ประมวลเหตุไฟไหม้ผับสัตหีบ คลอกดับ 13 ราย ดีเจเล่านาทีหนีตาย

ชลบุรี 5 ส.ค. – ประมวลภาพเหตุโศกนาฏกรรมไฟไหม้ผับดังเมืองสัตหีบ นักท่องราตรีถูกไฟคลอกดับ 13 ราย บาดเจ็บอีก 36 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 8 คน ตำรวจเร่งสอบสวนสาเหตุ ขณะที่ดีเจประจำร้านเล่านาทีระทึกขณะเกิดเหตุไฟไหม้ วิ่งหนีตายกันอลหม่าน


เมื่อคืนที่ผ่านมา ช่วงเวลา 01.00 น. ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.พลูตาหลวง ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ผับ มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตหลายราย เหตุเกิดที่ MOUNTAIN B ริมถนนสาย สุขุมวิทบางนา – ตราด ม.7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งเหตุจึงประสานรถดับเพลิงจากหลายหน่วยงานกว่า 20 คัน และ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนฯ สัตหีบ ไปยังที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุเป็นอาคารชั้นเดียว เพลิงกำลังลุกไหม้ภายในตัวอาคารอย่างรุนแรง และนักท่องเที่ยวพากันวิ่งหนีตายออกมาหลายสิบคน บางรายอยู่ในสภาพถูกไฟคลอกทั้งตัว นอนร้องครวญคราง เจ้าหน้าที่รีบปฐมพยาบาล นำตัวส่ง รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯสัตหีบ

ส่วนการควบคุมเพลิงเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากภายในอาคารมีวัตถุติดไฟได้ง่าย โดยเฉพาะน้ำยาโฟมซับเสียง จึงทำให้เพลิงลามไปทั่วตัวอาคาร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องระดมฉีดน้ำนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถคุมเพลิงไว้ได้


จากการเข้าเคลียร์พื้นที่ เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตรวม 13 ราย เป็นผู้หญิง 4 ราย ผู้ชาย 9 ราย นอนกองรวมกันบริเวณหน้าประตู ในห้องน้ำชาย หลังบูธดีเจ และบริเวณหน้าแคชเชียร์ ศพอยู่ในสภาพถูกไฟคลอกร่างไหม้เกรียม ส่วนคนเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล อาการสาหัส 8 คน จากการถูกไฟคลอกทั้งตัว ส่วนผู้เจ็บรายอื่น ส่วนใหญ่บาดเจ็บเพราะสำลักควัน และวิ่งเบียดแย่งกันออกมาจากผับ

ขณะเดียวกันมีผู้นำคลิปขณะเกิดเหตุการณ์ออกมาเผยแพร่ พบว่านักเที่ยวพยายามวิ่งเบียดแย่งหนีตาย ออกจากประตูด้านหน้าเพียงประตูเดียว ทำให้เกิดข้อสงสัยกรณีประตูหนีไฟว่ามีหรือไม่ ขณะที่ตำรวจยังไม่สามารถสรุปสาเหตุเบื้องต้นของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ได้ มีเพียงพยานให้การเบื้องต้น ว่าก่อนเกิดเปลวเพลิง มีเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง ข้างเวทีบูธดีเจ ประกายไฟลามไปติดชนวนโฟมซับเสียง ซึ่งเป็นวัตถุติดไฟได้ง่ายจนไฟลุกลามไปทั่วตัวอาคารอย่างรวดเร็ว จนเกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าว

ต่อมาเวลา 03.20 น. พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมร่วมสอบปากคำกัปตันประจำผับดังกล่าว โดยให้การว่า เห็นไฟเริ่มลุกไหม้บริเวณหลังคา ก่อนลุกลามไปทั่วบริเวณอย่างรวดเร็ว จะตะโกนบอกการด์ร้านช่วยพยายามผลักดันลูกค้าออกหน้าร้าน แต่เพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว


ด้าน พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ระบุว่าเบื้องต้น ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการเกิด เพลิงไหม้ในครั้งนี้ ต้องรอสอบพยานเห็นเหตุการณ์ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่วิทยาการพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง

ทั้งนี้ สถานบันเทิงดังกล่าว เป็นผับเปิดใหม่ เพิ่งเปิดได้เพียงเดือนกว่า และเป็นแหล่งสถานบันเทิงที่กลุ่มวัยรุ่นสัตหีบนิยมเที่ยวเป็นอย่างมาก ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่นักเที่ยวกำลังสนุกกับเสียงเพลง จนไม่มีใครทันตั้งตัว พอเห็นแสงไฟต่างพากันหนีตายทุลักทุเล จนมีคนตายจำนวนมาก และถือเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงครั้งแรกของเมืองสัตหีบ

เช้าวันนี้ นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี ( ปภ.) ตั้งศูนย์บัญชาการที่เกิดเหตุ เพื่อช่วยเหลือและเยียวยาวผู้ประสบเหตุ เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก จึงถือว่าเป็นอุบัติภัย โดยตามกฎของกระทรวง จะมีงบช่วยเหลือเบื้องต้น ผู้บาดเจ็บรายละ 4,000 บาท บาดเจ็บจนพิการรายละ 13,300 บาท และผู้เสียชีวิตจะได้รายละ 29,700 บาท หากเป็นผู้เสียชีวิตเป็นผู้นำครอบครัวจะได้คูณ 2 จากตัวเลข 29,700 บาท นอกจากยังมีงบของอำเภอ และเทศบาลในพื้นที่ในการเยียวยาในครั้งนี้ด้วย

ด้านญาติผู้เสียชีวิตทยอยไปดูศพทั้ง 13 ราย โดยมีการลำเลียงออกจาก รพ.พลูตาหลวง กม.10 ไปยัง มูลนิธิสว่างโรจนฯ สัตหีบ เตรียมนำร่างส่งไปพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลที่สถาบันนิติเวชวิทยา สนง.ตำรวจแห่งชาติอีกครั้ง

พ.ต.อ.พงศกร ฐิตโชติ หัวหน้ากลุ่มงานตรวจพิสูจน์หลักฐาน หนึ่งในทีมผ่าศพเหยื่อสถานบันเทิง MOUNTAIN B ระบุว่าทั้ง 13 ศพ จะส่งมาถึงสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อชันสูตร ช่วงเย็นวันนี้ และแพทย์จะลงมือผ่าในวันพรุ่งนี้ 09.00 น. คาดจะผ่าเสร็จใน 1 วัน โดยระดมแพทย์เข้ามาช่วยกันในการชันสูตร ซึ่งทำในรูปคณะกรรมการ เบื้องต้นมี 2 ศพยังไม่ทราบเพศ เพราะถูกไฟคลอกแบบเสียหาย 100% ต้องพิสูจน์อัตลักษณ์ใน 2 รายนี้ ขอให้ผู้ที่สงสัยว่าเป็นญาติมาเก็บดีเอ็นเอเพื่อเปรียบเทียบ อย่างไรก็ตาม การผ่าพิสูจน์จะมีการเก็บอวัยวะภายในร่างกาย เอกซเรย์ฟัน และถ่ายภาพ ที่มากกว่าการตรวจพิสูจน์ศพทั่วไป คาดว่าผลดีเอ็นเอจะออกใน 1-2 วัน ถ้าเป็นไปตามแผน จะส่งศพคืนญาติให้เร็วที่สุด. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

รวบเจ้าของหอพักโหดย่านรังสิต ข้อหากรรโชกทรัพย์

ปทุมธานี 28 พ.ค. – ตำรวจปทุมธานี บุกรวบเจ้าของหอพักย่านรังสิต พร้อมครอบครัว ข้อหากรรโชกทรัพย์ หลังมีนักศึกษาแจ้งความร้องทุกข์ว่า เจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกาย ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจปทุมธานี นำหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ลงวันที่ 27 พ.ค. ในข้อหากรรโชกทรัพย์ เข้าจับกุม พ.ต.อ.พูลศักดิ์ อายุ 64 ปี นางพัชรียา อายุ 56 ปี และนางสาวพูลชนก อายุ 28 ปี ที่หอพักใน 7 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี จากกรณีมีนักศึกษากว่า 20 ราย เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต และเจ้าหน้าที่ สคบ. ว่าเจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกายนักศึกษา ยึดเอกสารหลักฐานทางราชการ ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน บางจังหวะการจับกุมจะเห็นได้ว่ามีการโต้เถียงกันและมีการขัดขืน แต่สุดท้ายต้องยอมจำนนต่อหมายจับ พล.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า ตำรวจขอหมายจับจากศาลไป 3 […]

คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสี อบต.เกาะสะท้อน อส.-ครู เจ็บ 4

นราธิวาส 28 พ.ค. – คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสีต้านยาเสพติด อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้อาสาสมัครรักษาดินแดนบาดเจ็บ 3 คน ครูบาดเจ็บ 1 คน ส่วนเหตุคนร้ายยิงใส่ป้อมหน้า สภ.จะแนะ ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย เจ็บ 1 นาย เจ้าหน้าที่เร่งไล่ล่าคนร้าย คนร้ายชุดสีดำเดินถือปืนเข้ามาในลานกีฬาเซปักตะกร้อ งานแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด อบต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จากนั้นรัวยิงชุดแรก 4 นัด คนที่ร่วมแข่งขันพากันวิ่งหลบหนี จากนั้นคนร้ายรัวยิงอีก 3 นัด ซึ่งภาพหลุดจากวิถีกล้องไปแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่และหน่วยงานความมั่นคงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บ 4 คน ประกอบด้วย 1.นายสุกรี ครูโรงเรียนบ้านเกาะสะท้อน 2.อาสารักษาดินแดนฮัมดานุดดีน 3.อาสารักษาดินแดนมุสลิม และนายไซนุดดิน ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลตากใบ สอบสวนทราบว่าคนร้าย 6 คน ใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ 3 คัน ขี่เข้ามาโดยปะปนกับประชาชน และก่อเหตุยิงผู้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดจนมีผู้บาดเจ็บ หลังเกิดเหตุนายอำเภอตากใบลงพื้นที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บ […]

นายกฯ ยกหูคุย “ฮุน มาเนต” คลี่คลายเหตุปะทะชายแดน

รัฐสภา 28 พ.ค.- นายกฯ รับทราบเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เผยยกหูคุยตรง “นายกฯ ฮุน มาเนต” ให้สถานการณ์คลี่คลายเร็วที่สุด ปัดตอบกรณี “ทักษิณ” ประกาศสงครามกับว้าแดง-สถานการณ์ใต้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ในเวลา 17.40 น. ถึงสถานการณ์ชายแดนไทยไทย-กัมพูชา บริเวณด่านช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่า ได้รับรายงานแล้ว และจะมีการพูดคุยกันของผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ส่วนตนเองได้พูดคุยกับกระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งเดี๋ยวก็คงมีข้อตกลงกันออกมา ขณะเดียวกัน ตนเองก็ได้มีการพูดคุยกับ พลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วย ไม่มีอะไร ซึ่งมีความเข้าใจตรงกันว่าจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงโดยเร็วที่สุด และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อีก ส่วนจะมีการใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีสองประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของตนเองกับนายกฯ กัมพูชา ก็เป็นไปได้ด้วยดี เมื่อถามว่า กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศสงครามกับว้าแดง เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด รัฐบาลมีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่ะ ส่วนเหตุการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ในวันนี้ […]

ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคาม หลังพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดน

กองทัพอากาศ 28 พ.ค.- ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคามต่อประเทศ หลังตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.03 น. กองทัพอากาศได้สั่งการให้เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 เครื่อง จากหน่วยบิน กองบิน 4 ปฏิบัติภารกิจการบินป้องกันทางอากาศ วิ่งขึ้นจากสนามบินตาคลี หลังหน่วยควบคุมอากาศยานและแจ้งเตือน ตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เครื่องบินต้องสงสัยลำดังกล่าว เป็นอากาศยานสมรรถนะสูงแบบ YAK-130 มีทิศทางบินมุ่งเข้าสู่เขตแดนไทยในระยะใกล้ กองทัพอากาศ จึงสั่งการบินพิสูจน์ทราบและแสดงท่าทีป้องปราม ตามมาตรการปกติ เพื่อเฝ้าระวังและยืนยันสถานการณ์ จากการติดตามพบว่า เครื่องบินดังกล่าวได้เปลี่ยนทิศทางและออกจากเขตใกล้ชายแดนไทย ในเวลา 13.16 น. โดยไม่แสดงพฤติกรรมรุกราน หรือมีเจตนาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศแต่อย่างใด “กองทัพอากาศ ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจปกติในการเฝ้าระวังป้องกันน่านฟ้า ซึ่งกองทัพอากาศดำเนินการอย่างเข้มแข็งและสม่ำเสมอ เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ สร้างความปลอดภัย และความมั่นใจให้แก่ประชาชน” โฆษกกองทัพอากาศ กล่าว ทั้งนี้ […]