ไฟไหม้ผับชลบุรี ตายเพิ่มอีก 1 รวมสังเวย 14 ศพ

ชลบุรี 5 ส.ค. – เหตุไฟไหม้ MOUNTAIN B จ.ชลบุรี เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย เป็นชายอายุ 33 ปี จากภาวะสำลักควัน และมีเปอร์เซ็นต์ถูกไฟคลอกจำนวนมาก ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 14 ราย บาดเจ็บ 34 ราย


ที่มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ สถานที่เก็บศพผู้เสียชีวิตทั้ง 13 คน เป็นชาย 9 คน และหญิง 4 คน ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่มูลนิธิเคลื่อนย้ายศพทั้งหมดไปชันสูตรพลิกศพที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิตหลายคนมาติดต่อขอรับศพตั้งแต่ช่วงเช้า แต่เจ้าหน้าที่แจ้งให้ไปติดต่อร้อยเวรที่ สภ.พลูตาหลวง เนื่องจากต้องส่งศพทั้งหมดไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชก่อน

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.25 น. มีรายงานว่ามีคนเจ็บเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน คือ นายสุเทพ อายุ 33 ปี เนื่องจากภาวะสำลักควัน และมีเปอร์เซ็นต์ถูกไฟคลอกจำนวนมาก ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตขณะนี้อยู่ที่ 14 คน บาดเจ็บ 34 คน


นิติเวช ตร. เร่งตรวจพิสูจน์ 13 ศพ
ขณะนี้ 13 ศพ ถูกส่งมาถึงสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจแล้ว เบื้องต้นมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ด้วย 1 คน ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 10 คน สาเหตุมาจากการถูกไฟไหม้เกิน 90% ส่วนอีก 3 คน เสียชีวิตภายในห้องน้ำ สาเหตุมาจากการสำลักควัน

พ.ต.อ.พงศกร ฐิตโชติ หัวหน้ากลุ่มงานตรวจพิสูจน์หลักฐาน หนึ่งในทีมผ่าศพผู้เสียชีวิต เหยื่อสถานบันเทิง MOUNTAIN B เปิดเผยขั้นตอนหลังจากนี้ว่า จะชันสูตรหาสาเหตุการตายช่วงเย็นวันนี้ ก่อนจะลงมือผ่าพรุ่งนี้เวลา 09.00 น. คาดว่าจะผ่าเสร็จใน 1 วัน โดยระดมแพทย์เข้ามาช่วยกันในการชันสูตร ซึ่งทำในรูปคณะกรรมการ มีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน กลุ่มงานตรวจอัตลักษณ์บุคคล ทันตแพทย์ โรงพยาบาลตำรวจ เข้ามาร่วมพิสูจน์ เนื่องจากศพถูกไฟคลอกไหม้ผิวหนัง ใบหน้า กระดูกอาจแตกหักเสียหาย การชันสูตรจึงต้องทำด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ เบื้องต้นมี 2 ศพยังไม่ทราบเพศที่ถูกไฟคลอกเสียหาย 100 เปอร์เซ็นต์ ต้องพิสูจน์อัตลักษณ์ใน 2 ศพนี้ ซึ่งจะขอให้ผู้ที่สงสัยว่าเป็นญาติมาเก็บดีเอ็นเอเพื่อเปรียบเทียบ

ขั้นตอนหลังรับศพจะเริ่มชันสูตรจากภายนอก เก็บรายละเอียดเกี่ยวกับรอยสัก แผลเป็น หรือเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล เพื่อหาว่าเสียชีวิตจากสาเหตุใด แต่หากศพเสียหายมากจะต้องเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากเลือดและกระดูก หรืออาจนำเข้าเครื่อง CT scan เพื่อให้ได้เอกลักษณ์เฉพาะบุคคลโดยละเอียด จากนั้นจะตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ สารพิษ สารเสพติด และปริมาณคาร์บอนมอนอกไซด์ในเลือด เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต และรูปแบบพฤติการณ์ก่อนเสียชีวิต คาดว่าต้องใช้เวลาผ่าพิสูจน์ต่อ 1 ศพ นานกว่า 1 ชม. ส่วนผลดีเอ็นคาดจะออกได้ใน 1-2 วัน จึงจะส่งศพคืนญาติไปบำเพ็ญกุศล


แถลงอาการคนเจ็บ ทุกรายยังน่าเป็นห่วง
ส่วนบรรยากาศที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ หนึ่งในโรงยาบาลที่รับผู้บาดเจ็บเข้ามารักษาตัว 23 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ประมาณ 14 คน และมีผู้บาดเจ็บส่วนหนึ่งได้ย้ายโรงพยาบาลไปรักษาตามสิทธิบ้างแล้ว ทำให้เหลือผู้ป่วยอีก 16 คน เนื่องจากเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อช่วงบ่าย 1 คน คือ นาย สุเทพ จากการมีบาดแผลไฟไหม้ทั่วร่างกาย ในจำนวนนี้มี 2 คน เตรียมส่งตัวต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬา และโรงพยาบาลศิริราช

นาวาเอกหญิง นงลักษณ์ สิงหโกวินท์ รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ แถลงถึงสถานการณ์รับผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ไฟไหม้ MOUNTAIN B เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ทางโรงพยาบาลระดมทีมแพทย์ดูแลผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ โดยมีจำนวนผู้บาดเจ็บรักษาอยู่จำนวน 17 คน และเมื่อ 14.25 น.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเพิ่มอีก 1 คน คือ นายสุเทพ ทำให้ขณะนี้มีผู้บาดเจ็บรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 16 คน ผู้บาดเจ็บอาการน่าเป็นห่วงทุกราย ช่วง 48 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ มีความสำคัญ ต้องรอดูให้อาการคงที่ก่อน และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะมีโอกาสเกิดอาการแทรกซ้อนอื่น ทุกรายมีแผลจากไฟคลอกตามร่างกายกว่า 60% และมีอาการสำลักควัน ทำให้ส่งผลต่อภาวะการหายใจ และเป็นแผลไฟไหม้ระดับที่ 3 ทางการแพทย์ถือว่ารุนแรง และทุกรายต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ส่วนการรักษาบาดแผล หากแผลไฟไหม้ลึกต้องตัดเนื้อตาย และประเมินแผลวันต่อวัน กรณีสูญเสียเนื้อเยอะต้องหมุนเนื้อมาปิด จึงเป็นการรักษาระยะยาว การส่งต่อผู้ป่วยบางรายเพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างเต็มที่ที่สุด ยืนยันว่าที่โรงพยาบาลมีศักยภาพในการรักษาและระดมทีมแพทย์มาช่วยด้วย

ขณะที่ด้านในอาคารผู้ป่วยนอก มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดชลบุรี มาตั้งโต๊ะรับเรื่องจากญาติของผู้ประสบภัย เพื่อรับเงินช่วยเหลือเยียวยา ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายฯ โดยกรณีเสียชีวิตจะได้รับเงิน 110,000 บาท บาดเจ็บจะดูตามความรุนแรง และระยะเวลาที่เข้ารับการรักษา ตลอดช่วงบ่ายมีญาติเข้ามาติดต่อแล้ว 3 คน

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตั้งหน่วยบริการประชาชน ร่วมกับศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ของเทศบาลเมืองสัตหีบ ณ บริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อคอยรับเรื่องประสานอำนวยความสะดวกตามภารกิจของแต่ละหน่วยงาน

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สั่งการด่วนที่สุดให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ลงพื้นที่เพื่อเยียวยา และแจ้งสิทธิช่วยเหลือญาติของผู้เสียชีวิต รวมถึงผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยกรณีเสียชีวิตจะได้รับเงินเยียวยาตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 จำนวน 110,000 บาท แบ่งเป็นค่าตอบแทนกรณีถึงแก่ความตาย 50,000 บาท ค่าจัดการศพ 20,000 บาท และค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู 40,000 บาท

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจะได้รับการเยียวยาค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 40,000 บาท ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 20,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ในระหว่างที่ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ให้จ่ายในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของ จ.ชลบุรี วันละ 336 บาท ไม่เกิน 1 ปี และค่าตอบแทนความเสียหายอื่น ไม่เกิน 50,000 บาท แต่การพิจารณาการเยียวยา ต้องรอคณะอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายในระดับจังหวัด ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน อนุมัติก่อน กรมคุ้มครองสิทธิฯ ถึงจะจ่ายเงินได้ สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ หรือครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่ยังไม่รู้จะดำเนินการต่ออย่างไร สามารถติดต่อสายด่วนยุติธรรมได้ที่เบอร์ 1111 กด 77

ในส่วนของ จ.ชลบุรี นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี (ปภ.) ตั้งศูนย์บัญชาการที่เกิดเหตุ เพื่อช่วยเหลือและเยียวยาวผู้ประสบเหตุ ตามกฎกระทรวง มีงบช่วยเหลือเบื้องต้น ผู้บาดเจ็บรายละ 4,000 บาท บาดเจ็บจนพิการ รายละ 13,300 บาท และเสียชีวิต รายละ 29,700 บาท หากเป็นผู้เสียชีวิตเป็นผู้นำครอบครัว จะได้คูณ 2 จากตัวเลข 29,700 บาท นอกจากยังมีงบของอำเภอและเทศบาลในพื้นที่ ในการเยียวยาในครั้งนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]