พบผู้สูญหายเหตุเรือเฟอร์รี่ล่มแล้ว 4 ราย เร่งค้นหาอีก 3

เกาะสมุย 2 ส.ค. – ความคืบหน้าเหตุเรือเฟอร์รี่ล่มกลางทะเลสมุย กลางดึกที่ผ่านมา ที่มีผู้สูญหาย 7 คน ล่าสุดพบแล้ว 4 รอดชีวิต 2 ตาย 2 เจ้าหน้าที่ยังเร่งค้นหาผู้สูญหายที่เหลืออีก 3 ราย ขณะที่ผู้ว่าเตรียมประสานหน่วยซีล จากกองทัพเรือมาช่วยดำค้นหาในเรือ


นี่เป็นภาพเหตุการณ์ขณะเรือเฟอร์รี่ ราชา 4 กำลังจมลงใต้ทะเล หลังออกเดินทางจากเกาะสมุยได้ไม่นาน โดยคลิปนี้ถ่ายโดยคนที่อยู่บนเรือ ซึ่งในภาพจะเห็นเรือซึ่งบรรทุกรถพ่วง 18 ล้อ ค่อยๆ เอียงขวา จากนั้นก็มีความอลหม่านหนีตายเอาตัวรอดของผู้ที่อยู่ในเรือ

เหตุเรือเฟอร์รี่ล่มครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยเรือลำนี้บรรทุกรถพ่วง 18 ล้อ จำนวน 3 คัน และรถกระบะอีก 1 คัน พร้อมลูกเรือและผู้โดยสารออกจากท่าเทียบเรือเกาะสมุย มุ่งหน้าสู่ท่าเทียบเรือ อ.ดอนสัก จ.สุราษฏร์ธานี แต่ออกเดินทางได้เพียง 5 ไมล์ทะเล อยู่ระหว่างหมู่เกาะสี่เกาะห้า หมู่ที่ 2 ตำบลลิปะน้อย อำเภอเกาะสมุย ก็เจอกับคลื่นลมแรงพัดกระหน่ำ ทำให้น้ำทะเลเข้าไปในระวางเรือ เรือเสียการทรงตัวค่อยๆ จมลงทะเล


หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ให้ความช่วยเหลือลูกเรือ 9 รายที่ลอยคออยู่ในทะเลขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย ส่วนอีก 7 รายสูญหาย วันนี้เจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนระดมกำลังนำเรือออกค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้า ล่าสุด พบผู้สูญหายแล้ว 4 ราย โดย 2 รายแรก คือ นายพชร ทิพย์รัตน์ ตำแหน่ง กลาสี และนายสุวิทย์ นรเศรษฐวรชัย ตำแหน่ง ผู้จัดการบริษัทรับเหมา ลอยคอไปติดอยู่ที่เกาะแตน ทางทิศใต้ของเกาะสมุย ทั้ง 2 คน ปลอดภัย แต่มีอาการอ่อนเพลียและมีบาดแผลบริเวณฝ่าเท้าเล็กน้อยชาวบ้านได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นนำอาหารและน้ำให้กิน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสมุย นายพชร ทิพย์รัตน์ กลาสีเรือ หนึ่งในผู้รอดชีวิตเล่าว่า ขณะเรือกำลังจะจม ตนได้ส่งเสื้อชูชีพให้ทุกคนที่อยู่บนเรือ หลังเรือจมตนก็ลอยคออยู่ในทะเล พยายามว่ายน้ำเข้าหาฝั่งจนหมดแรงและสลบไปกระทั่งรู้สึกตัวตอนเช้ามองเห็นฝั่งจึงว่ายน้ำเข้าฝั่ง

ส่วนอีก 2 ราย คือ นายเทวินทร์ สุราษฎร์ กัปตันเรือ พบเป็นศพที่เกาะมดแดง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1.8 กม.หรือ 1 ไมล์ทะเล สภาพไม่สวมเสื้อชูชีพ และ นางนภัรดา จันหาญ พนักงานขายของบนเรือ โดยพบศพที่เกาะแตน โดยเจ้าหน้าที่เร่งค้นหาผู้สูญหายที่เหลืออีก 3 รายคือ นายศิระวุธ ทองบุญยัง ต้นหลหรือช่างเรือ นายไชยชาญ เหล่าทรัพย์ คนขับรถ10ล้อ และนายทิวากรณ์ วัชรฤทธิ์ กลาสี

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ขณะนี้คลื่นลมในอ่าวไทยยังมีกำลังแรง จากผลอิทธิพลลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย คลื่นลมในทะเลสูง 1-1.5 เมตร ทำให้เป็นอุปสรรคในการค้นหา ซึ่งได้ประสานไปทางราชาเฟอร์รี่เพื่อขอทราบพิกัดเส้นทางเดินเรือที่แน่ชัดเพื่อนำทุ่นไปปักไว้ เมื่อคลื่นลมสงบจะได้ส่งทีมนักประดาน้ำเข้าช่วยค้นหา ในส่วนของทหารจากทัพเรือภาคที่ 2 กองทัพภาคที่ 4 และกองบิน 7 สนับสนุนเรือ และเฮลิคอปเตอร์ช่วยการออกค้นหาในครั้งนี้ด้วย โดยหลังพบศพ 2 ผู้เสียชีวิต นายวิชวุทย์ ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมระบุ กัปตันเรือผู้เสียชีวิต ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อให้ลูกเรือและผู้โดยสารปลอดภัย ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาในส่วนของทางราชการ ได้สั่งการให้สำนักงานประกันสังคมดูแลแล้ว ส่วนค่าชดเชยอื่นๆ บริษัทเรือรับปากจะดูแลอย่างเต็มที่


นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดยังเผยอีกว่า ตั้งแต่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนภัยถึงอิทธิพลของพายุโซนร้อน ซินลากู ได้ขอให้เรือเล็กงดออกจากฝั่ง ส่วนเรือขนาดใหญ่ขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง สำหรับเรือนอนที่เดินทางจากตัวเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานีไปยังเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ได้สั่งการให้งดเดินเรือตั้งแต่เวลา 17.00 น.ของวันนี้ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง และเตรียมนำชุดประดาน้ำ ซึ่งเป็นหน่วยซีลจากกองทัพเรือมาดำค้นหาผู้ที่อาจติดอยู่ภายในเรือที่จมอยู่ใต้ทะเล คาดว่าจะเป็น นายศิระวุธ ทองบุญยัง ตำแหน่งช่างเครื่อง เพราะผู้ที่รอดชีวิตเล่าว่าได้ร้องตะโกนเรียกนายศิระวุธ ให้ออกจากห้องเครื่องเพื่อหนี แต่นายศิระวุธ ได้ตะโกนกลับมาว่าจะตามออกมา แต่ถึงขณะนี้ยังไม่พบนายศิระวุธ

ด้านนายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนี้จะเร่งกู้เรือขึ้นมา พร้อมทั้งตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้น ยืนยันบริษัทฯ จะดูแลลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมดอย่างเต็มที่

ขณะที่ท่าเทียบเรือฝั่ง อ.ดอนสัก ข้ามไปเกาะสมุย และเกาะสมุย-ดอนสักยังสามารถเดินทางได้ตามปกติ มีผู้โดยสารเดินทางเข้าออกต่อเนื่องขณะที่สภาพอากาศในช่วงเช้ามีฝนโปรยปรายอยู่บ้าง และคลื่นลมไม่แรง ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังเตือนเรือเล็กงดออกจากฝั่งโดยเด็ดขาดแต่ในส่วนของเรือใหญ่ยังเดินเรือปกติด้วยความระมัดระวังมากขึ้น .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-กลาง-ตะวันออก ฝนตกหนักบางแห่ง กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย