เฝ้าระวังระดับน้ำ 7 จังหวัดริมแม่น้ำโขงสูงขึ้น

ภูมิภาค 14 ส.ค. – ระดับน้ำโขงที่ไหลผ่าน จ.หนองคาย อ.เชียงคาน จ.เลย และบึงกาฬ สูงขึ้น ด้าน สทนช. แจ้งเตือน 7 จังหวัดริมแม่น้ำโขง เฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำเปลี่ยนแปลง หลังมีฝนตกหนักต่อเนื่องบริเวณเหนือพื้นที่แขวงหลวงพระบาง สปป ลาว


นี่เป็นระดับน้ำในแม่น้ำโขงล่าสุดที่ไหลผ่าน จ.หนองคาย ซึ่งวัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด วัดได้ 7.55 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ (13 ส.ค.) ตอนเช้า 1.33 เมตร หลังจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประกาศเตือนเฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำเปลี่ยนแปลงในแม่น้ำโขง หลังมีฝนตกหนักต่อเนื่องบริเวณเหนือพื้นที่แขวงหลวงพระบาง สปป ลาว ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนไซยะบุรีเพิ่มขึ้น ให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงบริเวณริมแม่น้ำโขง ตั้งแต่ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ที่อาจได้รับผลกระทบจากระดับน้ำแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นประมาณ 1-2 เมตร อย่างฉับพลัน ในช่วงวันที่ 14-18 ส.ค.นี้

ขณะที่ระดับน้ำโขงช่วง อ.เชียงคาน จ.เลย อยู่ที่ 11.24 เมตร เพิ่มขึ้น 98 เซนติเมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 4.76 เมตร โดยน้ำโขงจาก อ.เชียงคาน จะไหลมาถึง จ.หนองคาย ใช้เวลาประมาณ 7-10 ชั่วโมง จะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ จ.หนองคาย เพิ่มปริมาณสูงขึ้นอีก ประกอบกับในพื้นที่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในหลายแห่ง โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามสถานการณ์น้ำโขง แม้ว่าจะยังอยู่ต่ำกว่าตลิ่งมาก แต่อาจจะส่งผลกระทบด้านการเกษตรได้เช่นกัน


ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงที่ จ.บึงกาฬ สูงขึ้นจากวานนี้ 10 เซนติเมตร ตำกว่าระดับตลิ่ง 5.70 เมตร ถือว่าระดับน้ำสูงสุดในรอบปี 2565 ซึ่งชาวประมงพื้นบ้านที่หาปลาในแม่น้ำโขง ทั้งชาวไทยและชาว สปป ลาว ตลอดจนเรือแพขนานยนต์ที่บรรทุกสินค้าข้ามไปมาระหว่างไทย-สปป ลาว ได้เพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น

ปภ.เปิดพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ ตั้งแต่ช่วงวันที่ 14 ส.ค.นี้เป็นต้นไป โดยมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังแยกเป็นจังหวัดพื้นที่ภาคเหนือ 10 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ และพิษณุโลก เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากช่วงวันที่ 11-17 ส.ค.นี้

จังหวัดพื้นที่ริมน้ำโขง 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี เฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นช่วงวันที่ 13-18 ส.ค.


ส่วนจังหวัดพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอย่างกรุงเทพมหานคร และ 11 จังหวัด ประกอบด้วย อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมขังและน้ำล้นตลิ่ง ตั้งแต่ช่วงวันที่ 11 ส.ค.นี้เป็นต้นไป

จังหวัดพื้นที่ชายทะเล 23 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงบริเวณปากแม่น้ำ และพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่ง ช่วงตั้งแต่วันที่ 10-16 ส.ค.65 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย