เร่งสืบหาตัวบุคคล 2 ศพที่โคราช จากหมายเลขในซิลิโคนเสริมหน้าอก

นครราชสีมา 30 ก.ค. – กรณีพบศพหญิง-ชายนิรนามถูกฝังดินโบกปูนอำพรางศพในป่า อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา คาดผู้ชายเป็นชาวต่างชาติ ส่วนผู้หญิงเป็นคนไทย ตำรวจเร่งสืบหาตัวบุคคลจากหมายเลขในซิลิโคนเสริมหน้าอกของศพผู้หญิง


ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญ พบศพหญิงและชายนิรนาม ถูกฆ่าเปลือยฝังดินโบกปูนอำพรางศพในป่า พื้นที่ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ล่าสุดตำรวจนำซิลิโคนที่หญิงสาวที่เสียชีวิตทำศัลยกรรมหน้าออกไปตรวจสอบ คาดว่าจะเป็นเบาะแสสำคัญที่จะนำไปสู่การระบุตัวบุคคลได้

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โชคชัย กระจายกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสข้อมูลพฤติการณ์ของคนร้าย คาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 2 คน ทั้งติดตามจากกล้องวงจรปิดเส้นทางก่อเหตุ รวมทั้งการหาเบาะแสข้อมูลต่างๆ ของศพว่าเป็นใครมาจากไหน โดยเฉพาะรอยสักรูปคล้ายมงกุฎบริเวณเหนือสะโพก และรอยสักรูปพวงดอกไม้คล้องข้อมือขวาของศพหญิงสาว พร้อมประสานทุกช่องทางเพื่อระบุตัวตนผู้เสียชีวิตให้ได้โดยเร็วที่สุด


จากการประเมินรูปพรรณสัณฐานเป็นไปได้ว่าผู้เสียชีวิตอาจจะเป็นชาวต่างชาติ เนื่องจากไม่มีรายงานการแจ้งความบุคคลสูญหายในพื้นที่ อ.โชคชัย และพื้นที่อื่นๆ ของ จ.นครราชสีมา

นอกจากนี้เบาะแสสำคัญยังพบว่าหญิงสาวที่เสียชีวิตมีการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก ทีมแพทย์ชันสูตรจึงผ่าเอาก้อนซิลิโคนออกมาเก็บไว้เป็นหลักฐาน ล่าสุดตำรวจได้ประสานแพทย์นิติเวช นำก้อนซิลิโคนไปตรวจสอบ เพราะก้อนซิลิโคนมีลักษณะเฉพาะตัว มีหมายเลขกำกับที่สามารถระบุได้ว่าไปทำศัลยกรรมหน้าอกมาจากที่ไหน จึงน่าจะเป็นเบาะแสสำคัญที่อาจจะนำไปสู่การระบุตัวบุคคลได้ หลังจากนี้จะประสานไปยังศูนย์บริการเสริมความงามต่างๆ เพื่อสืบหาตัวบุคคลที่ชัดเจน

ด้าน พ.ต.อ.บุญโปรด ประเสริฐศักดิ์ ผกก.สภ.โชคชัย เรียกประชุมทีมสืบสวนสอบสวนคดี พร้อมวางแผนการทำงานเพิ่มเติม โดยมีรายงานผลการตรวจสอบทางนิติเวชว่าศพผู้ชายน่าจะเป็นชาวต่างชาติ ไม่ใช่ชาวเอเชีย ส่วนศพผู้หญิงน่าจะเป็นชาวไทย แต่ยังต้องรอผลการยืนยันที่แน่ชัดอีกครั้ง คาดว่าน่าจะยืนยันผลได้ภายใน 1-2 วันนี้


ย้อนไปดูคดีนี้ เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา ชาวบ้านเข้าไปเก็บเห็ดในป่าพื้นที่ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ไปเจอหลุมต้องสงสัยลักษณะเป็นหลุมยุบรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า อยู่ห่างจากหมู่บ้าน 2 กิโลเมตร และห่างจากถนนสาธารณะเข้าไปในป่าลึก 500 เมตร ชาวบ้านได้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน แต่ผู้ใหญ่บ้านคิดว่าไม่มีอะไร ประกอบกับยังไม่ว่างจึงยังไม่ได้เข้าไปดู

วันรุ่งขึ้น 27 กรกฎาคม ชาวบ้านแจ้งอีกว่าหลังฝนตกเห็นดินบริเวณดังกล่าวยุบผิดปกติ ช่วงบ่าย 3 ของวันที่ 28 กรกฎาคม ผู้ใหญ่บ้านจึงระดมชาวบ้านไปช่วยกันขุดหลุมเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง เมื่อขุดลงไปลึก 80 เซนติเมตร ต้องผงะเมื่อเจอแขนผู้หญิงโผล่พ้นดินออกมา จึงรีบแจ้งตำรวจ และกู้ภัยเข้ามาช่วยขุดต่อ ทำให้เจอศพที่ 2 เป็นผู้ชาย
ทั้ง 2 ศพมีสภาพเปลือยเปล่า ร่างของผู้ชายนอนหงาย หันศีรษะไปทางทิศตะวันตก มีปูนโบกทับอยู่ ส่วนศพผู้หญิงนอนคว่ำหน้าอยู่เหนือแผ่นปูนที่โบกทับร่างผู้ชาย หันศีรษะไปทางทิศตะวันออก

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์ศพพบว่าผู้หญิงมีรูปร่างผอม ผิวขาว ผมยาว อายุประมาณ 30-40 ปี สูง 155-160 เซนติเมตร ส่วนตำหนิรูปพรรณที่เห็นชัดเจนคือ บริเวณเหนือสะโพกด้านหลัง และข้อมือข้างขวา มีรอยสักขนาดใหญ่ ขณะที่ผู้ชาย ผิวขาว ผมหยิก สูงประมาณ 170 เซนติเมตร สันนิษฐานเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน

นอกจากการสืบหาเบาะแสจากหลักฐานที่เกิดเหตุแล้ว ตำรวจยังประชาสัมพันธ์ส่งภาพรอยสักกระจายไปทุกช่องทาง เพื่อหาข้อมูลยืนยันตัวของผู้เสียชีวิต ซึ่งตอนแรกสันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตทั้งคู่อาจเป็นชาวต่างชาติ หรือแรงงานต่างด้าว เนื่องจากจุดที่พบศพมโรงงานขนาดใหญ่ตั้งอยู่จำนวนมาก แต่ล่าสุดผลตรวจสอบจากนิติเวช คาดว่าผู้หญิงที่เสียชีวิตน่าจะเป็นคนไทย ส่วนฝ่ายชายเป็นต่างชาติ ไม่ใช่คนเอเชีย.-สำนักข่าวไท

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร