เจ้าของอู่ซ่อมรถบุกยิงสาวคนสนิทดับคาร้านอาหาร

สุราษฎร์ธานี 14 ส.ค. – เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ใน อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ยิงสาวคนสนิทเสียชีวิตในร้านข้าวต้ม คาดไม่พอใจไปกินข้าวกับลูกค้าผู้ชาย


ตำรวจ สภ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส ในร้านข้าวต้มแห่งหนึ่ง ต.อิปัน ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณซุ้มที่นั่งไม้ไผ่ พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อคือ นายวิชิต อายุ 50 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ใน อ.พระแสง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่กลางหน้าอก อาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ส่วนบนเก้าอี้ที่ซุ้มไม้ไผ่พบร่างผู้เสียชีวิต 1 คน ทราบชื่อคือ น.ส.ลักษิกา มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันเข้าที่ศีรษะ 1 นัด ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. 2 ปลอก ห่างจากซุ้มที่นั่งไปประมาณ 2 เมตร พบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 กระบอก เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน


จากการสอบสวนทราบว่า น.ส.ลักษิกา เป็นเจ้าของร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งใกล้ที่เกิดเหตุ และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายวิชิต ผู้ก่อเหตุ ก่อนเกิดเหตุหลังจาก น.ส.ลักษิกา ปิดร้าน ได้มากินข้าวต้มกับลูกค้าผู้ชายคนหนึ่ง ขณะที่กำลังนั่งกิน นายวิชิตขับรถยนต์กระบะเข้ามาจอดบริเวณที่เกิดเหตุ และใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ลักษิกา ในระยะประชิด ทำให้ น.ส.ลักษิกา เสียชีวิตทันที ส่วนนายวิชิตได้นั่งลงข้างๆ ร่าง น.ส.ลักษิกา แล้วใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงที่หน้าอกตัวเอง 1 นัด

พ.ต.อ.สมบัติ ฉ่ำแสง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากการสอบสวนประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ ทราบว่าก่อนหน้านี้พยานได้ไปร่วมดื่มกินกับผู้ตายทั้ง 2 คนที่ร้านคาราโอเกะของ น.ส.ลักษิกา ซึ่งเป็นร้านที่นายวิชิตเป็นผู้ลงทุนเปิดร้านให้ และทราบว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน หลัง น.ส.ลักษิกา ปิดร้าน พยานได้ชักชวนทั้ง 2 คนไปกินข้าวต้มที่ร้านเกิดเหตุต่อ แต่นายวิชิตปฏิเสธ พยานจึงไปกับ น.ส.ลักษิกา สองต่อสอง จนเมื่อสั่งอาหารเรียบร้อยก็เห็นนายวิชิตขับรถยนต์ตามเข้ามา เมื่อลงจากรถก็ใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ลักษิกา ทันที โดยไม่มีการพูดคุยแต่อย่างใด เบื้องต้นเชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากปัญหาชู้สาว นายวิชิตอาจไม่พอใจที่ น.ส.ลักษิกา ออกไปกินข้าวต้มกับลูกค้าที่เป็นผู้ชาย จึงตามไปก่อเหตุสลดดังกล่าว

น.ส.เสาวลักษณ์ ลูกสาวของนายวิชิต กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยคลุกคลีกับพ่อ ไม่เคยรู้ว่าพ่อมีปัญหาอะไรกับใคร หรือไปมีหญิงอื่น ส่วนเรื่องที่มีคนบอกว่าพ่อไปลงทุนเปิดร้านให้ น.ส.ลักษิกา เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เพราะก่อนหน้านี้พ่อเคยมาพูดเรื่องเงินกับตนอยู่ครั้งหนึ่ง ส่วนปมก่อเหตุยังติดใจว่าพ่อของตนยิงตัวเองจริงหรือไม่ จึงจะนำศพพ่อไปชันสูตร


อีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นช่วงประมาณเที่ยงวันนี้ ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตเป็นชายหญิง 2 คน ในห้องนอนบ้านหลังหนึ่งใน ต.วัดประดู่ อ.เมือง โดยเพื่อนบ้านโทรศัพท์แจ้งตำรวจว่าได้ยินสามีภรรยามีปากเสียงทะเลาะวิวาท และได้ยินเสียงอาวุธปืนหลายนัด

เมื่อตำรวจตรวจสอบพบประตูห้องนอนของบ้านที่เกิดเหตุล็อกจากด้านใน ภายในห้องพบผู้เสียชีวิต 2 คน ทราบชื่อนางสาวกนกวรรณ กับนายสรรพัช ทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน และพบอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดและชนิดอยู่ในมือด้านขวาของนายสรรพัช ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของตำรวจ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

มติกฤษฎีกา “กิตติรัตน์” คุณสมบัติไม่ผ่านนั่งประธานบอร์ด ธปท.

คณะกรรมการกฤษฎีกา 3 คณะ มีมติไม่ผ่านคุณสมบัติ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” เป็นประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย

เครื่องบินโดยสาร อาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ตกในคาซัคสถาน

เครื่องบินโดยสารเอ็มบราเออร์ ของสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ที่บินจากอาเซอร์ไบจาน ไปยังประเทศรัสเซีย เกิดอุบัติเหตุตกที่บริเวณใกล้กับเมืองอัคเทา ในคาซัคสถาน โดยมีผู้โดยสาร 62 คน และลูกเรือ 5 คน บนเครื่อง เจ้าหน้าที่คาซัคสถานกล่าวว่า มีผู้รอดชีวิต 28 ราย