สถานการณ์น้ำเพิ่มสูงในหลายพื้นที่

สำนักข่าวไทย 17 ส.ค. – สถานการณ์น้ำเพิ่มสูงขึ้นหลายพื้นที่ โดยที่ จ.หนองคาย น้ำโขงน้ำมูลขยับสูงต่อเนื่อง ขณะที่กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนใหญ่รวม 4 เขื่อนแล้ว


สถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยา เช้านี้ น้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 จ.นครสวรรค์ มีปริมาณ 1,405 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 18 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ระบายน้ำท้ายเขื่อน 1,207 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 7 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อน ที่ อ.เมืองชัยนาท สูงขึ้น 31 เซนติเมตร น้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา สูงขึ้น 3 เซนติเมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 4 เมตร 64 เซนติเมตร ส่วนน้ำผันเข้าระบบชลประทานสองฝั่งเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ลดการส่งน้ำเข้าคลองจาก 276 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เหลือ 244 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อไม่ให้กระทบพื้นที่เกษตรในช่วงเก็บเกี่ยว

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน สั่งการให้สำนักงานชลประทานทุกแห่งเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนใหญ่ที่มีปริมาณสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำ โดยเฉพาะ 10 เขื่อนตามการแจ้งเตือนของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่งัดสมบูรณ์ชล จ.เชียงใหม่ กิ่วลม และกิ่วคอหมา จ.ลำปาง แควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น น้ำพุง จ.สกลนคร ป่าสักชลสิทธิ์ จ.สระบุรี บางพระ จ.ชลบุรี และหนองปลาไหล จ.ระยอง รวมถึงบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ กรมชลประทานได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และแควน้อยบำรุงแดน รวมถึงประสานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์ จ. กาญจนบุรี กำชับให้บริหารน้ำโดยให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่เกษตรท้ายน้ำให้น้อยที่สุด


นอกจากนี้ แนวโน้มจะมีพายุเข้าในช่วงเดือนกันยายนต่อเนื่องเดือนตุลาคมนี้ ที่จะเคลื่อนตัวผ่านพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือล่าง และภาคกลางตอนบนนั้น ย้ำให้โครงการชลประทานทุกแห่งเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดเพื่อบริหารจัดการน้ำในเขื่อนและพื้นที่ในลุ่มน้ำต่าง ๆ พร้อมนำเครื่องจักรเครื่องมือเข้าเสริมความสูงและความแข็งแรงของคันกั้นน้ำ ป้องกันน้ำล้นตลิ่ง หรือคันพังเพราะดินอุ้มน้ำไว้นานแล้วไหลเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรได้

ส่วนที่จังหวัดหนองคาย ระดับน้ำโขงยังปรับตัวสูงขึ้น วัดได้ที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ 9.13 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานตอนเช้า 40 เซนติเมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 3.07 เมตร ส่วนน้ำที่ไหลผ่าน อ.เชียงคาน จ.เลย มีระดับ 11.96 เมตร เพิ่มขึ้น 50 เมตร และสถานการณ์น้ำโขงยังสูงขึ้นต่อเนื่องไปอีกระยะ จากน้ำตอนเหนือที่มีมาก และเขื่อนไซยะบุรี สปป.ลาว ยังระบายน้ำลงท้ายเขื่อน ซึ่งส่งผลให้ 7 จังหวัดริมแม่น้ำโขงได้รับผลกระทบ ชาวบ้านออกจับปลาไม่ได้ เพราะในแม่น้ำโขงมีเศษกิ่งไม้ ขอนไม้ไหลมาด้วย กระแทกจนอวนขาด ต้องหันมายกยออยู่ริมฝั่งโขงแทน ทำให้ได้ปลาลดลงขายได้ราคาน้อยลง

นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เข้าตรวจระดับน้ำแม่น้ำมูลเริ่มเอ่อท่วมจุดต่ำสุดของชุมชนวังแดง ในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่สำนักงานชลประทานที่ 7 นำกระสอบทรายวางเป็นทางใช้สัญจรในชุมชน พร้อมตั้งเต็นท์ในสวนสาธารณะห้วยม่วง เตรียมพร้อมให้ประชาชนอพยพหนีน้ำ หากแม่น้ำมูลปรับสูงขึ้นอีกใน 1-2 วันนี้


ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวด้วยว่า สถานการณ์แม่น้ำมูลที่ไหลผ่านตัวเมือง เนื่องจากมีฝนตกและมีน้ำจากด้านเหนือ ทั้งจากแม่น้ำชี และแม่น้ำมูลไหลลงมาสมทบกันในเขตอำเภอเมืองและอำเภอวารินชำราบ ก่อนไหลสู่แม่น้ำโขง ทำให้แม่น้ำมูล มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละเกือบ 10 เซนติเมตร หากสัปดาห์นี้ ยังมีน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จะส่งผลกระทบกับชุมชนลุ่มต่ำสองฝั่งแม่น้ำมูล ซึ่งได้เตรียมเครื่องผลักดันน้ำไปติดตั้งที่สะพานแก่งสะพือ อำเภอพิบูลมังสาหาร เร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขง เพราะเขื่อนปากมูลมีการแขวนบานประตูน้ำทั้ง 8 บาน และแม่น้ำโขงมีระดับน้ำต่ำกว่าแม่น้ำมูลถึงกว่า 10 เมตร เพื่อลดระดับน้ำที่จะไหลท่วมชุมชนดังกล่าว สำหรับแม่น้ำมูลวันนี้ 5.38 เมตร สูงจากเมื่อวาน 5 เซนติเมตร ห่างจากตลิ่ง 1.62 เมตร

เจ้าหน้าที่ สำนักระบายน้ำ กทม. วัดระดับน้ำ ในคลองประเวศบุรีรีรมย์ เขตประเวศ อยู่ที่ +0.49 สถานะระดับเตือนภัย ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนในเขตประเวศ ลาดกระบัง ที่อาศัยริมคลองและอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ จากฝนที่ตกลงมาหนักสะสมในพื้นที่ในช่วง 2-3 วันมานี้ ประกอบกับระดับน้ำในคลองประเวศที่มีระดับสูง ทำให้ส่งผลกระทบกับการระบายออก ทำให้หากมีฝนตกลงมาเพิ่มก็จะเอ่อท่วมถนน และบ้านเรือนที่อยู่ใกล้เคียงกับคลอง
ทีมข่าวสำรวจในจุดที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักในซอยอ่อนนุช 80 วันนี้พบว่า ถนนเส้นกลางซอยที่เป็นพื้นที่ต่ำระยะทาง 200-300 เมตร มีน้ำท่วม 10 เซนติเมตร และน้ำที่ท่วมเข้าบ้านหลายหลัง ยังระบายออกไม่หมด และเริ่มมีกลิ่นเน่าเหม็น โดย กทม.เดินเครื่องสูบน้ำที่สถานีสูบน้ำประเวศ ลงคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต และผลักดันลงทะเล ที่สมุทรปราการ ซึ่งยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่องในช่วง 19-21 ส.ค.นี้ ที่จะมีฝนตกหนักอีก

ขณะที่ ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ระบุมีแนวโน้มพายุเข้าไทยในช่วงเดือน ก.ย.ต่อเนื่องถึง ต.ค.นี้ ทิศทางเคลื่อนตัวผ่านพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือล่าง และภาคกลางตอนบน โดยอาจส่งผลต่อปริมาณน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศบ.ทก. เผย GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย จ่อชง สมช.-ครม.นัดพิเศษ

ทำเนียบ 6 ส.ค.- ศบ.ทก. เผยข่าวดี ที่ประชุม GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย พร้อมเตรียมเสนอให้ สมช. – ครม. นัดพิเศษ พิจารณาเย็นนี้ ก่อน รมช.กห. เดินทางร่วมลงนามพรุ่งนี้ ด้าน กต. เตรียมประชุมทูตทั่วโลก เพื่อชี้แจงสถานการณ์ให้นานาชาติเข้าใจ หลังพาองค์การระหว่างประเทศเยี่ยม 18 เชลยศึก ขณะที่ผ่อนปรนให้โดรนเพื่อการเกษตรบินได้หลัง 15 ส.ค.นี้ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทบ.) และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับนางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ภายหลังจากการประชุมความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือตรีสุรสันต์ แถลงว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในส่วนของความมั่นคงในห้วงที่ผ่านมา สถานการณ์โดยทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ มีการเสริมที่มั่นทางทหารในพื้นที่บางส่วน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่มีการเสริมกำลังทหารแต่อย่างใด ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเช่นเดียวกันก็มีการตรวจพบว่ามีการใช้โดรนเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในสถานการณ์ไทยห้ามบินโดรนทั่วประเทศ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงยังเข้มงวดในการสกัดกั้น ตรวจตรา ตรวจสอบ รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 15 […]

กกพ.จี้ MEA แจงปัญหาไฟดับ

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จี้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) แจ้งปัญหาไฟดับเป็นบริเวณกว้าง ด้านประชาชนแห่คอมเมนต์ผลกระทบและต้องการเห็นการชดเชย จากปัญหาความเดือดร้อนคนกรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ส.ค.) เวลา 22.12 น. เกิดไฟดับเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ย่านสะพานควาย เขตพญาไท ถ.ประดิพัทธ์ และ ถ.พระรามที่ 6 และ MEA แก้ไขจนจ่ายครบเวลา 23.50 น. ทางสำนักงาน กกพ.แจ้งว่าได้ประสานให้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) รายงานข้อเท็จจริง และแนวทางการแก้ไขและป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ในขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่างระบุเดือดร้อนจากเหตุไฟดับ ต้องการให้ MEA ชี้แจงสาเหตุที่ชัดเจน บางส่วนก็ชื่นชม แก้ปัญหาได้รวดเร็ว บางส่วนก็ต้องการเห็น การชดเชยจาก MEA เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและมีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยไฟดับทั้งอาคาร ดับทั้งไฟสาธารณะ ไฟจราจร สัญญาณอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ MEA ชี้แจงเบื้องต้นสาเหตุเกิดจากความขัดข้องทางเทคนิคของอุปกรณ์ในสถานีไฟฟ้าย่อย ในระหว่างการเตรียมการเพื่อปฏิบัติงานปรับปรุงระบบจ่ายไฟฟ้าตามปกติ, ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือภัยคุกคามทางไซเบอร์ สาเหตุที่แท้จริงของอุปกรณ์ขัดข้องจะชี้แจงต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า […]

ตำรวจเตรียมสอบเชิงลึกชาย BHQ หวั่นเป็นไส้ศึก

บุรีรัมย์ 6 ส.ค.-ตำรวจ สอบปากคำชายชาวกัมพูชา พบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ อ้างเคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับ กรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมชายชาวกัมพูชา ได้ที่บ้านพักภรรยาคนไทยและมีเครื่องแบบทหารพร้อมตราสัญลักษณ์ BHQ จากการสอบปากคำ เคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว มาทำงานอยู่ไทย แล้วถูกสวมชื่อ จากการตรวจสอบพบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ ซึ่งแต่ละชื่อไม่ตรงกัน และอ้างว่าเมื่อก่อนเข้ามาอย่างถูกต้อง แต่ล่าสุดมีการลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติทาง จ.สระแก้ว โดยอ้างว่าจ่ายเงินบุคคลที่พาเข้า 4,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงว่าอาจจะแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับคอยส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความมั่นคงของไทย ไปให้ฝั่งกัมพูชา จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์พบมีรูปถ่ายกายแต่งกายทหารและถือปืน เบื้องต้นทางตำรวจจะดำเนินคดีมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย

GBC หารือใหม่เช้านี้ หลังเมื่อคืนถกถึงเที่ยงคืน

มาเลเซีย 6 ส.ค.-GBC ประชุมใหม่เช้านี้ หลังเมื่อคืน ฝ่ายกัมพูชา ไม่สามารถตัดสินตกลงใจได้ในบางหัวข้อและต้องส่งกลับไปให้พนมเปญพิจารณาต่อ การหารือภายใต้กรอบ GBC ณ เวลา 07.45 น. วันนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) เมื่อคืน คณะเลขานุการ GBC ของทั้งสองฝ่าย ได้เจรจากันถึงเวลา 00.15 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ในบางประเด็นสุดท้าย เนื่องจากฝ่ายเลขานุการ GBC ของฝ่ายกัมพูชา ไม่สามารถตัดสินตกลงใจได้ในบางหัวข้อและต้องส่งกลับไปให้พนมเปญพิจารณาต่อ จึงได้นัดประชุมอีกครั้ง เวลา 08.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) วันนี้ เพื่อหาข้อสรุปสำหรับประเด็นดังกล่าว โดยเมื่อเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีช่วยกลาโหม ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับคณะเลขานุการ GBC ของฝ่ายไทยติดตามความคืบหน้าในการเจรจา ให้กำลังใจ และชื่นชมในการทำงานอย่างหนักถึงวินาทีสุดท้ายของทีมไทยแลนด์ ขอให้ประสบความสำเร็จในการเจรจา เพื่อบรรลุผลและปกป้องผลประโยชน์ของไทย.-สำนักข่าวไทย