพื่อความสบายใจ จึงให้พ่อแม่เด็กไปดูกล้องวงจรปิดในช่วงเวลาที่อ้างว่ามารับเด็ก ซึ่งไม่มีภาพของแม่ที่อ้างว่าไปรับศพลูก มีเพียงภาพรถของพ่อเด็กที่ขับวนเข้ามาในโรงพยาบาล และมีแม่เด็กยืนสะพายกระเป๋า อุ้มห่อผ้า ก่อนเดินขึ้นรถ

นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังให้ขึ้นไปดูที่ห้องเด็กที่แม่อ้างว่า ลูกสาวคู่แฝดอีกคนอยู่ แต่ไม่พบ และไม่มีรายชื่อเด็กอยู่ในห้อง ส่วนรูปภาพแฝดเด็กหญิงอีกคนที่ทางแม่อ้างว่าได้ให้พยาบาลเข้าไปถ่ายรูปให้โดยใช้มือถือแม่ถ่าย จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรูปมาจากอินเทอร์เน็ต. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งกลาโหมประสานผู้ว่าฯ ช่วยน้ำท่วมเชียงราย

ทำเนียบ 27 มิ.ย.-นายกฯ สั่งกลาโหม ประสานความร่วมมือ ผู้ว่าฯ จัดกำลังพลและอุปกรณ์ช่วยน้ำท่วมเชียงราย ขอ ประชาชนติดตามข่าวสาร Cell Broadcast ยัน รัฐบาลเตรียมแผนงานไว้แล้ว ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียล ระบุเนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมเชียงราย ขณะนี้ฝ่ายปกครอง ปภ.เขต/จังหวัด และนายอำเภอได้ลงพื้นที่เพื่อเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งการขนย้ายสิ่งของสำคัญขึ้นที่สูง อพยพประชาชนไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่ ดิฉันได้สั่งการเพิ่มเติมให้กระทรวงกลาโหม ประสานความร่วมมือช่วยเหลือด้านกำลังพลและอุปกรณ์ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างรวดเร็ว ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ ปภ. ดูแลจัดเตรียมสิ่งของอุปโภคบริโภค ให้ทางกระทรวงสาธารณสุขเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ให้พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงดีอี โดยเฉพาะกรมอุตุนิยมวิทยา ประเมินสถานการณ์และแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบเป็นระยะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวสารจากทางราชการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะผ่านทั้งทาง Cell Broadcast และการแจ้งข่าวโดยตรงจากในพื้นที่ค่ะ ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องประชาชนที่กำลังประสบภัยและเจ้าหน้าที่ทุกท่านขณะนี้ รัฐบาลจะดูแลทุกชีวิตอย่างดีที่สุดค่ะ และนี่เป็นอีกครั้งที่ยืนยันว่าการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบจะต้องเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งรัฐบาลเตรียมแผนงานไว้แล้ว.-316.-สำนักข่าวไทย

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

“ภูมิธรรม” บอกไม่ฟัง “ฮุน เซน” วอนคนไทยอย่าให้เขาปั่น

ทำเนียบ 27 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” บอกไม่ฟัง “ฮุน เซน” ไม่รู้จะฟังทำไม แปลไม่ออก วอนคนไทยอย่าให้เขาปั่น เป็นสงครามข่าวสาร-จิตวิทยา หวังต่างชาติสนใจ เผย กต.ติดตามอยู่ หากกระทบไทย พร้อมเอาผิดตามกฎหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการไลฟ์ของสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่า ยังไม่ได้ฟังคลิปเสียงของสมเด็จฯ ฮุน เซน และ ตนไม่สนใจฟัง เพราะหลายอย่างก็พูดกลับไปกลับมา เช่น เรื่องปิดด่าน ซึ่งถ้ามีความจริงใจ หรือซื่อตรง กับสิ่งที่ได้กระทำก็คงพูดให้ชัดเจน ก็เห็นว่าท่านก็ว่าของท่านไป ตนก็ฟังไม่ออกด้วย ไม่รู้จะไปฟังทำไม เพราะฟังไม่ออก ส่วนถ้ามีการเปิดคลิปเสียงลับที่อ้างว่ามีหลายเรื่องที่กระทบกับประเทศไทยนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่สนใจเลย เพราะมันไม่เกี่ยวอะไรกับรัฐบาล และเราก็ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร สิ่งที่ชัดเจนขณะนี้เขากำลังเล่นสงครามข่าวสารและสงครามจิตวิทยา และสิ่งต่างๆที่เขาทำอยู่เพื่อจะบั่นทอนศักยภาพและความน่าเชื่อถือของรัฐบาลไทย ซึ่งถ้ารัฐบาลไทยสั่นคลอนเขาจะได้ประโยชน์สูงสุด นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการและหวังไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดินหรือชายแดนต่างๆ ซึ่งเขาจะสามารถดำเนินการได้ ในขณะที่รัฐบาลไทยมีปัญหา จึงอยากขอความวิงวอน เรายืนอยู่บนหลักของเราและดำเนินการต่างๆ ถ้าอยากจะเปิดอะไรออกมาก็เปิด ถ้าอะไรมีปัญหาก็ว่าไปตามกฎหมาย แต่ตนเชื่อว่าไม่มีอะไรเลย […]

มือปืนเรียกชื่อก่อนรัวยิง “เสี่ยเปี๊ยก” ดับต่อหน้าภรรยา

กาญจนบุรี 26 มิ.ย. – สุดโหด! 2 คนร้ายเรียกชื่อก่อนรัวยิงไม่นับ สังหาร “เสี่ยเปี๊ยก” นักธุรกิจและผู้กว้างขวางเมืองกาญจนบุรี เสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ตำรวจพุ่ง 3 ปม “ชู้สาว-ขัดแย้งส่วนตัว-ธุรกิจ” ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีสังหารนายสิทธิกร หรือ เสี่ยเปี๊ยก อายุ 51 ปี ในขณะที่เสี่ยเปี๊ยกเดินมากับภรรยา กำลังจะขึ้นรถกระบะสีดำ จังหวะที่เสี่ยเปี๊ยกจะเปิดประตูฝั่งคนขับ คนร้าย 2 คน ลงมาจากรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กัน คนแรกเรียกชื่อ “เสี่ยเปี๊ยก” พร้อมกับเดินตรงเข้าไปใช้ปืนจ่อยิงศีรษะเสี่ยเปี๊ยกหลายนัดจนล้มลง ก่อนคนร้ายอีกคนเดินตามกระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด จากนั้นพากันขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนภรรยาของเสี่ยเปี๊ยกเดินอ้อมมาเห็นศพสามีก็กรีดร้องด้วยความตกใจ ตะโกนขอความช่วยเหลือ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังริมถนนบายพาส (เลี่ยงเมือง) จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (25 มิ.ย.) ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตรวจสอบสภาพศพเสี่ยเปี๊ยก พบร่องรอยกระสุนเจาะเข้าตามศีรษะ ใบหน้า ต้นคอ ลำตัว และแขน รวม […]