จ่อหมายจับ “บังหนี” หนึ่งในทีมสังหาร “เสี่ยสุชาติ”

กระบี่ 16 พ.ค. – ตำรวจเตรียมขอออกหมายจับ “บังหนี” หนึ่งในทีมฆาตกรรมอำพราง “เสี่ยสุชาติ” เจ้าของร้านอาหารและฟิชชิ่งใน อ.ทับ จ.กระบี่ และเร่งล่า 2 พี่น้องผู้ต้องหาคนสำคัญ ขณะที่ผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัวไปก่อนหน้านี้ ยอมรับร่วมพาผู้ตายไปในสวนปาล์ม ดูการเผารถเก๋งผู้ตายด้วย


คดีสังหารโหดนายสุชาติ ขาวล้วนอายุ 54 ปี เจ้าของร้านอาหารและฟิชชิ่ง ใน อ.ทับ จ.กระบี่ พนักงานสอบสวน สภ.ลำทับ สภ.อ่าวนาง และ สภ.กระบี่ เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาเกี่ยวกับคดีอีก 1 คน คือ นายบังหนี (ไม่ทราบสกุล) หลังเมื่อ 14 พฤษภาคม นายสุวิทย์ หรือบังเลาะ เริงสมุทร อายุ 26 ปี 1 ใน 3 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับได้เข้ามอบตัว

สอบสวนนายสุวิทย์ ให้การว่า ร่วมกับนายสุริยา หรือ บังฟิต เริงสมุทร นายสุรชัย เริงสมุทร หรือ กิบหลี พี่ชาย และนายบังหนี พาตัวนายสุชาติ นั่งรถกระบะอีซูซุเปิดแคปสีขาว ทะเบียน บพ 8680 กระบี่ ของบังฟิต ไปที่สวนยางใกล้จุดฝังศพในพื้นที่ ม.1 บ้านหนอง ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ เมื่อ 6 โมงเย็น โดยบังฟิตเป็นคนขับ ตนนั่งข้างผู้ตายนั่งอยู่เบาะหลัง มีนายกิบหลีและนายบังหนีนั่งขนาบข้าง เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ นายกิบหลีและนายบังหนี ให้นายสุชาติ ผู้ตาย ลงจากรถไปนั่งที่จุดเกิดเหตุจากนั้นบังฟิตได้ใช้ปืนจ่อยิงนายสุชาติ 3 นัด จนเสียชีวิต ก่อนช่วยกันนำศพไปฝัง โดยขณะที่ผู้ตายถูกยิง ตนอยู่ข้างรถกระบะอีกฝั่ง ไม่เห็นเหตุกาณ์ เมื่อกลับมาที่บ้านบังฟิตนำรถเก๋งผู้ตายไปเผาโดยจ้างรถแบ็กโฮที่กำลังปรับพื้นที่สวนยางใกล้ๆ จุดเกิดเหตุทำการขุดเปิดปากหลุมใช้รถแบ็กโอดันรถเก่งผู้ตายลงไปในหลุม แล้วจุดไฟเผาก่อนฝังกลบ โดยเอาทางปาล์มปิดทับด้านบน ส่วนสาเหตุที่ต้องร่วมก่อเหตุ เพราะบังฟิตชวนไปและกลัวบังฟิตจนไม่กล้าปฏิเสธ หลังทราบว่าถูกออกหมายจึงมามอบตัว และเจ้าหน้าที่นำชี้จุดเกิดเหตุเมื่อวานนี้ (15 พ.ค.)


ขณะที่การติดตามตัวนายสุริยา หรือ “บังฟิต” และนายสุรชัย หรือ “บังกิบหลี” เริงสมุทร พี่ชาย ที่ยังหลบหนี มีกำลังกองปราบ พร้อมชุดสืบฯ ภาค 8, สืบฯ ภูธรกระบี่, ตำรวจ สภ.อ่าวนาง และหน่วยปฏิบัติการพิเศษเกือบ 100 นาย พร้อมอาวุธครบมือ ปฏิบัติการปิดล้อมเขาลูกไฟ พื้นที่รอยต่อหมู่ 4 และ หมู่ 1 ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ หลังพบเบาะแสว่านายสุริยา หรือ “บังฟิต” และนายสุรชัย หรือ “บังกิบหลี” เริงสมุทร พี่ชาย หนีไปอยู่ในถ้ำบนเขา เจ้าหน้าที่แบ่งกำลังเป็น 3 ชุด เข้าปิดล้อมเพื่อหาเส้นทางขึ้นเนินเขา หลังมีพยานบอกว่าจุดดังกล่าวเป็นถ้ำขนาดใหญ่ และมีคนขี่มอเตอร์ไซค์นำสิ่งของขึ้นไปบนเขาในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ต้องสวมเสื้อเกราะเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากทราบว่าผู้ต้องหามีปืน และก่อนถึงภูเขาพบบ้านหลังหนึ่งปลูกในสวนยาง จึงตรวจค้นแต่ไม่มีคนอยู่ จากนั้นได้กระจายกำลังปิดล้อมภูเขา ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง แต่ไม่พบตัว

ญาติ “เสี่ยสุชาติ” ยังไม่เผาศพ รอผลนิติวิทยาศาสตร์
ฝั่งนายสุชาติ ผู้ตาย ที่บริเวณร้านอาหารขาวล้วนโภชนา ม.5 ต.ลำทับ อ.ลำทับ ญาตินายสุชาติ ผู้ตายได้ จัดเตรียมสถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศล หลังนำศพกลับจากสถาบันนิติเวช รพ.สุราษฎร์ธานี และจะตั้งบำเพ็ญกุศล ตั้งแต่วันที่ 16-17 พ.ค. ส่วนพิธีฌาปนกิจยังไม่กำหนด โดยญาติระบุว่ายังไม่มีการเผาเพราะจะต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ก่อน

มีรายงานว่า ผลชันสูตรศพนายสุชาติอย่างไม่เป็นทางการ มีรอยกระสุน ทั้งหมด 3 รู แต่ไม่พบหัวกระสุนในตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบปลอกกระสุน 2 ปลอกเท่านั้น จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ อีกครั้งพบปลอกระสุนขนาด 9 มม.เพิ่มอีก 1 ปลอก อยู่ใต้ดินในจุดเกิดเหตุ คาดว่ากระสุนทั้ง 3 นัด ยิงทะลุร่างผู้ตาย


ด้าน พ.ต.อ.พิษณุ อัชนะพรกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เชื่อว่าผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้มีมากกว่า 5 คน มีการวางแผนมาอย่างดี ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลออกหมายจับแล้ว 3 คน คือ นายสุริยา หรือบังฟิต เริงสมุทร อายุ 32 ปี (หลบหนี) นายสุรชัย เริงสมุทร อายุ 38 ปี พี่ชาย (หลบหนี) และนายสุวิทย์ เริงสมุทร (มอบตัว) เมื่อที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างการติดตามตัวผู้ต้องหาบังฟิต และนายกิบหลี คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นจากลูกสาวของนายสุชาติ ขาวล้วน อายุ 54 ปี ร้องเรียนว่าพ่อหายตัวไป พร้อมรถเก๋งโตโยต้า โคโรนา สีขาว ทะเบียน กน 6552 กระบี่ ขณะไปติดตามทวงหนี้กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จำนวนเงิน 300,000 บาท จึงมีการสืบสวนสอบสวน ต่อมาพบรถเก๋งคันดังกล่าวถูกเผาฝังดินในสวนปาล์ม บ้านหนองแบก หมู่ 1 ต.หนองทะเล ห่างไปราว 700 เมตร พบศพนายสุชาติ ถูกราดด้วยน้ำกรด ฝังในหลุมลึก 1 เมตร ในสภาพศพถูกยิงที่ศีรษะและราวนมซ้ายรวม 2 นัด จากนั้นตำรวจจึงขอศาลอนุมัติหมายจับ 3 ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเครือญาติกัน ประกอบด้วยนายสุริยา เริงสมุทร หรือ “บังฟิต”, นายสุรชัย เริงสมุทร หรือ “บังกิบหลี” และนายสุวิทย์ เริงสมุทร ก่อนที่นายสุวิทย์จะชิงเข้ามอบตัวเมื่อคืนวันที่ 14 พฤษภาคม พร้อมให้การว่า “บังฟิต” เป็นคนจ่อยิงนายสุชาติ ส่วนตนเองช่วยนำศพไปฝัง . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รับ 22 แรงงานไทยสิ้นสุดการทำงานจากอิสราเอลกลับถึงไทย

23 มิ.ย.- ‘ปลัดฯ บุญสงค์’ รับ 22 แรงงานไทยสิ้นสุดระยะเวลาการทำงานจากอิสราเอลกลับถึงไทย ขณะที่ล่าสุดแจ้งขอกลับเพิ่ม 9 ราย วันที่ 23 มิถุนายน 2568 เวลา 20.00 น. นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน นายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน และคณะ รับและพบปะพูดคุยให้กำลังใจแรงงานไทยซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัท Chemo Aharon Ltd. จำนวน 22 ราย ที่ทำงานในภาคอุตสาหกรรม สัญญาจ้าง 2 ปี และเป็นกลุ่มแรงงานที่สิ้นสุดโปรเจคระยะสั้น จึงเดินทางกลับประเทศไทย โดย ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า แรงงานกลุ่มดังกล่าวมีกำหนดเดินทางกลับตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติ จึงทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ตามกำหนด โดยทางบริษัท […]

กองทัพสั่งปิด 6 ด่าน 10 จุดผ่อนปรน ชายแดนไทย-กัมพูชา

23 มิ.ย.- “กองทัพ” สั่งปิด 6 ด่าน 10 จุดผ่อนปรน ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยกเว้นช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม-นักเรียน วันที่ 23 มิ.ย.68 เวลา 19.10 น. กองทัพภาคที่ 1 ได้เผยแพร่คำสั่งกองทัพภาคที่ 1 เรื่องควบคุมการเปิด – ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท ลงนามโดย พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 สำหรับเนื้อหาระบุว่า เนื่องด้วยปัจจุบัน ปรากฏข่าวสารทหารกัมพูชามีการรุกลํ้าอธิปไตยในพื้นที่ของประเทศไทยโดยการลาดตระเวน ปรับปรุงที่มั่น และดัดแปลงภูมิประเทศ รวมถึงมีการนำประชาชนเข้ามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ความปลอดภัยของประชาชนตามแนชายแดนได้รับความเดือดร้อน และเกิดความตึงเครียด จากสถานการณ์ดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ที่เดินทางข้ามแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 รวมถึงยังปรากฎการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการ Call Center และ Hybrid Scamซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในประเทศ และในภูมิภาคเป็นวงกว้าง กองทัพภาคที่ 1ในฐานะที่เป็นหน่วยรับผิดชอบพื้นที่แนวชายแดนไทย – […]

นายกฯ ขีดเส้น 3 เดือนเห็นผล แก้อาชญากรรมข้ามชาติ

ทำเนียบ 23 มิ.ย.- นายกฯ นำแถลงไทยประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ สั่งตัดอินเทอร์เน็ตที่ส่งให้หน่วยงานมั่นคงกัมพูชาทั้งหมด เข้มการเข้า-ออก จำกัดเวลาเปิดด่านชายแดนกัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด สกัดนักพนันบินไปเสียมราฐ จ่อระงับส่งออกน้ำมัน ด้านทหาร-ตำรวจ จับมือ ปปง. คว่ำบาตรขบวนการฟอกเงินข้ามประเทศ ขีดเส้น 3 เดือนสถิติแจ้งความต้องลดลง ไทยประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมอาสาเป็นเจ้าภาพร่วมมือนานาชาติ ขณะ “นายกฯ” สั่ง ตัดอินเทอร์เน็ตที่ส่งให้หน่วยงานมั่นคงกัมพูชาทั้งหมด เข้ม การเข้า-ออก จำกัดเวลาเปิดด่านชายแดนกัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด สกัดบินเล่นพนัน – จ่อระงับส่งออกน้ำมัน ด้าน ทหารตำรวจ จับ มือ ปปง.คว่ำบาตร กระบวนการฟอกเงินข้ามประเทศ ขีดเส้น 3 เดือน เห็นผล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า รัฐบาลประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยที่ไทยอาสาเป็นเจ้าภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในการหาความร่วมมือกับนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงความเชื่อมั่นของประเทศไทยในระดับนานาชาติ […]

ผบ.ตร.ยันเอาผิด “ฮุน เซน” ได้หรือไม่ขึ้นกับพยานหลักฐาน

23 มิ.ย. – ผบ.ตร. ระบุสอบสวนปมคลิปเสียง “ฮุน เซน” อาจเชิญนายกฯ ไทย ขึ้นอยู่กับดุลพินิจพนักงานสอบสวน ส่วนการดำเนินคดีเอาผิด “ฮุน เซน” ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และอดีต ผบ.ตร. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา (อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา) ในความผิดต่อกฎหมายไทย ว่าก่อนหน้านี้ทางเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เดินทางมาเพื่อขอให้ดำเนินคดีกับผู้นำของประเทศกัมพูชา ตนเองเชื่อว่าทั้งหมดมีความรักชาติ รักแผ่นดิน จึงมีการนำข้อมูลมามอบให้กับตำรวจ แต่ต้องยอมรับว่า 2 กรณีเป็นคนละเหตุการณ์ และเกิดในพื้นที่แตกต่างกัน ย้ำตำรวจไม่หนักใจ และได้สั่งการให้หน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เกี่ยวข้องนำเรื่องไปพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจเพื่อนำมาเสนอกลับให้ตนเอง การที่มีหลักฐานต่างๆ ยิ่งเป็นเรื่องดี เพื่อยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ต่อให้เป็นเรื่องนอกราชอาณาจักร ส่วนจะมีการสอบปากคำในส่วนของผู้ถูกกล่าวถึง อย่างสมเด็จฮุน เซน ด้วยหรือไม่นั้น การจะเอาผิดได้หรือไม่อยู่ที่การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน แต่เบื้องต้นต้องสอบสวนในส่วนของผู้กล่าวหาก่อน ส่วนข้อมูลของอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะสามารถเอาผิดผู้นำประเทศกัมพูชา ได้หรือไม่ต้องเป็นการพิจารณาของพนักงานสอบสวนก่อนเช่นกัน ส่วนกรณีที่นายสมคิด เชื้อคง […]