เตรียมสั่งปิดการใช้ผับชลบุรี หลังเกิดเหตุไฟไหม้ พบขออนุญาตถูกต้อง

ชลบุรี 5 ส.ค. – นายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบ พร้อมเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบเหตุไฟไหม้ผับ เตรียมสั่งปิดการใช้งาน จากการตรวจสอบอาคารดังกล่าวขออนุญาตก่อสร้างถูกต้อง มีใบในลักษณะเป็นร้านอาหาร ด้านนิติเวชตำรวจระบุจะเร่งตรวจพิสูจน์ 13 ศพ เหยื่อไฟไหม้ผับ


เหตุไฟไหม้ผับ MOUNTAIN B อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จนมีผู้เสียชีวิต 13 คน บาดเจ็บถูกไฟคลอกนอนรักษาตัว 36 คน ล่าสุด นายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบ พร้อมเจ้าหน้าที่จากกองวิทยาการเวร ตำรวจภูธรภาค 2 และเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร มทบ.14 ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคาร พบว่าเพลิงสงบแล้ว หวั่นอาคารทรุดตัว จึงกั้นพื้นที่ไว้โดยรอบ พร้อมกับเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบอาคารดังกล่าวขออนุญาตก่อสร้างอาคารถูกต้อง มีใบในลักษณะเป็นร้านอาหาร ซึ่งอยู่ในพื้นที่ประมาณ 1 งานเศษ จากนี้จะสั่งปิดการใช้ พร้อมปิดกั้นบริเวณโดยรอบ เนื่องจากเป็นพื้นที่อันตราย ส่วนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจะเยียวยาต่อไป

ขณะที่ดีเจซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ เล่านาทีระทึกว่า ก่อนเกิดเหตุเป็นช่วงพักเบรก มีดนตรีกำลังแสดงสด มีนักท่องเที่ยวกว่า 100 คน ต่อมามีการ์ดของร้านวิ่งออกมาก่อนตะโกนบอกให้รีบหนีออกด้านนอก จนมีเสียงระเบิดจากภายในดังขึ้น จึงได้วิ่งตามออกมา


พ.ต.อ.พงศกร ฐิตโชติ หัวหน้ากลุ่มงานตรวจพิสูจน์หลักฐาน หนึ่งในทีมผ่าศพผู้เสียชีวิตเหยื่อสถานบันเทิงเมาเทนส์บี ระบุว่าทั้ง 13 ศพ เป็นชาย 9 คน และหญิง 4 คน จะส่งมาถึงสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายช่วงเย็นวันนี้ และแพทย์จะลงมือผ่าในวันพรุ่งนี้ เวลา 09.00 น. คาดจะผ่าเสร็จใน 1 วัน โดยระดมแพทย์เข้ามาช่วยกันในการชันสูตร ซึ่งทำในรูปคณะกรรมการ มีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน กลุ่มงาน ตรวจอัตลักษณ์บุคคลและทันตกรรม โรงพยาบาลตำรวจเข้ามาร่วมพิสูจน์ เนื่องจากศพถูกไฟคลอก ไหม้ผิวหนัง ใบหน้า กระดูก แตกหักเสียหาย การชันสูตรจึงต้องทำด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ

เบื้องต้นมี 2 ศพยังไม่ทราบเพศ เพราะถูกไฟคลอกแบบ 100% ที่จะต้องพิสูจน์อัตลักษณ์ใน 2 รายนี้ ขอให้ผู้ที่สงสัยว่าเป็นญาติมาเก็บดีเอ็นเอเพื่อเปรียบเทียบ อย่างไรก็ตาม การผ่าพิสูจน์จะมีการเก็บอวัยวะภายในร่างกาย เอกซเรย์ฟัน และถ่ายภาพที่มากกว่าการตรวจพิสูจน์ศพทั่วไป และตรวจหาก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ เพื่อพิสูจน์หาสาเหตุการตาย คาดว่าผลดีเอ็นเอจะออกใน 1-2 วัน และถ้าเป็นไปตามแผน จะส่งศพคืนญาติให้เร็วที่สุด. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย