ภูมิภาค 11 ส.ค.- ชาวบ้านในหลายพื้นที่ยังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จ.พิจิตร น้ำป่าท่วมชุมชนตลาดทับคล้อเป็นรอบที่ 2 ส่วนที่ จ.ปราจีนบุรี พายุ “มู่หลาน” ส่งผลน้ำทะลักท่วม อ.ประจันตคาม กลางดึก ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ระบายน้ำต่อเนื่อง หลังน้ำสูงขึ้น 30 ซม.
ชาวบ้านที่ชุมชนตลาดใต้ เขตเทศบาลตำบลทับคล้อ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ต้องเร่งเก็บข้าวของภายในบ้านไว้บนที่สูง หลังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ประกอบกับมีน้ำที่หลากมาจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ไหลมาสมทบ ทำให้ระดับน้ำได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วท่วมบ้านของชาวบ้านนับ 100 หลังคาเรือน ในชุมชนตลาดใต้
ชาวบ้านบางส่วนยังต้องนำรถไปจอดไว้ริมถนนทางหลวง สายตะพานหิน-เขาทราย เนื่องจากระดับน้ำท่วมสูง จอดที่บ้านไม่ได้ ต้องเดินลุยน้ำเข้าออกเพื่อไปทำงานและทำธุระภายนอกชุมชน ชาวบ้านบอกว่าปีนี้น้ำมาเร็วกว่าทุกปี ตั้งตัวไม่ทัน และระดับน้ำก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นับเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ชุมชนตลาดใต้ถูกน้ำท่วม โดยเมื่อครั้งที่ผ่านมาเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม พบว่าระดับน้ำยังเริ่มท่วมผิวการจราจรในบางจุดบนถนนทางหลวงสายตะพานหิน-เขาทราย บริเวณเขตบาล ต.ทับคล้อ และเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
“มู่หลาน” ส่งผลน้ำทะลักท่วมประจันตคามกลางดึก
ส่วนที่ จ.ปราจีนบุรี ช่วงตี 1 เกิดน้ำป่าไหลหลากลงจากเทือกเขาใหญ่ หรือเขาบรรทัด ในพื้นที่ อ.ประจันตคาม หลังมีฝนตกหนักติดต่อกันมาหลายวัน ประกอบกับพายุ “มู่หลาน” บริเวณเวียดนามตอนบน ส่งผลต่อไทย ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน 2 หมู่บ้าน ทั้งบ้านโคกกรวด ต.โพธิ์งาม และบ้านอินไตรย์ ชาวบ้านต้องเร่งเก็บข้าวของเครื่องใช้ให้พ้นน้ำที่อาจเสียหาย โดยมีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน และกำลังพลทหารจากกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ เข้าให้การช่วยเหลือในการขนย้าย
ผลของน้ำป่าที่ไหลทะลักลงมาทำให้ถนนเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน โคกกรวด กับบ้านคลองเขื่อนมีน้ำท่วมสูง 50 ซม. รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้การเดินทางของชาวบ้านต้องลุยน้ำ หรือรอรถจากเทศบาลตำบลโพธิ์งาม และของทหารเท่านั้น ชาวบ้านบอกว่า ปีนี้น้ำมามากและเร็วกว่าทุกปี เบื้องต้นน้ำท่วมไปแล้วกว่า 20 หลังคาเรือน
เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำต่อเนื่อง หลังน้ำสูงขึ้น 30 ซม.
สถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยาวันนี้ ปริมาณน้ำยังเพิ่มขึ้น โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนที่ อ.เมืองชัยนาท น้ำสูงขึ้น 39 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 15.89 เมตร (รทก.) ระดับน้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา น้ำสูงขึ้น 30 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 10.55 เมตร (รทก.) โดยกรมชลประทานผันน้ำเข้าระบบชลประทานสองฝั่งเหนือเขื่อนเจ้าพระยา และระบายผ่านท้ายเขื่อนอยู่ในเกณฑ์แจ้งเตือนประชาชนในปริมาณ 700-1,100 ลูกบาศก์เมตร/วินาที แต่หากปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 1,100 ลูกบาศก์เมตร/วินาที กรมชลประทานจะแจ้งให้ทราบต่อไป จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ขอให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย