คุณยายผวาคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง ถือเสียมสร้างแนวกันคลื่น

ตรัง 8 ก.ค. – คุณยายวัย 74 ปี ชาวเกาะลิบง จ.ตรัง ผวาคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง หวั่นไร้ที่อยู่ ถือเสียมสร้างแนวกันคลื่นเอง วอนนายกรัฐมนตรีเร่งสั่งการช่วยเหลือชาวบ้านเกาะลิบง


คุณยายวัย 74 ปี ชาวเกาะลิบง ผวาคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง หวั่นไร้ที่อยู่ ถือเสียมสร้างแนวกันคลื่นตามมีตามเกิดด้วยตัวเอง จากปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งเกาะลิบง ทำชาวบ้านกว่า 20 หลัง ได้รับผลกระทบนานแรมปี ที่ดินจมหายไปกับทะเล ปีละ 3-4 เมตร และมีบ้านชาวบ้านกว่า 10 หลัง พังลงทะเลแล้ว ในขณะที่ชาวบ้านรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาอย่างจริงจัง วอนถึงนายกรัฐมนตรีเร่งสั่งการช่วยชาวบ้านเกาะลิบง ในขณะที่ชาวบ้านต้องช่วยเหลือตัวเอง ทำแนวกันคลื่นป้องกันทรัพย์สิน หวั่นหากสูญเสียมากกว่านี้จะไร้ที่อยู่

ที่บริเวณพื้นที่บ้านหลังเขา หมู่ที่ 5 ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง นายอาสาน คนขยัน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.เกาะลิบง และชาวบ้านในพื้นที่กว่า 20 หลังคาเรือน ต้องประสบปัญหาน้ำทะเลและคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง ทำให้ชาวบ้านต้องสูญเสียที่ดินไปหลายเมตรต่อปี บ้านบางหลังถูกคลื่นกัดเซาะจนพังลงไปในทะเล แม้ที่ผ่านมาชาวบ้านจะร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาแก้ปัญหา แต่เรื่องก็เงียบหายไป ไม่มีความคืบหน้า ชาวบ้านซึ่งมีบ้านเรือนอยู่ชายฝั่งบนที่ดินเอกสารสิทธิต้องช่วยเหลือตัวเอง สร้างแนวกันคลื่นป้องกันทรัพย์ของตัวเองกันตามกำลัง ยายบุหงา หญิงอายุมากที่ถือเสียมเดินตามแนวชายฝั่งหลังบ้าน เพื่อขุดทรายใส่ในท่อซีเมนต์ที่เอามาวางเรียงเป็นแนวกันคลื่นชั่วคราว บนศาลาหลังบ้านมีกองอุปกรณ์ ได้แก่ เชือก กระสอบ ซึ่งคุณยายใช้เงินส่วนตัวซื้อมา เพื่อใช้บรรจุทรายลงกระสอบทำแนวกันคลื่นไม่ให้รุกเอาที่ดินไป ด้วยความที่อายุมาก ทำคนเดียวไม่ไหว บางครั้งต้องออกเงินจ้างบ้านใกล้เคียงมาทำด้วย เสาไม้ที่ปักไว้ คุณยายจะเอาเชือกมาผูกยึดไว้กับต้นไม้ใกล้ชายฝั่ง ป้องกันหลุดลอยไปกับคลื่นที่พัดเข้าฝั่งอย่างแรง


ยายบุหงา เผยว่า ตนเดือดร้อนเรื่องคลื่นกัดเซาะเข้ามาในที่ดิน เพราะไม่มีอะไรกัน ถ้าปล่อยไว้บ้านคงจะพังในที่สุด เดือดร้อนมาน 5 ปี ทั้ง ๆ ที่ร้องเรียนไปหน่วยงานต่าง ๆ ที่รับผิดชอบ แต่พอลงมาดูก็หายเงียบกันไป ไม่เคยได้มาลงมือทำ มารับปากแล้วก็หายไป ตนเองใช้สองมือทำแนวกันคลื่นด้วยตัวเอง ตัดไม้ ซื้อกระสอบเพื่อใส่ทรายทำแนวกันคลื่นกั้นที่ดินของตัวเอง บางทีก็ใช้เงินส่วนตัวจ้างช่วยทำ ที่ดินหายไปเยอะมากแล้ว สมัยก่อนหลังบ้านเป็นแนวต้นมะพร้าวเรียงรายกัน แต่คลื่นได้กัดเซาะเอาทั้งที่ดิน ทั้งต้นมะพร้าว ลงทะเลไปหมดแล้ว ที่ดินหายไป 3 เมตร ตนต้องทำแนวกันคลื่นทุกวัน พอคลื่นมาสูงก็หยุดพัก คลื่นลดลงก็ทำต่อ ใช้เสียม ไม้ เชือก กระสอบทราย เป็นแนวป้องกัน ต่อสู้กับธรรมชาติ ถ้าไม่ทำเองไม่รู้ว่าคลื่นจะพัดจนที่ดินบ้านเรือนหายไปวันไหน อายุก็มากแล้ว คงไม่มีเงินไปซื้อที่ดินที่อื่นสร้างที่อยู่ได้ ตนเองอยากให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ ทำอย่างไรก็ได้เพื่อป้องกันคลื่นกัดเซาะที่ดิน พืชผล บ้านเรือนของชาวบ้าน ทุกวันนี้นอนผวาทุกคืน กลัวน้ำจะพัดกัดเซาะเอาบ้านไป ต้องลงทุนไปซื้อกระสอบใบละ 2-3 บาท มาใส่ทรายตั้งเป็นแนวกันคลื่น ลงทุน ลงแรง แก้ปัญหาเองทุกอย่าง ตอนนี้รู้สึกน้อยใจที่ไม่มีหน่วยงานไหนมาช่วยเหลือ อยากจะให้เขาช่วยอย่างจริงจังสักที เพราะตนเองอายุมาก จะให้ทำกระสอบทราย ปักหลักกันคลื่นเองทุกวัน ก็คงจะทำไม่ไหวแล้ว

นายอาสาน คนขยัน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.เกาะลิบง บอกว่า ตอนนี้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการกัดเซาะชายฝั่ง จำนวน 20 หลัง ก่อนหน้านี้บ้านชาวบ้านที่โดยคลื่นกัดเซาะและพังลงทะเล จำนวนกว่า 10 หลัง ตลอดแนวชายฝั่งความยาว 700 เมตร ที่ดิน น.ส.3 ของชาวบ้านลงไปอยู่ในทะเล แต่ละปีคลื่นจะกัดเซาะเข้ามาในที่ดินของชาวบ้าน 3-4 เมตร มีหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านเยอะเหมือนกัน ทั้งระดับอำเภอ และระดับจังหวัด แต่ไม่มีเจ้าภาพหลักมาแก้ปัญหาให้ชาวบ้านได้ อยากวอนให้ผู้มีอำนาจมาช่วยเหลือชาวบ้าน ตอนนี้ตนเป็นห่วงความเป็นอยู่ของชาวบ้าน บางหลังน้ำทะเลพัดกัดเซาะเข้ามาถึงชายคาแล้ว ต้นไม้ที่ปลูกไว้ก็ถูกน้ำทะเลถอนรากถอนโคนโค่นล้มไป ไม่รู้ว่าวันไหนน้ำจะมาพัดบ้านพังลงทะเล ชาวบ้านแต่ละคนมีที่ดินแค่นิดหน่อย ถ้าน้ำทะเลกัดเซาะไปหมด ไม่รู้ว่าเขาจะไปอยู่ที่ไหน

“ขณะนี้ก็พยายามหาผู้หลักผู้ใหญ่ให้เขามาแก้ปัญหาที่ยั่งยืนให้ชาวบ้าน เพราะตรงนี้ติดพื้นที่อุทยานฯ หากจะทำอะไรก็ต้องขออนุญาตหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือรัฐมนตรีท่านไหนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา ก็ขอให้ลงมาดูแลความทุกข์ของชาวบ้านด้วย และตนต้องวอนไปถึงนายกรัฐมนตรีให้ช่วยเหลือชาวบ้านด้วย เพราะชาวบ้านเดือดร้อนหนักมาก ซึ่งบริเวณตรงนี้ถ้าเป็นช่วงมรสุม คลื่นจะสูงถึง 4 เมตร”


นายอาสาน บอกเพิ่มเติมว่า ด้วยที่ดินซึ่งชาวบ้านอาศัยอยู่เป็นเอกสารสิทธิ น.ส.3 เมื่อทะเลรุกเข้ามาในที่ดินของชาวบ้าน ทำให้ที่ดินตามเอกสารสิทธิตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยน้ำทะเล และชาวบ้านเริ่มมีปัญหาอีก เมื่อกรมเจ้าท่าเข้ามาจัดเก็บภาษีรุกล้ำลำน้ำ รายละ 7,000-10,000 บาท ซึ่งความเป็นจริงนั้นทะเลเป็นผู้บุกรุกที่ดินชาวบ้าน แต่ชาวบ้านต้องจ่ายค่ารุกล้ำลำน้ำ จึงอยากให้หน่วยงานมาตรวจสอบความจริงให้ชาวบ้านด้วย

นายอับดุลรอหีม อายุ 48 ปี ชาวบ้าน บ้านหลังเขา หมู่ 5 ต.เกาะลิบง บอกว่า ที่ดินตรงนี้เป็น น.ส.3 เมื่อก่อนหลักหมุด น.ส.3 อยู่ไกลออกไปอีก แต่พอน้ำทะเลรุกเข้ามา ที่ดินส่วนนั้นก็หายไป แม้ชาวบ้านจะร้องเรียนให้แก้ปัญหา แต่กลับให้ความช่วยเหลือเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ใช้ไม้ปักทำแนวกันคลื่น แต่ด้วยความที่คลื่นลมแรง ไม่นานแนวนั้นก็พังเหมือนเดิม แต่ละปีน้ำทะเลจะกัดเซาะที่ดินเข้ามา 3 เมตร และรุกเข้ามาทุกปี อยากให้สร้างแนวกันคลื่นที่แข็งแรง กันคลื่นได้ ที่ผ่านมามีหน่วยงานเรียกประชุมที่จะแก้ปัญหา แต่ประชุมแล้วก็เงียบ ไม่มาแก้ปัญหาสักที ชาวบ้านก็ไม่อยากไปประชุมแล้ว เพราะมาประชุมแล้วหายไป

ด้าน น.ส.มณทิพย์ อายุ 47 ปี ชาวบ้าน บ้านหลังเขา หมู่ 5 ต.เกาะลิบง บอกว่า ชาวบ้านเดือดร้อนมาก อยากให้หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบ ช่วยเหลือชาวบ้านให้จริงจัง เพราะชาวบ้านต้องอยู่กันอย่างยากลำบาก. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

แบงก์ชาติเตรียมแถลงบ่ายนี้ ปมผลกระทบ “บัญชีม้า”

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)-สมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูลบ่ายวันนี้ กรณีปัญหาผลกระทบประชาชน จากการระงับธุรกรรมเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้า ด้านนักวิเคราะห์ เปรียบเทียบปัญหาไทย-จีน หวังรัฐบาลใหม่เอาจริง ธปท.แจ้งว่า บ่ายวันนี้ เวลา 13.00-14.30 น. ธปท.จะมีการชี้แจงรายละเอียดการระงับธุรกรรมในเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้าให้แก่สื่อมวลชน ณ ห้องแถลงข่าว อาคาร 2 ธปท. โดยนางดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน นางสาวอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ธปท. และนายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูล การชี้แจงดังกล่าว ก็เป็นเรื่องต่อเนื่องจากวานนี้ที่มีการประชุมร่วมกันของหน่วยงานรัฐ-ธปท.-สมาคมธนาคารไทย เพื่อร่วมปลดล็อกปัญหา ปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต หลังจากมีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ตามขั้นตอน ทางธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย